วันนี้ (20 พ.ค.2568) ตำรวจสอบสวนกลาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องการตรวจสอบทุจริตของรัฐ ยังเข้ามาตรวจสอบเอกสารการเงิน รายได้ของวัดไร่ขิง เป็นครั้งที่ 3
หลังจากเมื่อวานนี้ (19 พ.ค.2568) จากการตรวจสอบพบว่า วัดไร่ขิงมีบัญชีธนาคาร 49 บัญชี แต่รายงานให้สำนักพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม ทราบเพียง 4 บัญชีเท่านั้น และบัญชีของวัดทั้งหมดมีผู้ดูแลราว 10 กว่าคน
- “สำนักพุทธฯ” ทำอะไร? ในวันที่ “ศรัทธาพระพุทธศาสนา” อ่อนไหว
- สายลับ "พยัคฆ์หลายหน้า" เดิมพันชีวิต "อาชีพบนเส้นทางเสี่ยง"
- “สมณศักดิ์” เกี่ยวกับ “พระสังฆาธิการ” อย่างไร ทำไม “เจ้าคุณแย้ม” จึงเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ?
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ระบุว่า การไม่ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องรายได้ ถือเป็นข้อสงสัยการปกปิดเส้นทางการเงินที่แท้จริงของวัด และอาจเข้าข่ายการยักยอกทรัพย์

มีรายงานว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดเมื่อวานนี้ พบว่า รายได้การจัดงานของวัดไร่ขิง จำนวน 17-18 ล้านบาท ไม่เข้าบัญชีของวัด แต่กลับถูกโอนเข้าบัญชีของนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสฯ โดยตรง

นอกจากนี้จากการตรวจสอบ พบว่า เส้นทางการเงินของวัดมีความเชื่อมโยงไปยังหลายบุคคล โดยเฉพาะการเบิกเงินของวัด พบว่ามีการตั้งเบิกให้ลงลายมือชื่อไว้ล่วงหน้า
ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า แต่ละบัญชีของวัด จะมีไวยาวัจกร 1 คน, กรรมการวัด 2 คน พระ 1 รูป เป็นผู้ดูแล และการเบิกจ่ายต้องได้รับความเห็นชอบ 3 ใน 4 รายชื่อ
นอกจากนี้จากการสอบตู้รับบริจาคของวัด พบว่า วันธรรมดามีรายได้หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ส่วนวันหยุดยาว หรือวันสำคัญทางศาสนา จะมีรายได้เฉลี่ยวันละ 1 ล้านบาท

มีรายงานอีกว่า ขณะนี้ตำรวจสอบสวนกลาง เตรียมขอศาลอนุมัติหมายจับ คนที่เกี่ยวข้องกับบัญชีวัดไร่ขิง แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ บุคคลที่เก็บผลประโยชน์ของวัด บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการดูแลของวัด
อ่านข่าว : ตรวจเส้นทางเงิน "วัดไร่ขิง" พบ 45 บัญชีไม่รายงานรายรับ-รายจ่าย
ตร.พบ 7 บัญชีเงินวัดไร่ขิง เอาผิดอดีตเจ้าอาวาสยักยอกเงิน
วัดไร่ขิง" 24 ชั่วโมง กับรายได้ 80 -100 ล้านบาท