“เลิกขู่” ถึงเวลาถกจริง งบฯ 2567 “ประชาธิปัตย์” จับมือ “ก้าวไกล” ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า งบประมาณ 3.48 ล้านล้านบาท ตามร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2567 จะเป็นกลไกและเครื่องมือสำคัญของการขับเคลื่อนประเทศ รวมทั้งนโยบายของรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ

ไม่รวมเงินกู้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 5 แสนล้านบาท หากสามารถฝ่าด่านกฤษฎีกาและข้อกฎหมายต่าง ๆ ได้ จะเป็นงบฯ คนละก้อนต่างหาก

อ่านข่าว : "ศิริกัญญา" ชี้ดิจิทัลวอลเล็ตล่องหน ไม่มีในงบปี 67

จึงเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่ต้องท้วงติงตรวจสอบ ซึ่งจะทำได้ดีเฉพาะในวาระที่ 1 และในชั้นแปรญัตติเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นจะเป็นชั้นกรรมาธิการร่วม ตัวแทนจากทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านจะแย่งชิงกันเข้าเป็นกรรมาธิการ และอนุกรรมาธิการ

ซึ่งจะมีส่วนได้เสียทั้งโดยตรงและโดยอ้อม กับเรื่องงบประมาณ ดังที่มีข่าวปรากฏให้เห็นอยู่เนือง ๆ อาทิ กรรมาธิการเรียกตบทรัพย์จากอธิบดีหรือข้าราชการประจำ แลกกับการผ่านงบให้ หรือมีการจอง มีแลกเปลี่ยน หรือแม้แต่ขายโครงการข้ามจังหวัดข้ามภาค เกิดการตรวจสอบ นำไปสู่ความฉาวโฉ่ อย่างโปรเจ็คสร้างสนามฟุตซอลในหลายจังหวัด

แม้ในเบื้องต้น จะมีเสียงขู่กรณีห้ามอภิปรายพาดพิง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หลังจากคนในพรรคเพื่อไทยออกมาสำทับ ปรามถึงขั้นอาจถูกฟ้องร้อง เพราะเป็นการละเมิด แต่นายวัน มูหะหมัด นอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร พูดฟันธงชัดเจนแล้วว่า ถ้าเกี่ยวกับเรื่องงบประมาณ สามารถอภิปรายได้

อ่านข่าว : "ชัยธวัช" อัดงบฯ ปี 2567 เบี้ยหัวแตก หัวข้อสวยหรู ไส้ในไร้เป้าหมาย

และเป็นไปตามคาด เมื่อบางจังหวะ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ทำหน้าที่ประท้วงเรื่องนี้ และนำไปสู่การปะทะคารมพอหอมปากหอมคอกับ สส.ฝ่ายค้าน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นคนชี้แจงร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวต่อที่ประชุมสภาผู้แทนฯ ชี้ให้เห็นที่มาที่ไปของร่างฉบับนี้ เพื่อเสริมขีดความสามารถของประเทศ ส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่จะดีขึ้น ขณะที่ภาครัฐต้องการพลิกฟื้นเศรษฐกิจกระตุ้นการลงทุนพื้นฐาน การท่องเที่ยวในทุกมิติ

ก่อนที่ฝ่ายค้าน ประเดิมจากนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกลและผู้นำฝ่ายค้านในสภา ที่ระบุชัดงบปี 2567 ไม่ได้ตอบโจทย์ประเทศ และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เปรียบเป็นงบฯ เป็ดง่อย ที่ไม่สามารถจะขับเคลื่อนประเทศได้อย่างที่กล่าวอ้าง

ถือเป็นครั้งแรกที่พรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยได้ชื่อว่ามักทำหน้าที่ได้ดีเมื่อเป็นฝ่ายค้าน กับพรรคก้าวไกลที่ สส.ของพรรค มักได้รับการยอมรับ เรื่องทำการบ้านได้เข้มข้นทั้งการตั้งกระทู้สด และอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

อ่านข่าว : "เศรษฐา" ร่ายยาวแจงใช้งบปี 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท

จะผนึกกำลังทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านร่วมกัน ซึ่งหากทั้ง 2 พรรคทำหน้าที่เต็มร้อย อาจทำให้สภาเดือดได้เช่นกัน เว้นแต่พรรคที่รอเสียบร่วมรัฐบาล จะเป็นแบบท่าดีทีเหลว เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

งบประมาณที่ถูกจับตา และเป็นเป้าสำคัญของฝ่ายค้าน คงหนีไม่พ้นงบของกองทัพ กระทรวงกลาโหม และงบกลาง ที่ต่างเพิ่มขึ้น สูงกว่าสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

งบกระทรวงกลาโหม เพิ่มขึ้นจาก 194,000 ล้านบาท เป็น 198,000 ล้านบาท ส่วนงบกลาง ที่ถูกวิพากษ์ว่า เป็นอาวุธลับสำคัญของนายกรัฐมนตรี ที่ใช้ในการสร้างคะแนนนิยม เพราะสามารถอนุมัติงบไปใช้ในโครงการต่าง ๆ ที่อาจเป็นเรื่องด่วนฉุกเฉิน เพิ่มจาก 590,000 ล้านบาท เป็น 606,765 ล้านบาท

ขณะที่จุดบอดของงบกลางคือ ไม่สามารถตรวจสอบรายละเอียดงบได้ จึงถูกมองว่า เป็นเสมือนการตีเช็คเปล่าเหมือนงบกองทัพที่มักอ้างเป็น “งบลับ“ ที่ส่วนหนึ่งพรรคก้าวไกล เคยอภิปรายโจมตีว่า ถูกนำไปใช้เป็นงบฯ ไอโอ หรือปฏิบัติการข่าวสาร

อ่านข่าว : “ชัยธวัช” ผิดหวังรัฐบาลจัดงบฯ ปี 2567 ใหม่ 3 เดือน ไม่สอดคล้องนโยบาย

การอภิปรายวันแรก เป็นเสมือนการอุ่นเครื่อง แต่อาจมีเรื่องร้อนแรงสร้างความฮือฮาได้ในช่วงเย็นถึงค่ำที่เป็นช่วงไพร์มไทม์ และในอีก 2 วันที่เหลือ คอการเมืองจึงไม่ควรพลาดหรือชิงด้อยค่าไปเสียก่อน

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา