วันนี้ (6 พ.ค.2568) การแจกเงินของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) วงเงิน 10,000 บาท ให้กับเด็กไทย อายุตั้งแต่ 16-20 ปี ประมาณ 2.7 ล้านคน วงเงิน 27,000 ล้านบาท ภายใต้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ระยะที่ 3 ตามนโยบายของรัฐบาล ขณะนี้ใกล้ได้ข้อสรุปแล้ว โดยเฉพาะกระบวนการเสนอโครงการต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาเห็นชอบโครงการ เพื่อให้การดำเนินโครงการดังกล่าวเป็นไปตามไทม์ไลน์ของรัฐบาลที่ตั้งเป้าไว้ว่า จะเริ่มต้นในไตรมาส 2 ของปีนี้ นั่นคือประมาณเดือน พ.ค. - มิ.ย.2568 นี้
ก่อนหน้านี้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ระบุว่าเรื่องดังกล่าวได้ผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ และมีการส่งมายังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อรอบรรจุเข้าสู่วาระการประชุม ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นวันที่ 6 พ.ค.2568 นี้
ดังนั้นหาก ครม.เห็นชอบ แล้วก็จะดำเนินการตามไทม์ไลน์ที่วางไว้คือ จะเริ่มต้นในไตรมาสที่สองของปี 2568 นี้ นั่นคือช่วงเดือน พ.ค. - มิ.ย.นี้
นายกฯ ประชุม กพช.เคาะค่าไฟงวดสุดท้ายของปี
ขณะเดียวกันวันนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน จะมีการพิจารณานโยบายและแนวทางการกำหนดอัตราค่าไฟฟ้า งวดเดือน ก.ย. - ธ.ค.2568
นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีวาระพิจารณาเรื่องการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติมสำหรับกลุ่มที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิงและขยะอุตสาหกรรมตามแผนการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดสำหรับปี 2566-2573 ในส่วนที่ยังไม่ได้ดำเนินการอีกด้วย
สำหรับค่าไฟงวดล่าสุด พ.ค.-ส.ค.อยู่ที่อัตราหน่วยละ 3.98 บาทที่เป็นอัตราที่ต่ำกว่ากรอบเป้าหมายของรัฐบาลที่กำหนดไว้เดิมที่ 3.99 บาทต่อหน่วยและเป็นอัตราที่ลดต่ำลง
จากที่ก่อนหน้านี้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ กำหนดไว้ที่ 4.15บาทต่อหน่วย
โดยสาเหตุที่สามารถปรับลดลงได้มาจากการนำเงินเรียกคืนผลประโยชน์ส่วนเกิน (claw back) หรือเงินค่าเรียกเก็บผลประโยชน์ส่วนเกินที่ประมาณการลงทุนแต่เบิกจ่ายไม่เต็มวงเงินที่ได้รับการอนุมัติของ กฟน.,กฟภ.,การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ลดลงกว่าคาดการณ์ วงเงิน 12,200 ล้านบาท หรือคิดเป็น 17 สตางค์ต่อหน่วย
อ่านข่าว :
“จีดีพี” ไทยโตรั้งท้ายอาเซียน เวิลด์แบงก์-IMF หั่นเหลือ 1.6-1.8%