เลียงผา” ถูกยิงลงจากยอดดอยหลวงเชียงดาว ชาวบ้านพบนำส่งรักษา หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเชียงดาว ขอชาวบ้านช่วยกันอนุรักษ์เป็นสัตว์สงวนหายาก พบมีกลุ่มล่าสัตว์ล่าเพราะความเชื่อรักษาโรค
วันนี้ (14 พ.ค.2568) นายพรนรินทร์ คุ้มทอง หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จ.เชียงใหม่ เปิดเผยถึงกรณีชาวบ้านพบเห็นเลียงผา ลงมายืนอยู่ข้างทาง จุดกึ่งกลางระหว่างบ้านนาเลา กับด่านผาตั้งประมาณ กม.10 ชาวบ้านลงไปดูพบว่า มีอาการบาดเจ็บ ระหว่างที่ชาวบ้านพบ เลียงผาไม่หนีและเดินเข้าหาคน ชาวบ้านจึงนำเลียงผามาส่งที่หน่วยฯ ผาตั้ง
นายพรนรินทร์กล่าวว่า ปกติเลียงผาเป็นสัตว์ที่กลัวคน อาจเป็นสัญชาตญาณเวลาที่บาดเจ็บ เหมือนลงมาขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่เมื่อชาวบ้านนำมาส่งได้ตรวจเบื้องต้นพบว่า มีรอยอยู่สองรอยบริเวณขาด้านหลัง เบื้องต้นสงสัยว่า น่าจะถูกยิงด้วยอาวุธปืน
ล่าสุดได้นำส่งไปที่คลินิกสัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 เชียงใหม่ (แม่เหียะ) อยู่ในความดูแลของสัตวแพทย์เรียบร้อยแล้ว ยังไม่ทราบผลตรวจ แต่ให้อาหารเลียงผายังกินอาหารได้ ซึ่งจะอยู่ขั้นตอนรักษาต่อไป
ส่วนการดำเนินคดี ล่าสุดเขตพื้นรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ได้ลงบันทึกประจำวัน เพื่อสืบหามีข้อมูลเพิ่มเติม หรือมีใครเป็นผู้เกี่ยวข้อง ถ้าทราบผู้กระทำความผิดจะดำเนินคดีต่อไป
นายพรนรินทร์กล่าวว่า พื้นที่ดอยหลวงเชียงดาว ยอมรับว่า ในพื้นที่ทางการข่าวทราบว่า ยังมีคนล่าสัตว์ และขบวนการล่าสัตว์ในพื้นที่ กรณีพบเลียงผาถูกยิง ชาวบ้านยังมีความเชื่อว่าน้ำมันเลียงผา สามารถรักษาโรคได้ ทำให้เดินได้สะดวก จึงมีความพยายามล่าเลียงผาเพื่อนำไปขาย
นายพรนรินทร์ ยังระบุว่า สำหรับมาตรการป้องกัน ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่มีหน่วยป้องกันและรักษา รวมถึงการลาดตระเวนในพื้นที่ดอยหลวงเชียงดาว แต่ด้วยพื้นที่เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่อาจจะมีการเล็ดลอด เพราะมีเส้นทางเดินเข้าได้หลายทาง
ขณะเดียวกัน แม้ว่าเจ้าหน้าที่ออกไปลาดตระเวนในพื้นที่ต่าง ๆ แต่คนล่าสัตว์ซึ่งมีความชำนาญในพื้นที่ภูมิประเทศ ก็อาจจะเดินหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่และเข้าไปในพื้นที่ป่า ที่ผ่านมาก็มีความพยายามสร้างความร่วมมือกับชาวบ้านที่อยู่รอบพื้นที่ ถ้าชาวบ้านให้ความร่วมมือก็จะได้การข่าวที่ดี ระบุบุคคลและเป้าหมายกลุ่มคนที่เข้าลักลอบหาสัตว์ป่าได้
ข้อมูลทางการข่าวก็ทราบว่า เป็นหมู่บ้านไหนหรือกลุ่มไหน ซึ่งจะต้องพิสูจน์หาข้อมูล และพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไป
หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวระบุว่า พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยหลวงเชียงดาวมีพื้นที่กว่า 3 แสนไร่ มีหน่วยพิทักษ์ป่า 8 หน่วย กระจายรอบพื้นที่ ช่วงนี้เป็นช่วงปิดป่า ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ถึง 15 พ.ค.เป็นช่วงสถานการณ์ป้องกันและเฝ้าระวังไฟป่า
ส่วนการเปิดพื้นที่ให้เข้าศึกษาธรรมชาติ จะเปิดในช่วงเดือนพ.ย. ถึงประมาณเดือน ก.พ.ส่วนชาวบ้านจะเข้าพื้นที่ป่า ก็จะขออนุญาตเป็นกรณีไป ในจุดที่ไม่มีปัญหาไฟป่า
สำหรับดอยหลวงเชียงดาว มีความอุดมสมบูรณ์มีทั้งสัตว์ป่าและพืชพืชพรรณหายาก โดยเฉพาะกวางผา เลียงผา ที่อาศัยอยู่บริเวณหน้าผา นอกจากนั้นก็มีสัตว์ป่า เช่น เก้ง กวาง ส่วนพืชพันธุ์ที่สำคัญ เป็นพืชถิ่นเดียวที่อยู่ด้านบนเขาหินปูนมีประมาณ 60 ชนิด ถือว่ามีความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑลแห่งที่ 5 ของประเทศไทย และเป็นภูเขาหินปูนที่สูงที่สุดในประเทศไทย
ปัจจุบันอาจประเมินยากว่า เลียงผามีจำนวนเท่าไหร่ เพราะถิ่นที่อยู่อาศัยกระจาย แต่ถ้าเป็นกวางผา สถานีวิจัยสัตว์ป่าดอยเชียงดาว ประเมินไว้เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว มี108 ตัว เลียงผาและสัตว์ป่าอื่น ๆ อยู่ระหว่างการประเมิน
กวางผา และเลียงผา นับเป็นสัญลักษณ์ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ปกติเป็นสัตว์ที่กลัวคน และไม่ให้พบเห็นง่ายๆ พฤติกรรมจะอยู่ตามหน้าผา ถ้าพรานป่าชำนาญ ก็ตกเป็นเป้าหมายได้ง่าย โดยเฉพาะช่วงเวลาเช้าและเย็น ที่ชอบไปยืนอยู่ตามหน้าผา
สัตว์ป่าในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยหลวงเชียงดาว เป็นสัตว์ป่าที่ได้รับการคุ้มครอง โดยเฉพาะสัตว์ป่าสงวนเป็นสัตว์ป่าหายากและมีความสำคัญ
อยากขอความร่วมมือประชาชน ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ผู้ที่เข้ามาล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเป็นความผิดตามกฎหมาย การล่าสัตว์ป่าสงวน นับเป็นความผิดรุนแรง อยากให้พี่น้องประชาชน ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ช่วยดูแลทรัพยากรที่สำคัญของชาติและของโลก
ด้าน นายบุรฉัตร ตันประดิษฐ์ นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ หัวหน้าฝ่ายคลินิกสัตว์ป่า ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 กับทีมข่าวไทยพีบีเอส ถึงกรณีเลียงผาที่ขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน และถูกส่งรักษาที่คลินิกว่า เป็นเลียงผา เพศผู้ น่าจะอายุโตเต็มวัย สภาพที่พบครั้งแรกมีสภาพอ่อนเพลีย แต่ไม่ได้มีอาการหนัก เจ้าหน้าที่ได้ให้กินอาหาร ซึ่งยังกินอาหารได้ปกติ เช่น หญ้าสด กล้วย เผือก ลูกไทร ก้อนเกลือแร่ และน้ำสะอาด
หัวหน้าฝ่ายคลินิกสัตว์ป่าฯ ตั้งข้อสังเกตพฤติกรรมที่น่าแปลกของเลียงผาตัวนี้ มีลักษณะที่ค่อนข้างจะเชื่องมาก มีความผิดปกติ เมื่อมาคืนแรกกินกล้วยที่เจ้าหน้าที่ให้ ถ้าเป็นสัตว์อื่น เช่น เก้ง กวาง ที่มาจากป่าแท้ ๆ จะไม่กินแบบนี้
สาเหตุที่เลียงผาตัวนี้มีลักษณะค่อนข้างเชื่อง มีข้อสันนิษฐาน 3 เรื่องด้วยกัน คือ อาจถูกเลี้ยงในกรงมาก่อนหรือไม่ หรืออาจอยู่ใกล้กับชาวบ้าน ที่เคยให้อาหารจึงไม่กลัวคน หรือ มีอาการบาดเจ็บมาก จึงมาขอความช่วยเหลือชาวบ้าน ซึ่งก็เป็นไปได้ เพราะที่ผ่านมาก็เคยมีช้างป่าเมื่อแข็งแรงดีไม่ให้คนเข้าใกล้ แต่เมื่อเจ็บป่วยก็เข้าหาคน เพื่อขอความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามเชื่อว่า เลียงผาตัวนี้อาจจะมีความคุ้นเคยกับคนระดับหนึ่ง
หัวหน้าฝ่ายคลินิกสัตว์ป่าฯ ยังระบุถึงลักษณะอาการอ่อนเพลีย น่าจะเกิดจากการถูกจับอยู่เป็นเวลานาน หรือระหว่างการขนส่งจาก อ.เชียงดาว มาที่คลินิก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ อาจทำให้มีภาวะเครียดจากการถูกจับบังคับ ทำให้เกิดกรดขึ้นที่อวัยวะ อาจไปทำลายกล้ามเนื้อ
หากเกิดกับคน สามารถยืดกล้ามเนื้อเป็น ทำให้กรดกระจายไป แต่สัตว์ตระกูลสัตว์กีบ เช่น กวาง เก้ง ทำไม่เป็น ที่สำคัญกรดมีความเข้มข้นกว่าของคน ทำให้ไปทำลายอวัยวะภายในที่สำคัญได้ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจ ไต (วาย) กล้ามเนื้อขาอ่อนแรง ภาวะนี้อันตรายอาจถึงตายภายใน 24 ชั่วโมง
เลียงผาลักษณะค่อนข้างอ่อนเพลีย จากการถูกไล่ต้อนจับ และขนย้าย มีบาดแผลเล็ก ๆ ที่โคนขาหลังทั้งสองข้าง ตรวจดูเบื้องต้น ด้านซ้ายเหมือนถูกกรีดจากของมีคมบาด ส่วนด้านขวาเหมือนมีรูเข้าไปมีของเหลวไหลออกมา
ส่วนกรณีที่เลียงผาจะถูกยิงที่บริเวณขาหลังทั้งสองข้างหรือไม่ หัวหน้าฝ่ายคลินิกสัตว์ป่าฯ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ระบุว่า ยังมีสันนิษฐานเบื้องต้นว่า อาจมาจากหลายสาเหตุ เช่น การชนกันหรือต่อสู้กันของเลียงผา หรืออาจโดนก้อนหินบาดจากการตกจากหน้าผา ซึ่งคาดว่าจะทราบผลหลังจากสัตวแพทย์จากเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีรับไปรักษา และตรวจพิสูจน์แผลต่อไป
เลียงผาเป็นสัตว์ป่าสงวน ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ผู้ใดล่าเลียงผามีความผิดตามกฎหมาย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 300,000 บาท ถึง 1,500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การล่าสัตว์ป่าในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เป็นความผิดตามกฎหมายมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเป็นโทษหนัก
รายงาน : โกวิท บุญธรรม ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส ศูนย์ข่าวภาคเหนือ
อ่านข่าว : นายกฯ รอคุยรัฐมนตรีดูงานแทน "ทวี" ไม่ชัดมอบ "ภูมิธรรม"
"ศร." สั่ง "ทวี " หยุดปฏิบัติหน้าที่ในฐานะคุม "ดีเอสไอ - รอง ปธ.กก.คดีพิเศษ"
เงินหมื่นเฟส 3 จ่อวืด หลัง "พิชัย" ขอทบทวน ต้องรื้อแผนกระตุ้น ศก.
แท็กที่เกี่ยวข้อง: