2 ปมร้อนทางการเมือง ไม่ว่าจะคดีฮั้วเลือกตั้ง สว. หรือกรณีชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ กำลังถูกเป็นเหตุให้การเมืองฝุ่นตลบ แต่นายกรัฐมนตรียืนยันแล้วว่า "ไม่เกินมือ..ที่จะบริหารจัดการได้" โดยยอมรับว่า 2 ผู้นำจิตวิญญาณเคลียร์กันอยู่ แต่ก็ชี้ว่าเหตุนั้นเกิดขึ้นนอกรอบ จะไม่กระทบกลไกในสภา
จากประเด็นที่เกิดขึ้น รวมถึงการขยับตัวของพรรคกล้าธรรม ปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกันคงยาก เพราะเกมต่อรองผ่าน 2 ผู้นำจิตวิญญาณทางการเมือง เกี่ยวกับ 2 พรรคใหญ่ในรัฐบาล และกลายเป็นข้อสังเกตว่าการยุบสภาอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
การเมืองในเวลานี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะทฤษฎีความขัดแย้งทางการเมืองที่เจอทางตัน ไม่โดนยึดอำนาจรัฐประหาร ก็จะเหลือทางเลือกเดียวคือคืนอำนาจให้กับประชาชน แล้วนำความขัดแย้งนั้นไปสู่สนามเลือกตั้ง ข้อสังเกตมีอยู่ว่า ถ้าจะยุบสภา..ใครได้เปรียบสุด และที่เห็นภาพการต่อรองทางการเมืองอยู่นี้ หากเคลียร์ไม่ลงตัว ลากยาวไปถึงวันลงมติร่างกฎหมายงบประมาณปี 2569 อะไรก็เกิดขึ้นได้ แม้นายกฯ จะบอกว่าปม-ปัญหายังไม่เกินมือ

แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
หมากเกมนี้อยู่ที่ปลายเดือน พ.ค.นี้ สภาฯ จะเปิดสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณารับหลักการร่างกฎหมายงบประมาณประจำปี 2569 แต่ที่นายกรัฐมนตรี "แพทองธาร ชินวัตร" หรือที่เลขาธิการพรรคเพื่อไทย "สรวงค์ เทียนทอง" กล่าวย้ำไว้ ก็ต้องยอมรับว่า ฉากหน้าหนึ่งต้องเป็นอย่างนั้น (เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาล) พรรคภูมิใจไทยการันตีมาแล้ว..ไม่มีทางโหวตคว่ำงบฯ
แต่อีกฉากหน้าหนึ่ง ต้องยอมรับว่าเกิดขึ้นได้ หลัง "ภูมิใจไทย" เขย่าหนักเข้า หนักขนาดต้องโยงให้เห็นภาพว่ามีเหตุผลอะไรทำให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หอบความไว้วางใจไปหานายอนุทิน ชาญวีรกูล (นัยยะไหม? ภูมิใจไทยกับรวมไทยสร้างชาติ แอบหวานฉ่ำ) ซึ่งก็อดโยงอีกไม่ได้ภายใต้สมมุติฐานว่า คว่ำงบฯ ปี 2569 เกิดขึ้นได้ ถ้า (ภูมิใจไทยแพครวมกับ รวมไทยสร้างชาติและประชาธิปัตย์)
เช็กเสียง สส. ตั้งจำนวนเสียงที่มีผ่านเสียงโหวต "ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี" กับการซักฟอกที่ผ่านมา เพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลมีเสียงรวมกัน 319 เสียง หากจะต้องดึงเสียงพรรคภูมิใจไทย-รวมไทยสร้างชาติและประชาธิปัตย์ออกมา รัฐบาลจะคงเหลือ 190 เสียง (แล้วที่ออกมา 129 เสียงไปร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน 162 เสียง ร่างกฎหมายงบประมาณปี 2569 ก็มีโอกาสถูกคว่ำได้)

ตามหลักการ ถึงเวลานั้นร่างกฎหมายการเงินของรัฐบาลไม่ผ่านสภาฯ นายกฯ ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการ "ลาออก" และตามประวัติศาสตร์การเมืองไทย นายกฯ ส่วนใหญ่ ไม่ลาออก แต่เลือกจะยุบสภา (จึงมีคำถามว่าพรรคไหนพร้อมจะลงสนามเลือกตั้งเวลานี้) หมากนี้จึงถูกอ่านว่าเป็น "เกมต่อรอง" (จะคว่ำงบฯ เหรอ..เจอยุบสภาฯ ไหม) กำลังยื่นข้อเสนอเพื่อเปิดโต๊ะคุยหรือเปล่า ("ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ..จะจบแบบไหน / ฮั้วเลือก สว." จะปิดฉาก..ได้ไหม)
ถึงตอนนี้จึงต้องปิดวาจาไว้ก่อน หาตัวประธานวุฒิ "มงคล สุระสัจจะ" ไม่เจอ บิ๊กเกรียง-พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิฯ ที่คุยกับนักข่าวดีๆ ล่าสุดเลี่ยง-หลบกันซะอย่างนั้น หรือ สว.อลงกต กรวี ถึงขั้นเอามือมาปิดปาก-ปิดทุกวาจา (เพราะอะไร มีรายงานว่า สว.สายสีน้ำเงินได้รับสัญญาณให้ "สงบงียบ-แต่ไม่ได้สยบความเคลื่อนไหว) หลบไปตั้งหลักก่อน จะเอาไงกันต่อ ท่ามกลางสิ่งที่สะท้อนออกมาว่า "ยังตกลงกันไม่ได้" ฝุ่นตลบแล้วไหม
แต่ทุกสายตากำลังเพ่งเล็งไปที่พรรคกล้าธรรม ทำไมเดินเกม "ดึงและดูด" สส. ภาพชัดสุดก็ สส.พรรคประชาชน "กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์" ฝ่ายการเมืองวิเคราะห์ให้ฟังว่า "กล้าธรรม" เดินเกมนี้ได้นก 3 ตัว หนึ่งคือหาเสียง สส.มาเติมเต็มรัฐบาล เพื่อรองรับเหตุฉุกเฉินทางการเมือง หากจะเกิดโหวตคว่ำร่างงบฯ ขึ้นมา หรือหากจะเกิดเหตุยุบสภาฯ ก็ต้องเดินสาย-ตีตราจอง เตรียมเลือกตั้งใหม่ แต่ถ้าไม่เกิดอะไรขึ้นยังเดินต่อกันไปได้ นี่คือเติมเต็มเก้าอี้รัฐมนตรีในการปรับ ครม.ไหม

กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์
กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์
เหตุผลหนึ่งว่ากันว่า เพราะคดี 44 สส.พรรคก้าวไกล เสนอร่างแก้กฎหมายอาญา มาตรา 112 (มาช้า) แต่ปัจจัยแวดล้อมทางการเมืองกลับมาเร็ว เร่งเร้าหลายด้าน ไหนจะคดีความ ไหนจะร่างกฎหมาย ไหนจะนโยบาย รวมไปถึงภาวะเศรษฐกิจโลกที่กระทบไทยตรงๆ ทั้งจาก "สหรัฐฯ-จีน-อินเดีย" ทำให้ "กล้าธรรม" ตัดสินใจลงมือเขย่าพรรคส้ม แม้จะได้ใจแล้ว ได้ลดทอนความเชื่อมั่นพรรคส้มไปด้วย แต่ยังไม่ได้แต้ม..ยังไม่ได้ตัว เพราะเจ้าตัว ในส่วนของพรรคต้นสังกัดก็บอกว่างานนี้เจอ "ดองงูเห่า"
ส่วนอีกข้อสังเกตหนึ่ง อาจไม่ชัวร์ทั้งหมดว่าจะขยับ-ขยายไปพรรคกล้าธรรม โดยเฉพาะนายสุชาติ ชมกลิ่น จากพรรครวมไทยสร้างชาติ บอกว่าขอดูสถานการณ์ หรือทางนายอุตตม สาวนายน และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ จากพรรคพลังประชารัฐ ที่ประกาศทิ้งพรรคแล้ว อาจจะกำลัง "เซ็ตอัพพรรคการเมืองใหม่" อะไรกันอีกหรือเปล่า แต่เอาว่ารอลุ้น สิ้นเดือน พ.ค.อีกที อะไรก็เกิดขึ้นได้ แม้แต่ยุบสภา
อ่านข่าว
“ชลบุรี” งูเห่าซ้ำสอง ปชน. สนามอาถรรพณ์การเมือง
"เทพไท" เปิดเบื้องหลัง "สส.ขายตัว" ชี้ รธน.ปี 60 ทำพรรคการเมืองอ่อนแอ