ผู้ส่งออก ห่วง “ลานีญา” ฉุดราคาข้าวครึ่งปีหลัง

วันนี้( 31 ก.ค.2567) นาย เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวถึงสถานการณ์ส่งออกข้าวครึ่งปีหลัง ยังมีปัจจัยที่น่าห่วง โดยเฉพาะการเข้าสู่ช่วงลานีญาที่ทำให้มีปริมาณน้ำฝนมาก ส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มขึ้น ซึ่งจะต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า

ผลผลิตที่เพิ่มขึ้น มีผลต่อราคาข้าวปรับตัวลดลง และคาดว่าการแข่งขันจะสูงขึ้นในขณะที่ต้นทุนการปลูกข้าวของไทยยังสูงกว่าคู่แข่ง พันธุ์ข้าวยังมีน้อย ไม่ตอบโจทย์กับตลาด

นอกจากนี้ ต้องจับตาอินเดีย ทบทวนนโยบายการห้ามส่งออกข้าวขาว จะกระทบตลาดค้าข้าวโลก โดยเฉพาะเรื่องราคา ซึ่งจะเป็นปัญหาต่อเนื่องไปถึงปีหน้า และในระยะยาว จึงอยากให้ รัฐบาล แก้ไขปัญหาที่สะสมมานานกว่า 30-40 ปี ทั้งในเรื่องต้นทุน การเพิ่มผลผลิตต่อไร่

นายเจริญ กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญ คือ รัฐบาลควรเน้นหนักไปที่การพัฒนาพันธุ์ข้าว เริ่มจากการปลดล็อกแก้ไขกฎหมายที่ยังห้ามการนำเข้าพันธุ์ข้าวจากต่างประเทศมาศึกษา เพื่อพัฒนาให้ตรงกับความต้องการของตลาด โดยไม่ห่วงเฉพาะราคาข้าวเปลือกเพียงอย่างเดียว เพื่อให้ข้าวไทย ยังแข่งขันได้ เป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวอันดับต้นๆ ของโลก

ทั้งนี้สมาคมผู้ส่งออกข้าวคาดการณ์การส่งออกข้าวไทย 6 เดือนจากนี้ ซึ่งได้ประเมินร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ตั้งเป้าหมาย 8.2 ล้านตัน มีมูลค่ากว่า 5,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเป้าเดิม 7.5 ล้านตัน เฉลี่ยต่อเดือนหากทำได้ 600,000-700,000 ตัน จะทำให้ยอดส่งออกข้าวไทยเกินกว่าเป้าหมายเป็น 8.5 ล้านตัน ได้เนื่องจากหลายประเทศเช่น อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ มีความต้องการนำเข้าข้าว

สำหรับการส่งออกข้าวไทยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-26 ก.ค.67 สามารถส่งออกไปแล้วกว่า 5.7 ล้านตัน หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 3,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ งการข้าวไปเก็บสตอกไว้บริโภคภายในประเทศ

ส่วนการคาดการณ์ปริมาณการส่งออกข้าวโลก จากข้อมูล ของกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา หรือ USDA ในปีนี้ อินเดีย ยังคงเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ที่ปริมาณ 17 ล้านตัน รองลงมาคือไทย ปริมาณ 8.5 ล้านตัน และเวียดนาม 8.3 ล้านตัน แต่คาดการณ์ว่า ในปีหน้า ไทยและเวียดนามจะส่งออกลดลงเหลือเพียง 7.5 ล้านตัน ส่วนอินเดีย ส่งออกข้าวเพิ่มขึ้นถึง 18 ล้านตัน

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ปีนี้มีโอกาส ที่ไทย จะส่งออกข้าวได้สูงถึง 8.5-9 ล้านตัน เกินกว่าเป้าหมายที่ 8.2 ล้านตัน หากสถานการณ์ยังไม่เปลี่ยนแปลง เพราะค่าเฉลี่ยการส่งอยู่ข้าวแต่ละเดือนจะไม่ต่ำกว่า 600,000 ตัน ซึ่ง 6 เดือนที่เหลือ หากส่งออกได้เดือนละ 700,000 ตัน

เพราะช่วงปลายปีจะเป็นช่วงที่ความต้องการเพิ่มขึ้น รวมกับ 5 ล้านตันครึ่งปีแรก ภาพรวมการส่งออกข้าวปีนี้ ก็จะเกิน 8.5 ล้านตัน เพราะได้รับอานิสงส์ จากกรณีอินเดีย ยังห้ามการส่งออกข้าวขาว รวมทั้งความต้องการข้าวในหลายประเทศ ยังมีอยู่สูงจาก ปัญหาภัยแล้งช่วงก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ จะต้องติดตามสถานการณ์ในปีหน้าเนื่องจากคาดว่า ภาพรวมการผลิตข้าวจะเพิ่มขึ้นทุกประเทศ รวม 528 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 1.4% ตามสภาพอากาศที่มีฝนตกมากขึ้น ซึ่งมีผลกับการแข่งขันในด้านราคา และประเทศผู้นำเข้าหลักจะนำเข้าข้าวลดลง

โดยเฉพาะอินโดนีเซีย ที่กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ คาดว่าปีหน้าจะนำเข้าข้าว เพียง 1.5 ล้านตัน จากปีนี้ที่จะนำเข้าข้าว 3.5 ล้านตัน และหากอินเดีย กลับมาส่งออกข้าวขาว จะกระทบตลาดการค้าข้าวโลกแน่นอน นอกจากนี้ ยังมีปัญหาในเรื่องความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่มีผลต่อการกำหนดราคาข้าวเพื่อการส่งออกอีกด้วย

อ่านข่าว:

ถอดบทเรียน "สินค้าจีน" รุกตลาดทะลักไทย

“เผ่าภูมิ” โต้ “ทางรัฐ” ไม่ล่มปิดรีเซ็ตระบบรอลงทะเบียน 8 โมง

เงินบาทอ่อน อานิสงส์ส่งออกข้าวไทย พณ.ปรับเป้าใหม่ 8.2 ล้านตัน