ตร.แถลงปิดคดี "ครูยุ่น" แจ้ง 8 ข้อหา ทำร้ายร่างกาย-ใช้แรงงานเด็ก

อาชญากรรม
24 พ.ค. 66
14:44
736
Logo Thai PBS
ตร.แถลงปิดคดี "ครูยุ่น" แจ้ง 8 ข้อหา ทำร้ายร่างกาย-ใช้แรงงานเด็ก
ตำรวจแถลงปิดคดี "ครูยุ่น" เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก 8 ข้อหา จากประเด็นใช้กำลังลงโทษเด็กในมูลนิธิและให้เด็กไปทำงานภายในรีสอร์ต ความผิดเกี่ยวกับสถานสงเคราะห์ และการเรี่ยไรเงิน

จากกรณีเมื่อช่วยปลายเดือน ต.ค.2565 ที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ นายมนตรี สินทวิชัย หรือ ครูยุ่น เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก ที่กำลังลงโทษเด็กในมูลนิธิและให้เด็กไปทำงานภายในรีสอร์ต จนมีผู้ปกครองและเด็กออกมาร้องทุกข์กับหน่วยงานและขอให้ตำรวจเข้าไปช่วยเหลือ และขยายผลดำเนินคดี

วันนี้ (24 พ.ค.2566) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบ.ตร. เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำพยานกว่า 100 ปาก ทั้งผู้ปกครอง เด็ก และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อมูลว่า ภายในมูลนิธิดังกล่าวมีเด็กในการดูแลทั้งหมด 58 คน แต่มีเด็กจำนวน 33 คน ที่ถูกครูยุ่นลงโทษ ด้วยการทุบตีโดยการใช้เหล็ก ไม้ไผ่ เข้าที่ศีรษะหลายครั้ง รวมถึงมีการบีบคอและลากเด็กไปกดน้ำที่อ่านจนสำลักน้ำ รวมถึงยังมีการบังคับเด็กไปทำงานที่รีสอร์ต โดยให้ค่าจ้างเพียงแค่ 40 - 60 บาทต่อวัน และหากไม่ทำก็จะถูกหักเงินค่าขนมในแต่ละวันนั้น

ทางพนักงานสอบสวน สภ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ได้แจ้งข้อหา ครูยุ่น 8 ข้อหา เกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายเด็ก และความผิดตาม พ.ร.บ.ค้ามนุษย์ คือ บังคับใช้แรงงานเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และใช้แรงงานเด็กอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่ได้ค่าแรงขั้นต่ำรวมถึงคดีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องเป็นภรรยา และพนักงานในมูลนิธิ ซึ่งได้สรุปสำนวนทั้งหมดส่งให้สำนักอัยการไปแล้ว

ส่วนการการเปิดมูลนิธิคุ้มครองเด็กดังกล่าวตำรวจได้ดำเนินคดีกับนายแก้วสรร ฐานะประธานกรรมการของมูลนิธิคุ้มครองเด็ก ในความผิดฐานเป็นพูดได้รับใบอนุญาตจัดตั้งสถานสงเคราะห์ ไม่ยื่นขอแต่งตั้งผู้ปกครองสวัสดิกภาพเด็กแต่ยังกระทำการเป็นผู้ปกครองสวัสดิภาพ ซึ่งเป็นการขัดต่อกฎหมายตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ขัดต่อศีลธรรมอันดี ทอดทิ้งไม่ดูแลเด็กเล็ก เป็นภยันตรายต่อความสงบสุขของประชาชน

ก่อนหน้านี้ทาง จ.สมุทรสงคราม ได้มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตสถานสงเคราะห์เด็กเอกชน สั่งปิดชั่วคราวไปแล้ว แต่ทางกระทรวงมหาดไทย เตรียมทำหนังสือยื่นขอปิดมูลนิธิถาวร ให้กับอัยการ ส่งศาลพิจารณาอีกครั้ง โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผยอีกว่า การเปิดมูลนิธิในลักษณะนี้ต้องเสนอให้มีการปิดทั้งหมดเพื่อความสงบสุขและเป็นการดูแลเด็กเล็ก และเพื่อให้เป็นกรณีตัวอย่างให้แก่สถานสงเคราะห์อื่น ๆ หากทำผิดกฎหมายต้องยกเลิก และดำเนินการให้ถูกต้อง

นอกจากนี้ ยังพบความเกี่ยวกับนำตู้บริจาคที่พบว่าไปเรี่ยไรเงินกว่า 300 จุด ทั่วประเทศ ของมูลนิธิคุ้มครองเด็กดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.เรี่ยไรเงิน เพราะเป็นการตั้งตู้บริจาคโดยมิได้รับอนุญาต และส่งเส้นทางการเงินให้ทางสรรพากรตรวจสอบแล้ว ซึ่งหากตรวจสอบแล้วไม่เข้าข่ายเงินบริจาคก็ต้องเสียภาษี และหากนำไปใช้ส่วนตัวก็ต้องดูว่าจะเข้าความผิดฐานใด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"ครูยุ่น" มูลนิธิคุ้มครองเด็ก เปิดใจเคลียร์ทุกคำถาม ปมทำร้ายเด็ก - ใช้แรงงาน

"ครูยุ่น" รับทราบข้อหาคดีทำร้ายเด็ก-ให้การปฏิเสธ

ตร.ปล่อยตัว "ครูยุ่น" ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ประกันตัว

พม.รับดูแลเยาวชน 29 คน จากสถานสงเคราะห์ จ.สมุทรสงคราม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง