ความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีวัดไร่ขิง ล่าสุด วันนี้ (21 พ.ค.2568) พนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. ยังเข้าตรวจสอบบัญชีชี้และเส้นทางการเงินของวัดไร่ขิงอย่างต่อเนื่อง
- มส.เคาะ 4 มติ จัดระเบียบทรัพย์สินวัด ดึงหน่วยงานนอกตรวจบัญชี
- เจาะลึกช่องโหว่ "วัด" กับความเสี่ยงในการเป็นช่องทาง "ฟอกเงิน"
- เปิดเส้นเงิน "วัดไร่ขิง" ตู้บริจาค 185 ตู้ ไม่เข้าบัญชี จำนวนมากเบิกเกินจริง-ผิดวัตถุประสงค์
มีรายงานว่าวันนี้พนักงานสอบสวนจะมุ่งเน้นตรวจสอบบัญชีชื่อมูลนิธิเมตตาประชารักษ์ และบัญชีซื้อเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์

หลังพบข้อมูลที่น่าสงสัยว่า บัญชีดังกล่าวเคยเปิดรับเงินจากตู้บริจาคของประชาชนที่เข้ามาทำบุญ แต่มีผู้เกี่ยวข้องทางโรงพยาบาลแจ้งว่า ภายหลังไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากทางวัดไร่ขิงมานานกว่า 3 ปี จึงอยากให้ตำรวจตรวจสอบเส้นทางการเงิน จากข้อมูลการสืบสวน พบทั้ง 2 บัญชีมีเงินคงเหลือในกว่า 1 ล้านบาท ขณะนี้ได้อยู่ระหว่างยื่นขอตรวจสอบรายงานเดินบัญชี จากสถาบันการเงิน ว่านำไปใช้ประโยชน์ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่

ในอดีตโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ เคยได้รับเงินสนับสนุนเงิน ผ่านมูลนิธิเมตตาประชารักษ์ ทั้งด้านทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาแพทย์ การอบรม และบัญชีสนับสนุนการซื้อเครื่องมือแพทย์อยู่เป็นประจำ แต่ในช่วงปี 2564 - 2565 ทางโรงพยาบาลได้รับเงินสนับสนุนจากทางวัดน้อยลง และหยุดสนับสนุนมานานกว่า 3 ปี

โดยทางโรงพยาบาลได้จัดตั้งมูลนิธิขึ้นมาใหม่ เพื่อเปิดรับเงินจากประชาชน แยกอีกหนึ่งบัญชี โดยขาดอำนาจจากมูลนิธิเมตตาประชารักษ์เดิม ที่มีนายเเย้ม อดีตเจ้าอาวาสเป็นประธานมูลนิธิ และผู้มีอำนาจเบิกถอน จึงได้ขออนุญาตจากคณะกรรมวัดไร่ขิง ตั้งตู้บริจาคเงินโรงพยาบาลอีก 1 ตู้เพื่อรับเงิน โดยทางโรงพยาบาลจะส่งเจ้าหน้าที่มาเปิดไขเงินจากตู้บริจาคเอง ไม่เกี่ยวข้องกับบัญชีวัดแต่ก็ยังพบเห็นตู้บริจาคของมูลนิธิฯ และตู้บริจาคซื้ออุปกรณ์การแพทย์อันเดิมตั้งอยู่ด้วยเช่นกัน

ส่วนการตรวจสอบบัญชีอื่นๆ ขณะนี้พบว่า มีบัญชีนายแย้ม ถูกเปิดในชื่อบัญชีพระธรรมวชิรานุวัตร อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เพิ่มเติมอีกหลายบัญชี้ นอกเหนือจาก 3 บัญชีที่ใช้กล่าวหาไปก่อนหน้านี้ พบเงินคงเหลือในบัญชีรวมกันแล้วกว่า 1 ล้านบาท มีการโอนเงินเข้าออกบัญชีหลายรายการที่เป็นที่สงสัย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบ

ส่วนผู้เกี่ยวข้องในบัญชีเงินวัดทั้งหมดตำรวจได้สอบปากคำแยกเป็นพยาน และผู้ร่วมกระทำความผิด ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการพิจารณาออกหมายจับใคร แต่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิจารณาฐานความผิดเท่านั้น

จากการตรวจสอบที่ผ่านมาพบว่า ระบบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดไร่ขิง ถูกจัดเก็บไว้อย่างค่อนข้างรัดกุม สามารถตรวจสอบได้ง่าย แต่ภายหลังที่นายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเข้ามารับตำแหน่ง ตั้งแต่ ปี 2551 การเดินบัญชีเริ่มจะมีความซับซ้อนมากขึ้น

ส่วนในประเด็นที่นายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หยิบยืมเงินจากเจ้าอาวาสวัดอื่น ๆ อ้างนำเงินไปวิ่งเต้นเพื่อรับตำแหน่งเจ้าคณะภาค 14 ตำรวจชุดกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ยังไม่ได้สอบสวนในประเด็นนี้ ซึ่งหากพบในการทุจริตการรับตำแหน่งจริง หรือไปเรียกเงินจากวัดอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนการกระทำความผิด ก็จะต้องตรวจสอบย้อน พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่การกล่าวหาต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน
อ่านข่าว : เจาะลึกช่องโหว่ "วัด" กับความเสี่ยงในการเป็นช่องทาง "ฟอกเงิน"
เปิดเส้นเงิน "วัดไร่ขิง" ตู้บริจาค 185 ตู้ ไม่เข้าบัญชี จำนวนมากเบิกเกินจริง-ผิดวัตถุประสงค์
สอบเส้นเงิน “ทิดแย้ม” ย้อนหลัง โยงเครือข่ายเชื่อมเว็บออนไลน์ ?