Thailand Web Stat
ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ไม่ใช่แค่ค่าปรับ สิ่งที่ลูกหนี้ "กยศ." ต้องรู้-รับผิดชอบ

สังคม
05:05
1,751
ไม่ใช่แค่ค่าปรับ สิ่งที่ลูกหนี้ "กยศ." ต้องรู้-รับผิดชอบ
อ่านให้ฟัง
12:09อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ลูกหนี้ "กยศ." ต้องรู้ กู้แล้วไม่คืนจะเกิดอะไรขึ้น ด้าน กยศ.เตือน ชักชวนเบี้ยวจ่ายหนี้ผิดกฎหมาย รู้ไว้ก่อนใครไม่ชำระเงินคืนตามกำหนดจะทำให้เกิดภาระดอกเบี้ย-เสียเบี้ยปรับจากการผิดนัดชำระหนี้ รวมถึงถูกฟ้องร้องบังคับคดีตามกฎหมาย ย้ำผู้กู้ยืมต้องรับผิดชอบ

กลายเป็นประเด็นทำโซเซียลถกสนั่นในช่วงที่ผ่านมา หลังมีคนโพสต์เฟซบุ๊กอ้างตัวเป็นผู้กู้ยืมเงิน กยศ. รีวิวการบิดหนี้ กยศ. กว่า 500,000 บาท ชักชวนให้ผู้กู้คนอื่นทำตาม ไม่ต้องชำระหนี้คืน กยศ. 

ในเรื่องนี้ กยศ. หรือ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ได้ออกมาเตือนทันที ว่า การชักชวนหรือสนับสนุนให้ผู้อื่น "หลีกเลี่ยงการชำระหนี้" หรือ "โอนทรัพย์สินเพื่อหลีกเลี่ยงการบังคับชำระหนี้" ถือเป็นการกระทำที่ขาดจิตสำนึกความรับผิดชอบและผิดกฎหมาย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อนักเรียน นักศึกษารุ่นน้อง

กยศ.ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ ให้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา ใช้เงินจากงบประมาณแผ่นดินและเงินที่ได้รับชำระหนี้ของผู้กู้ยืมรุ่นพี่กลับมาเป็นทุนหมุนเวียนเพื่อนำไปสร้างโอกาสทางการศึกษา ให้ผู้ที่ต้องการศึกษาต่อเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีดอกเบี้ยต่ำ ร้อยละ 1 ต่อปี มีเวลาผ่อนชำระถึง 15 ปี รวมทั้งมีเงื่อนไขการผ่อนชำระหนี้ที่ยืดหยุ่น ดังนั้น การชำระหนี้จึงเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบที่ผู้กู้ยืมทุกคนควรปฏิบัติ

ข้อมูลอัปเดต 2567 กยศ. มีผู้กู้ยืมเงินกองทุน ณ วันที่ 30 ก.ย. จำนวน 7,112,733 คน แบ่งเป็น

  • อยู่ระหว่างการชำระหนี้ 3,614,915 คน หรือ คิดเป็น 51%
  • อยู่ในช่วงปลอดหนี้ 1,492,743 คน หรือ คิดเป็น 21%
  • ผู้ชำระหนี้เสร็จสิ้น 1,931,321 คน หรือ คิดเป็น 27%
  • เสียชีวิต/ทุพพลภาพ 73,754 คน หรือ คิดเป็น 1%  

อ่านข่าว : ลูกหนี้เฮ ! กยศ.ปรับคำนวณยอดหนี้ใหม่ ให้ผู้กู้ยืมกว่า 2.98 ล้านคน

"เบี้ยวจ่ายหนี้" อาจมีความผิดอาญา "ฐานโกงเจ้าหนี้"

อย่างในกรณีที่เป็นข่าว "การเบี้ยวหนี้" ด้วยการ "โอนทรัพย์สินไปให้ผู้อื่น" โดยมีเจตนาไม่ให้ กยศ.ได้รับชำระหนี้นั้น นอกจาก กยศ.จะสามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอเพิกถอนการโอนทรัพย์สินนั้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 237 แล้ว "ผู้กู้ยืมเงิน" อาจมีความรับผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 350 ฐานโกงเจ้าหนี้ ด้วย

ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 350 ที่กำหนดว่าผู้ใดเพื่อมิให้เจ้าหนี้ของตนหรือของผู้อื่นได้รับชำระหนี้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน ซึ่งได้ใช้หรือจะใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลให้ชำระหนี้ ย้ายไปเสีย ซ่อนเร้น หรือโอนไปให้แก่ผู้อื่นซึ่งทรัพย์ใดก็ดี แกล้งให้ตนเองเป็นหนี้จำนวนใดอันไม่เป็นความจริงก็ดี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ ผู้ที่ให้ความช่วยเหลือให้ความสะดวกในการกระทำความผิด จะเข้าข่ายผู้สนับสนุนซึ่งจะมีความผิดและได้รับโทษทางอาญาเช่นกัน 

ที่ผ่านมา กยศ.ดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา ในความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ไปแล้วกว่า 40 คน

นี้จึงเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งว่าไม่ควรที่จะทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง เพราะสิ่งที่ตามมาอาจต้องรับผิดชอบกับผลของการกระทำนั้น ๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และหากผู้กู้ยืมคนใด ที่มีปัญหาทางการเงิน และไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ในประเด็นนี้ก็มีทางออก โดยสามารถติดต่อกับ กยศ.เพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้เพื่อขยายระยะเวลาการชำระหนี้ได้ แล้ว โดยไม่ต้องไปคิดเรื่องเบี้ยวหนี้ ทำทุกอย่างให้ถูกต้องดีกว่าแน่นอน 

จากนี้จะพาไปดูหลักเกณฑ์การชำระหนี้ หากใครไม่ชำระเงินคืนตามกำหนดจะเกิดอะไรขึ้นบ้างจากการผิดนัดชำระหนี้ รวมถึงถูกฟ้องร้องบังคับคดีตามกฎหมาย นั้นเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนไหน

หากผู้กู้ยืมไม่ชำระเงินคืนตามกำหนดจะทำให้เกิดภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นและเกิดเบี้ยปรับจากการผิดนัดชำระหนี้ รวมถึงอาจถูกฟ้องร้องบังคับคดีตามกฎหมาย

ลูกหนี้ต้องรู้ - รับผิดชอบ กู้ "กยศ." ไม่คืนจะเกิดอะไรขึ้น 

มาถึงตรงนี้ หลายคนคงอยากรู้ว่า หากไม่ได้ชำระเงินคืนตามกำหนดจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง โดยเงื่อนไขการชำระหนี้ วันครบกำหนดชำระ ของ กยศ. คือ "วันที่ 5 กรกฎาคม ของทุกปี" ซึ่งผู้กู้ยืมมีหน้าที่ชำระเงินคืน กยศ. ดังนี้ 

  • หลังเรียนจบการศึกษา หรือเลิกการศึกษาแล้ว ครบระยะเวลาปลอดหนี้ตามเงื่อนไขของลักษณะการกู้ยืมที่กองทุนกำหนด
  • หากผู้กู้ยืมยังอยู่ระหว่างการศึกษา แต่ไม่ได้กู้ยืมเงิน กยศ. ต้องแจ้งสถานภาพให้กองทุนทราบ หากไม่แจ้งสถานภาพจะถือว่าเป็นผู้ครบกำหนดชำระหนี้ ตามเงื่อนไขที่กองทุนกำหนด  
  • หากครบกำหนดชำระหนี้แล้วยังไม่มีงานทำ สามารถขอผ่อนผันได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด 

กรณีที่ผู้กู้ยืมได้ทำการชำระหนี้ปิดบัญชี (Pay Off) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สามารถขอหนังสือรับรองการปลอดหนี้จากกองทุนได้ คลิกที่นี่ หนังสือรับรองการปลอดหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา

กองทุนได้กำหนดคุณสมบัติของผู้กู้ยืมแบ่งเป็น 5 ลักษณะ ดังนี้ 

  • ลักษณะที่ 1 นักเรียนหรือนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์
  • ลักษณะที่ 2 นักเรียนหรือนักศึกษาที่ศึกษาในสาขาวิชาที่เป็นความต้องการหลัก ซึ่งมีความชัดเจนของการผลิต กำลังคนและมีความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ
  • ลักษณะที่ 3 นักเรียนหรือนักศึกษาที่ศึกษาในสาขาวิชาขาดแคลน หรือที่กองทุนมุ่งส่งเสริมเป็นพิเศษ
  • ลักษณะที่ 4 นักเรียนหรือนักศึกษาที่เรียนดีเพื่อสร้างความเป็นเลิศ โดยให้กู้ในระดับปริญญาโท
  • ลักษณะที่ 5 ลักษณะอื่นตามความจำเป็นและเหมาะสม

วิธีนับระยะเวลาการครบกำหนดชำระหนี้ของผู้กู้ยืม กยศ.

ระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้ 

ผู้กู้ยืมจะต้องชำระ เงินที่กู้ยืมมาพร้อมทั้งดอกเบี้ยหรือประโยชน์อื่นใด 1% ต่อปี โดยต้องชำระคืนให้เสร็จสิ้นภายใน 15 ปี (นับแต่วันเริ่มชำระหนี้) ส่วนการชำระหนี้งวดต่อ ๆ ไปผู้กู้ยืมจะต้องชำระเงินต้นคืน ตามอัตราผ่อนชำระที่กองทุนกำหนด พร้อมด้วยดอกเบี้ยของเงินต้นที่คงค้าง ภายในวันที่ 5 ก.ค.ของทุกปี

หากผู้กู้ยืมเงินผิดนัดชำระหนี้ สิ่งแรกที่ผู้กู้ยืมเงินจะต้องเจอคือ ค่าปรับ หรือค่าธรรมเนียมจัดการกรณีผิดนัดชำระหนี้ตามอัตราที่กองทุนกำหนด

1.กรณีผิดนัดชำระหนี้ ต้องโดนค่าปรับ 

หากผู้กู้ยืมไม่ชำระหนี้ตามกำหนดจะต้องเสียค่าปรับหรือค่าธรรมเนียมจัดการ ในอัตรา เบี้ยปรับ 0.5% ต่อปี ของเงินต้นงวดที่ค้างชำระ 

(เงินต้นงวดที่ค้างชำระ x 0.5%) X จำนวนวันที่ค้างชำระของงวดนั้น หารด้วย 365 วัน

ยกตัวอย่าง..

เงินต้นงวดที่ค้างชำระ 10,000 บาท เบี้ยปรับ 50 บาท คิดเป็นรายวัน ๆ ละ 0.13 บาท นับถัดจากวันที่ผิดนัดชำระหนี้

หมายเหตุ : กยศ.ได้ปรับลดอัตราเบี้ยปรับ หรือค่าธรรมเนียมกรณีผิดนัดชำระเงินกู้ยืมคืน จากอัตราเดิมร้อยละ 7.5 ต่อปี เป็นร้อยละ 0.5 ต่อปี ตาม พ.ร.บ. กยศ. (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 มีผลตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566

2. ดำเนินคดี 

หากมีการผิดนัดชำระ นอกจากจะต้องจ่ายค่าปรับ และเสียค่าธรรมเนียมแล้ว หากไม่ชำระคืนเป็นเวลานานก็จะถูกฟ้องดำเนินคดี โดยมีเงื่อนไขที่ "ถูกฟ้องร้อง" ดังนี้

  • กองทุนส่งหนังสือบอกเลิกสัญญากู้ยืม ให้ผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันทราบ และขอให้มีการชำระหนี้ หากผู้กู้ยืมไม่ชำระหนี้ภายในระยะเวลาที่กำหนดอาจถูกดำเนินคดี
  • บมจ.ธนาคารกรุงไทย ดำเนินการฟ้องคดีกับผู้กู้ยืม และผู้ค้ำประกันตามสัญญากู้ยืมเงิน (ผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันจะได้รับหมายศาล)
  • เมื่อศาลมีหมายนัด ผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันต้องไปตามนัด โดยในวันนัดจะมีการไกล่เกลี่ยประนีประนอม
  • ศาลพิพากษา เมื่อศาลมีคำพิพากษา ผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันจะต้องชำระหนี้ตามคำพิพากษานั้น

ทั้งนี้ หากยังไม่มีการชำระหนี้ตามคำพิพากษา กองทุนจะส่งคำบังคับให้ผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกัน และจะทำการยึดทรัพย์ตามกฎหมายต่อไป

กรณีที่ผู้กู้ยืมได้รับคำบังคับจากศาล เนื่องจากผู้กู้ยืมไม่ได้ชำระหนี้จนถูกดำเนินคดีต่อศาล และไม่ได้ไปตามที่ศาลนัด ทำให้ศาลพิพากษาให้ชำระหนี้ทั้งหมดพร้อมทั้งดอกเบี้ยและเบี้ยปรับที่ผิดนัด ผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันจะต้องชำระหนี้ตามคำพิพากษา พร้อมทั้งค่าฤชาธรรมเนียมที่ศาลสั่งซึ่งรวมถึงค่าทนายความด้วย (โดยชำระหนี้ที่ บมจ.ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา) ข้อมูลเพิ่มเติม กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา

3. ถูกบังคับคดี หรือ ถูกอายัดทรัพย์

หลังจากที่ "ศาลมีคำพิพากษา" หากผู้กู้ยืมไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลหรือชำระหนี้ให้เสร็จสิ้น  กองทุนจะดำเนินการ "สืบทรัพย์" ของ "ผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกัน" และ "บังคับคดี" โดยการ "ยึดทรัพย์สินและประกาศขายทอดตลาด" เพื่อนำเงินมาชำระหนี้คืนกองทุน ในกรณีนี้ "ผู้กู้ยืม" และ "ผู้ค้ำประกัน" ควรทำอย่างไรต่อนั้น มีทางเลือกดังนี้ คือ 1.ชำระหนี้ปิดบัญชี หรือ 2. ไกล่เกลี่ยชั้นบังคับคดี ตามขั้นตอนทางกฎหมาย (กรณีผู้กู้ถูกยึดทรัพย์)

หมายเหตุ : การทำบันทึกข้อตกลงไกล่เกลี่ยชั้นบังคับคดี ผู้กู้ยืมหรือผู้ค้ำประกัน จะต้องติดต่อสำนักงานกองทุนฯ หรือสำนักงานทนายความผู้รับมอบอำนาจของกองทุนฯ ก่อนมีการขายทอดตลาดทรัพย์อย่างน้อย 7 วันทำการ 

สุดท้าย ใครยังเป็น "ลูกหนี้ กยศ." อย่าลืมรับผิดชอบในการจ่ายชำระหนี้ให้ตรงตามกำหนด นั้นเพื่อเป็นการส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้ นักเรียน นักศึกษา รุ่นน้องต่อไป เช่นเดียวกันกับเราที่ได้รับโอกาส 

 

อ่านข่าว : นายกฯ แถลงผลงาน 90 วัน ยันปี 68 โอกาสของคนไทยลุยเงินดิจิทัล

Google เผยคำค้นยอดนิยม คนไทยสนใจอะไรในปี 2567

ดีเดย์ 16 ธ.ค. ธ.ก.ส. โอนเงินไร่ 1,000 บาท 4.3 ล้านราย

Failed to load player resources

Please refresh the page to try again.

ERROR_BYTEARK_PLAYER_REACT_100001

00:00

00:00

ให้คะแนนการอ่านข่าวนี้