ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"จตุพร" เผยเบื้องหลังจับมือ "สนธิ" เป็นคำมั่นสัญญาตอนติดคุก

การเมือง
26 พ.ค. 68
18:38
586
Logo Thai PBS
"จตุพร" เผยเบื้องหลังจับมือ "สนธิ" เป็นคำมั่นสัญญาตอนติดคุก
อ่านให้ฟัง
05:50อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"จตุพร" แจงเบื้องหลังภาพจับมือ สวมกอด "สนธิ" เป็นคำมั่นสัญญาตั้งแต่ติดคุก​ ยัน​ไม่ได้ร่วมล้ม "ระบอบทักษิณ" เพราะอีกไม่กี่วันก็มีอันเป็นไปแล้ว มองข้ามช็อตควรร่วมระดมความคิดรับมือ ปัญหาประเทศ​ อย่าให้ตกอยู่ในวังวนแบบเดิม​ ไม่รับปากเรื่องลงถนน​

วันนี้ (26 พ.ค.2568) จากภาพที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้ในทางการเมือง​ คือ นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สวมกอดกับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ​ นปช.​ กลางเวที ความจริงมีหนึ่งเดียว ครั้งที่ 2/2568 ที่หอประชุมเล็ก​ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วานนี้ (25 พ.ค.) ทำให้เกิด การวิเคราะห์ว่า​ จับมือกันเพื่อขจัดระบอบทักษิณ​

ล่าสุดนายจตุพร​ อธิบายถึงที่มาของภาพดังกล่าว เกิดขึ้นตอนที่ตนและนายสนธิถูกคุมขังในเรือนจำ และได้เจอกันที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งขณะนั้นนายสนธิ​ได้ชวนกินข้าว​ แล้วก็ชักชวน​ ว่าในวันข้างหน้า​หากมีโอกาสควรจะแถลงร่วมกันสักครั้งหนึ่ง เรื่องของชาติบ้านเมือง ตนจึงตอบรับ​ว่า​ยินดี ซึ่งตอนนั้นก็พูดอยู่ในจุดที่ต่ำสุดของชีวิต เป็นนักโทษอยู่ในสุสานคนเป็น และก็ไม่รู้ว่าแต่ละคนจะได้ออกกันไปเมื่อไหร่ จนกระทั่งต่างคนต่างได้ออกมา​ แล้วนายทักษิณ​ ก็เดินทางกลับมาพอดี​ พร้อมกับเผยให้เห็นความเป็นตัวตนของคุณทักษิณ​พอดี​

แต่ยืนยัน​ที่เดินหน้าจับมือกันครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขจัดระบอบทักษิณ​ เพราะไม่ต้องจับมือกับนายสนธิ​ นายทักษิณ​ ก็จะมีอันเป็นไป ในวันที่ 13 มิ.ย.นี้อยู่แล้ว​ รัฐบาลจะปรับคณะรัฐมนตรีเขี่ยร่วมรัฐบาลออก​ ก็จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว​ หรือหากจะเจอสึนามิทางการเมือง รัฐธรรมนูญมาตรา 144 ที่ไปยุ่งเกี่ยวกับงบประมาณการใช้หนี้ ก็จะเกิดโทษที่ต้องให้พ้นจากตำแหน่ง ทั้ง​ ครม. , สส. และ​ สว. เกลี้ยงกระดานก็รออยู่แล้ว ยังไม่นับรวมเรื่องคุณสมบัติส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี

"ไม่จำเป็นต้องจับมือโค่นล้ม เพราะอย่างไรก็ไปตามเวลาอยู่แล้ว ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่ว่าหลังจากนั้นจะเป็นเรื่องใหญ่ ปัญหาของชาติที่มันตกต่ำทุกอย่าง จะพลิกฟื้นกันอย่างไร ดังนั้น หลังจากนี้คงจะได้หารือ กันอย่างเป็นรูปธรรมกับนายสนธิ แต่หลังจากนี้ก็จะมีภารกิจกับบุคคลในหลายฝ่ายเช่นนักวิชาการ นักกฎหมายผู้อาวุโสต่างๆ ที่เคยคิดแนวทางประเทศไทยสีขาว แต่ตอนนี้เป้าหมายยังไม่ได้พูดคุยกับทหารหรือกลุ่มนักธุรกิจ"

อ่านข่าว : “สนธิ-จตุพร” สลัดสีเสื้อ-ขั้วตรงข้าม เปิดฉากรบ “เพื่อไทย-ทักษิณ”

นายจตุพร​ ยอมรับว่า​ ตอนนี้ตนเองและนายสนธิเลยความเป็นตัวตนมาแล้ว​ ไม่ได้สนใจกับคำว่า​ ต้องขัดแย้งกันต่อไป​ เพื่อเอาใจมวลชนโดยไม่สนใจบริบท​ ตอนนี้ฝ่ายการเมืองที่ทะเลาะกันก็ไปจูบปากกันหมดแล้ว​ แล้วประชาชนจะมัวทะเลาะกันไปได้อย่างไร​ เพราะถ้าขัดแย้งกันต่อไปแล้วได้รัฐบาลพันธ์ุแบบนี้​ ดังนั้น​ ตนจึงไม่ได้สนใจว่าจะเห็นด้วยหรือไม่​ ไม่ได้แคร์ภาพในตรงนั้นแล้ว​ ปัญหาคือจะต้องการความรู้สึกแบบนั้นไป​เพื่ออะไรในเมื่อก็ไม่ได้เป็นนักการเมืองแล้ว​ แต่ถ้ามองปัญหาชาติบ้านเมืองในวันข้างหน้า​ จะไปสนใจสิ่งเหล่านั้นทำไม

นายจตุพร​ ยอมรับว่า​ ตอนนี้ยังไม่จำเป็นจะต้องลงท้องถนน​ นายทักษิณก็ไปอยู่แล้ว​ รัฐบาลก็ไปอยู่แล้ว​ แต่สิ่งที่ห่วงคือการเมืองในวันข้างหน้า​ ประชาชนจะหลุดพ้นจากวังวนเดิมได้อย่างไร แต่ก็ยอมรับว่าไม่มีอะไรการันตีเรื่องของการลงถนน ในอนาคต​

อีกไม่กี่วันการเมืองก็จะถึงจุดเปลี่ยน​ แต่ทำอย่างไรไม่ให้มันไปสู่วังวนแบบเดิม​ นี่คือโจทย์ใหญ่​ ที่ต้องร่วมกันคิด​ และสิ่งสำคัญคือไม่ควรกินแรงประชาชน​ ก่อนจะนำเสนอในสิ่งที่ควรจะเป็นของบ้านเมืองเรา​ ที่ไม่ต้องจบลงแบบการรัฐประหารแบบเดิม​ หรือการเมืองเพียงแค่สลับคน​ แต่ปัญหายังอยู่เหมือนเดิม

นายจตุพร​ ยังยืนยันว่า​ ไม่ได้​สนใจเรื่องของทุน​ อย่าไปห่วงเรื่องนี้​ มันก็เหมือนการสร้างโบสถ์สร้างวิหาร​ ถ้ารอให้มีเงินก่อนไม่ได้สร้าง​ แต่มีความคิดที่จะสร้าง​ หลังจากนั้นศรัทธา​ก็มาเอง วันนี้ก็ใช้หลักคิดเช่นเดียวกัน เราอาจจะต้องใช้เวลาเพื่อสร้างความเข้าใจให้ประชาชน แต่ถ้าวันนี้​ เราคิดเรื่องเงินเรื่องทุนก่อน มันไปไม่ได้หรอกสเต็ปถัดไปจะเป็นเรื่องของการพูดคุยกับกลุ่มต่างๆ แต่ยังไม่มีทหารและนักธุรกิจ และหลังจากนั้น​ จะมีการแถลงทิศทางร่วมกันอีกครั้ง

อ่านข่าว :

"วิสุทธิ์" ยัน 324 เสียง​พรรคร่วมรับหลักการงบฯ 69 เชื่อไร้อุบัติเหตุทางการเมือง

นายกฯ พร้อมแจงศึกอภิปรายงบฯ ปี 69 - "อนุทิน" ยันภูมิใจไทยไม่มีโหวตขวาง

“โรม” เหน็บ “ทวี” ด้อยค่านายกฯ ไม่เชิญมาพูดเรื่องยาเสพติด แต่กลับเชิญ “ทักษิณ”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง