ก้าวไกล เล็งฟ้อง กกต.มาตรา 157 ชี้ทำผิดขั้นตอน-เร่งรีบส่งศาล รธน.ปมหุ้น itv "พิธา"

การเมือง
12 ก.ค. 66
13:30
2,272
Logo Thai PBS
ก้าวไกล เล็งฟ้อง กกต.มาตรา 157 ชี้ทำผิดขั้นตอน-เร่งรีบส่งศาล รธน.ปมหุ้น itv "พิธา"
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เลขาฯ พรรคก้าวไกล แถลง กกต.ดำเนินการไม่ถูกต้องตามระเบียบ เร่งรีบส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปมถือหุ้นไอทีวี ถามเหตุใดไม่ให้ "พิธา" ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ยันไม่สามารถนำคดีกู้เงินพรรคอนาคตใหม่มาเทียบเคียงกับคดีถือหุ้นไอทีวีได้ เล็งฟ้อง กกต. ม.157

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจสมาชิกภาพ ส.ส.ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล สิ้นสุดลงหรือไม่ และขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ชั่วคราวกรณีการถือครองหุ้นไอทีวี ว่า พรรคก้าวไกลเห็นว่า กกต. ดำเนินการไม่ถูกต้องตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวนไต่สวนและวินิจฉัยชี้ขาด

นายชัยธวัช กล่าวว่า พรรคก้าวไกลเห็นว่ากรณีนี้ กกต.ดำเนินการไม่ถูกต้องตามขั้นตอนที่ควรจะเป็นตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวนไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด ในประเด็นนี้ทางประธาน กกต.ได้เคยอธิบายกับสื่อมวลชนว่า คดีนี้เป็นการดำเนินการของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 มิใช่การดำเนินการสืบสวนไต่สวนเกี่ยวกับกฎหมายการเลือกตั้งและพรรคการเมือง

ซึ่งจะต้องแจ้งข้อกล่าวหากับนายพิธาต่อ และในกรณีที่ กกต.เห็นว่าสมาชิกภาพของ ส.ส.คนใดมีเหตุสิ้นสุดลงให้ส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ อ้างอิงว่าสอดคล้องคดีเงินกู้ยุบพรรคอนาคตใหม่

พรรคก้าวไกลเห็นว่าเมื่อพิจารณาระเบียบต่าง ๆ ยืนยันว่า สิ่งที่ประธาน กกต.กล่าว และมติ กกต.ทั้งหมดไม่ถูกต้อง ด้วยเหตุผลดังนี้

1.คดียุบพรรคอนาคตใหม่ เป็นกรณีที่กฎหมายพรรคการเมือง ม.93 กำหนดให้นายทะเบียนพรรคการเมืองรวบรวมข้อเท็จจริงและหลักฐานพร้อมเสนอความเห็นต่อ กกต. พิจารณาตามหลักเกณฑ์และวิธีพิจารณาที่กำหนดไว้ แต่คดีหุ้นไอทีวี ดำเนินการตามมาตรา 82 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งต่างกันจากคดีเงินกู้ จึงไม่อาจนำแนวทางดำเนินการคดีเงินกู้มาใช้กับคดีไอทีวีได้

2.ในคดีตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเงินกู้ยุบพรรคอนาคตใหม่ เป็นคดีที่คณะกรรมการสืบสวนของ กกต.มีมติว่าข้อกล่าวหาของพรรคอนาคตใหม่ไม่มีมูล แต่ กกต.ไม่เห็นด้วยกับคณะกรรมการสืบสวนของตัวเอง เมื่อมีความเห็นแย้งกรณีนี้คณะกรรมการสืบสวนไต่สวนของ กกต.จึงไม่แจ้งข้อกล่าวหากับพรรคอนาคตใหม่แล้ว กกต.ก็ยื่นส่งศาลรัฐธรรมนูญ

หากคดีหุ้นไอทีวีคณะกรรมการสืบสวนไต่สวน กกต.เห็นว่ามีมูลต้องแจ้งข้อกล่าวหาตามระเบียบ กกต.ข้อ 53-54 ต่อนายพิธาลิ้ม เจริญรัตน์ ให้ครบถ้วนเสียก่อน ที่คณะกรรมการสืบสวนจะทำความเห็นเสนอ เลขาธิการ กกต.และ กกต.

ส่วนความเห็นในเรื่องนี้หุ้นไอทีวีเป็นกรณีความปรากฏที่ให้ กกต.ตรวจสอบว่านายพิธาฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 42, 101, 48 อันเป็นเหตุให้ กกต.ร้องตาม ม.82 และ ข้อ 85 กำหนดไว้ว่า ภายหลังการประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส.แล้ว กกต.เห็นว่า ส.ส. หรือ ส.ว.ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม ให้ส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย โดยเห็นว่าควรเปิดโอกาสให้นายพิธาได้ชี้แจง

เลขาธิการพรรคก้าวไกล ยืนยันว่า กกต.ต้องปฏิบัติตามระเบียบให้ครบถ้วน การที่เสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญอย่างรีบเร่ง ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา และไม่เปิดโอกาสให้มีการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าเป็นการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยพรรคก้าวไกลเห็นว่า กกต.จงใจเลือกปฏิบัติตามระเบียบบางส่วน อันเป็นการปฏิบัติและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157

มีข้อสังเกตด้วยว่าเหตุที่ กกต.เร่งดำเนินการคดีหุ้นไอทีวีอย่างผิดปกติ ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีข้อพิรุธและข้อถกเถียงในสังคม ว่า ไอทีวียังดำเนินธุรกิจสื่ออยู่หรือไม่ จงใจทำรายงานผู้ถือหุ้นและเอกสารไม่ตรงกับข้อเท็จจริงหรือไม่ แต่ กกต.กลับรีบประชุมติดกัน 3 วัน เพื่อเร่งข้อสรุปว่ามีหลักฐานเพียงพอตามว่านายพิธามีความผิด

ผมทราบมาว่า กกต.ได้เชิญผู้บริหารไอทีวีมาชี้แจงจริงหรือไม่ แล้วผู้บริหารดังกล่าวได้ให้ข้อมูลว่าไอทีวีไม่ได้ดำเนินธุรกิจสื่อ ดังนั้นแม้ กกต.อ้างเหตุผลว่าไม่จำเป็นต้องแจ้งข้อกล่าวหาต่อคุณพิธา แต่คำถามคือในขณะที่ กกต.มีเวลาเชิญผู้บริหารไอทีชี้แจงแล้วคืออะไรที่ กกต.ไม่ยอมเสียเวลาให้คุณพิธาได้รับทราบข้อกล่าวหา และมีโอกาสชี้แจง

นายชัยธวัช ระบุว่า หากผู้บริหารไอทีวี ชี้แจงแล้วว่า ไอทีวีไม่ได้ดำเนินธุรกิจสื่อมวลชน กกต.ใช้หลักฐานอะไรที่เชื่อว่ามีความผิดตามยื่นคำร้อง และประธาน กกต.ลงนาม ส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ทันต่อการประชุมศาลรัฐธรรมนูญช่วงบ่าย จึงอดไม่ได้ที่สังคมจะตั้งคำถาม ว่า กกต.มีเจตนาที่จะส่งลูกที่ศาลรัฐธรรมนูญ นำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมศาลทันทีในบ่ายวันนี้ เพื่อให้นายพิธาถูกสั่งยุติปฏิบัติหน้าที่วันนี้ ก่อนโหวตนายกรัฐมนตรีหรือไม่

ตั้งข้อสังเกตว่า สิ่งที่เกิดขึ้นโดยใช้นิติสงคราม ใช้บทบาทขององค์กรอิสระ รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญ ถูกตั้งข้อสงสัยมาโดยตลอดว่า ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของกลุ่มการเมืองใดหรือไม่ และกรณีที่เกิดขึ้นในวันนี้และหลังจากนี้จะเป็นข้อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหาเหล่านั้นจริง ๆ หรือไม่ ในฐานะผู้แทนราษฎรเตือนประชาชนไปยัง กกต.และองค์กรอิสระทั้งหมด ว่าอย่าลุแก่อำนาจจนเกินขอบเขต เพราะเมื่อวันใดการเมืองกลับมาปกติ ประชาชนจะลงโทษพวกท่าน

ไม่ว่าบ่ายวันนี้จะเกิดอะไรขึ้นที่ศาลรัฐธรรมนูญ ส.ส.พรรคก้าวไกล รวมถึง ส.ส. 7 พรรคการเมือง ยืนยันจะไม่กระทบการเสนอชื่อนายพิธาลิ้ม เจริญรัตน์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ในวันพรุ่งนี้ (13 ก.ค.) แม้ชงลูกรับลูกรวดเร็ว โดยชี้ว่านายพิธามีสิทธ์ 100 % ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ และผู้ที่ได้รับคะแนนเสียงเป็นอันดับหนึ่งจากการเลือกตั้งของประชาชน ขอประชาชนอย่าพึ่งตื่นตระหนก ย้ำความชอบธรรมสูงสุดคืออำนาจของประชาชน ยืนยันจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด

เลขาธิการพรรคก้าวไกล ยอมรับว่า หากเรื่องนี้เป็นกระบวนการที่หวังผลทางการเมือง มีการบิดเบือนเจตนารมณ์ในการบังคับใช้กฎหมายและข้อบังคับต่าง ๆ ย่อมต้องหวังผลทางการเมือง แต่เชื่อว่าจะมี ส.ว.มากเพียงพอที่มีสติ ความเป็นธรรม และวิจารณญาณเห็นว่าข้อกล่าวหาเหล่านี้ยังไม่สามารถเป็นบทสรุปว่านายพิธามีความผิด และจะใช้เอกสิทธิของตัวเอง

นายชัยธวัช ระบุว่า กำลังพิจารณาฟ้อง กกต.ขอพิจารณาแง่กฎหมาย ทั้งนี้ ส.ส.พรรคก้าวไกลที่ร่วมแถลงต่างมีสีหน้าที่เคร่งเครียด

ติดตาม ถ่ายทอดสด และ รายการพิเศษ “เลือกนายกฯ เลือกอนาคตประเทศไทย” ในวันที่ 13 ก.ค. ทางไทยพีบีเอส ตั้งแต่เวลา 08.00-12.00 น.

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ก้าวไกล โต้ กกต. ส่งศาล รธน. ปม "พิธา" ถือหุ้น ผิดขั้นตอน ไม่เปิดช่องให้ชี้แจง 

ด่วน! กกต.เรียกพบ "พิธา" คาดปมวินิจฉัยหุ้นสื่อ ITV 

“สุริยะ-สมศักดิ์” ปัดล็อบบี้ ส.ว.ช่วยโหวต "พิธา" ชี้แจกกล้วยล้าสมัย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง