ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“เจ๊แมว-กุสุมาลวตี” สว.สำรอง”ตัวตึง”ท้าชนแหลก "อนุทิน-ภูมิใจไทย"

การเมือง
21 พ.ค. 68
14:52
65
Logo Thai PBS
“เจ๊แมว-กุสุมาลวตี” สว.สำรอง”ตัวตึง”ท้าชนแหลก "อนุทิน-ภูมิใจไทย"
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

สว.สำรองอย่าง “เจ๊แมว” นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท คนที่เล่นบทแรง ยื่นเรื่องต่อ กกต. พิจารณาส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบ ภูมิใจไทย เหตุเกี่ยวโยงกับการฮั้วเลือก สว. ถือว่าไม่ใช่คนหน้าใหม่บนเวทีการเมือง เพราะผ่านสนามเลือกตั้งมาโชกโชน ในฐานะทายาททางการเมืองของนายสวาท ศิริโกมุท อดีต สส.มหาสารคาม

นอกจากเปิดเกมรุกฆาต ยืนยันมีหลักฐานมัด แกนนำในพรรคค่ายสีน้ำเงินชัดเจน เข้าข่ายกระทำผิดข้อหาอั้งยี่ มีทั้งเส้นเงิน และคลิปเสียงของหัวหน้าพรรค เรียกคุย สว.ที่โรงแรมดังแห่งหนึ่งกลางกรุงฯ หลังกระบวนการเลือก สว.เสร็จสิ้น มีภาพขณะ สว.เขียนใบลาออกไว้ล่วงหน้า เพื่อเป็นหลักประกัน ต้องอยู่ภายใต้คำสั่งของพรรคการเมืองใหญ่

กลายเป็นข่าวใหญ่มาแรงบนทุกหน้าสื่อ กระทั่งหนึ่งในแกนนำรุ่นใหม่ในพรรค อย่าง น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย โฆษกพรรคภูมิใจไทย ออกมาประกาศชัดฟ้องร้อง ฐานใส่ร้ายบิดเบือน มีเจตนาชัดหวังจ้องทำลายพรรค

ก่อนหน้านี้ “เจ๊แมว” ก็เคยเปิดวิวาทะกับ “เจ๊รวย” นางสุขสมรวย วันทนียกุล สส.อำนาจเจริญ พรรคภูมิใจไทย และเป็นหนึ่งหนึ่งใน กมธ.ป.ป.ช. สภาผู้แทนฯ ที่กลุ่ม สว.สำรองเคยไปยื่นร้องเรียนไว้

อ้างว่า “เจ๊รวย” เป็นคนโทรหา อ้างจำนวน สว.เต็มแล้ว เท่ากับเชื่อมโยงการฮั้วเลือก สว. จึงโดน “เจ๊รวย” โต้กลับ พร้อมฟ้อง 3 ข้อหา หมิ่นประมาท- แจ้งความเท็จ และละเมิด ต่อนางกุสุมาลวตี อย่างถึงที่สุด

ส่งผลโหมกระพือเรื่องฮั้วเลือก สว. ให้บานปลายยิ่งขึ้น มีเรื่องฟ้องร้องและเป็นคดีความตามมาอีกหลายคดี ไม่เพียงเท่านั้น นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ยังไปยื่นเรื่องให้ยุบพรรคภูมิใจไทย ผ่านกกต.เมื่อวันพุธ (21 พ.ค.) ตาม มาตรา 92 พ.ร.ป.พรรคการเมือง เป็นการกระทำที่อาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่ห้ามพรรคการเมืองยุ่งเกี่ยวกับเลือก สว.

เป็นเหตุให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค สวนกลับทันควัน เรื่องถูกยื่นยุบพรรคว่า เป็นเรื่องฝันกลางวัน ทั้งยังใช้คำพูดตอบโต้ที่รุนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะ กรณี นางกุสุมาลวตี

แต่กระนั้น การยื่นเรื่องผ่าน กกต. หรือองค์กรอิสระอื่น ตามที่กฎหมายระบุไว้ ไม่ได้ยื่นโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือผ่านอัยการสูงสุด จะใช้เวลาตามขั้นตอนและกระบวนการที่ยาวนานเป็นปี

นางกุสุมาลวตี ลงสมัครและได้เป็น สส.มหาสารคาม 2 สมัยแรก ในปี 2544 และ 2548 ในสังกัดพรรคไทยรักไทย ของนายทักษิณ ชินวัตร ทั้ง 2 ครั้ง และยัง “ล้มยักษ์” นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ อดีต ส.ส.หลายสมัย และอดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง ซึ่งสงสมัครในสังกัดพรรคชาติไทย ได้ทั้ง 2 ครั้ง

หลังรัฐประหาร ปี 49 นางกุสุมาลวตี ย้ายไปเป็นเลขาธิการพรรคพรรคเพื่อแผ่นดิน แต่ไม่ได้รับเลือก สวนทางกับนายประยุทธ์ ที่ย้ายเข้าพรรคพลังประชาชน และต่อเนื่องพรรคเพื่อไทย ก่อนจะไปมีบทบาทสำคัญใน กมธ. พิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับสุดซอย

“เจ๊แมว” ย้ายกลับไปทำงานร่วมกันกับพรรคเพื่อไทย และได้เป็น สส.สมัยที่ 3 เลือกตั้งปี 2554 เอาชนะนายยิ่งยศ อุดรพิมพ์ อดีตนายก อบจ. คน “บ้านใหญ่” การเมืองท้องถิ่น จ.มหาสารคาม ที่ลงสมัครในนามพรรคภูมิใจไทย

ปี 2562 ย้ายไปพรรคเพื่อชาติ แต่ไม่ได้เป็น สส. จนถึงเลือกตั้งปี 2566 ย้ายไปพรรครวมไทยสร้างชาติ แม้ไม่ได้รับเลือกเป็น สส. แต่ได้เป็นที่ปรึกษารองนายกฯ นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค ก่อนลาออก ลงสมัคร สว.

เมื่อครั้งเป็น สส.ในสภา น.ส.กุสุมาลวตี จัดได้ว่าเป็นระดับ “ตัวตึง”คนหนึ่ง สร้างสีสันให้การเมืองไม่น้อย เช่น ในปี 2556 ตอบโต้ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม สส.ประชาธิปัตย์ ขณะนั้นในสภาฯ

ขณะอภิปรายกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ขณะนั้น ไปปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศเหมือนกับไปท่องเที่ยวมากกว่า เพราะไม่สนใจแก้ปัญหาในประเทศ โดยให้ นพ.วรงค์ ถอนคำพูด ระบุว่า นายกฯ ไปสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ จนเกิดประฝีปากต่อกับนางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท ส.ส.ประชาธิปัตย์ ขณะนั้น ปม สส.เขตกับ สส.บัญชีรายชื่อ

ปีเดียวกันนั้น ได้กล่าวปกป้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกฯ ว่า เก่ง ฉลาด “ไม่ได้โง่” ทั้งซัดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สส.และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขณะนั้นว่า มีเจตนาจะว่าร้าย และสื่อหมายถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์

ในสมัยรัฐบาล คสช. พล.อ.ประยุทธ์ ปี 2557 ได้วิพากษ์ เรื่อง สปช. หรือสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ว่า เป็นปาหี่จัดฉากแทรกแซงเลือก สปช. และเขียนรัฐธรรมนูญหวังล้างบางพรรคเพื่อไทย และตระกูลชินวัตร ปีเดียวกัน ได้เสนอแนวทางพัฒนาการเมือง ต่อวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.)ว่า ควรมีนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน เหมือนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.

ปี 2566 ให้เหตุผลย้ายเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะคนเสื้อแดงเข็ดขยาดพรรคเพื่อไทย ที่ไม่ฟังเสียงชาวบ้าน สู้ “ลุงตู่” ไม่ได้ เพราะบัตรลุงตู่ ช่วยให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ต่อมาในปี 2567 ช่วงเดือนเมษายน มีข่าวลือจะปรับครม. จึงได้แนะให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ขณะนั้น คิดให้รอบคอบ หากจะปลดนายสุทิน ออกจากรัฐมนตรีกลาโหม เพราะเป็นคนที่ทำงานดีที่สุดใน ครม.

ที่ผ่านมา ถือว่าเป็น สส.ประเภท “คิดบวก” และฝีปากกล้าคนหนึ่ง ล้มคนดังอย่างนายประยุทธ์ ศิริพานิช และนายยิ่งยศ อุดรพิมพ์ 2 บ้านใหญ่ จ.มหาสารคาม มาแล้ว แต่สำหรับการออกหน้าท้าชนกับพรรคภูมิใจไทยหนนี้ จะสำเร็จซ้ำรอยเดิมได้หรือไม่ ต้องลุ้น ต้องติดตาม

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : "สว.สำรอง" ยื่นคำร้อง กกต.จี้ทบทวนสั่ง​ "แสวง" ยุติปฏิบัติหน้าที่

เคาะกรอบถกงบฯ 69 วันที่ 28-31 พ.ค. รวม 41 ชม. ฝ่ายละ 20 ชม.

แกะรอยผลประโยชน์ "วัดไร่ขิง" เงินบริจาค-อำนาจ-โครงสร้าง-ทรัพย์สิน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง