วันนี้ (29 พ.ค.2568) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปะทะของทหารไทยกับทหารกัมพูชา เมื่อวานนี้ ว่า ผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองฝ่าย จะไปพูดคุยกันในช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจน และเป็นทางการเพิ่มมากขึ้น ซึ่งตั้งแต่เมื่อคืนก็ไม่ได้มีเหตุการณ์รุนแรงอะไร เพราะสามารถตกลงกันได้ว่าทั้งสองฝ่ายต้องการให้เกิดความสงบ จึงถอยกำลังทั้งคู่ ซึ่งก็มีการพูดคุยกันมาตั้งแต่เมื่อวาน และทั้งสองประเทศเห็นตรงกันว่า ไม่อยากให้เกิดความรุนแรงในพื้นที่ที่มีปัญหากัน
เมื่อถามถึงการเสริมกำลังประชิดแนวชายแดนหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ความจริงเป็นหลักเกณฑ์ตามปกติของแต่ละประเทศอยู่แล้ว หากมีการพูดคุยในประเด็นที่หนักขึ้น หรือเกิดการต่อสู้ขึ้น ก็ต้องมีการเสริมกำลังอยู่แล้ว ไม่มีใครปล่อยให้เกิดเรื่อง รวมถึงประเทศไทยด้วยหากเกิดเรื่องที่รุนแรงก็ต้องเสริมกำลัง แต่หากไม่มีเราก็พร้อมจบเพื่อให้เกิดความสงบ และปกป้องคนของเราด้วย
โดยนายกรัฐมนตรียังส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ตามแนวชายแดนว่า เราไม่อยากให้เกิดปัญหาระหว่างชายแดน ไม่ว่าจะเป็นที่ใดก็ตาม จึงขอส่งกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งผู้บัญชาการทหารบก ก็จะลงพื้นที่ไปอยู่แล้ว เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายและเกิดความเข้าใจเพิ่มมากขึ้นทั้งสองฝ่าย และทั้งสองฝ่ายที่อยู่ในพื้นที่ก็ขอให้ใจเย็นลง แล้วมาพูดคุยกันว่า อะไรที่ตกลงกันได้ ก็มาพูดคุยกันดีกว่า
ส่วนจะสร้างความมั่นใจให้ประชาชนตามแนวชายแดนได้อย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร และพยายามสื่อสารให้คนในพื้นที่รู้ว่า เกิดอะไรในพื้นที่บ้าง ขณะเดียวกันก็ขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยกันสื่อสาร เพื่อให้ประชาชนได้ทราบถึงสถานการณ์ ซึ่งจากการพูดคุยกันทั้งสองฝ่ายขณะนี้ไม่มีปัญหาอะไร
ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า เรื่องนี้มีความเข้าใจผิดกันทุกฝ่าย ซึ่งทั้งสองฝ่าย ได้พูดถึงจุดในพื้นที่ว่า แต่ละฝ่ายมีการรุกล้ำดินแดนเข้าไป เมื่อวานตนได้คุยกับที่ปรึกษาของสมเด็จฯ ฮุนเซนแล้ว ในหลักการไม่ต้องการให้มีการเผชิญหน้า อยากให้พยายามพูดคุยกัน โดยที่ไม่แตะเรื่องของดินแดน ณ ตอนนี้
นายภูมิธรรมกล่าวต่อว่า บ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ.จะพูดคุยกับ ผบ.ทบ.กัมพูชา และจะลงไปดูพื้นที่จริงในวันนี้ เพราะขณะนี้ต่างฝ่าย ต่างพูดเรื่องแผนที่ ซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างยากลำบาก
สถานการณ์ตอนนี้ฝั่งกัมพูชามีผู้เสียชีวิต เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องของความรู้สึก และเมื่อวานนี้ ทหารทั้งสองฝ่ายได้ถอยออกจากจุดเผชิญหน้า ฝ่ายละ 200 เมตร จากระยะเดิม 200 เมตร รวมแล้วถอยร่นออกจากแนวชายแดนมาเป็น 400 เมตร
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการเจรจาจบแล้วในอนาคต แต่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ยอม ที่จะทำตามข้อตกลง จะมีมาตรการอย่างไร นายภูมิธรรมระบุว่า ขอไปดูข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นก่อน ซึ่งมีการนัดเจรจากันแล้ว และมอบนโยบายไปชัดเจนแล้วว่า โดยยืนหลักว่า อย่าให้เกิดความรุนแรงขึ้นอีก เพราะอยากให้เกิดสันติสุขในพื้นที่ดังกล่าว และพยายามให้ทั้งสองฝ่ายพยายามหาทางออกร่วมกันให้ได้ ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันในหลักการ
ส่วนกรณีที่ไทยมีท่าทีที่ประนีประนอม แต่ฝั่งกัมพูชากลับมีท่าทีที่แข็งกร้าว นายภูมิธรรม ยืนยันว่า ไม่มี เพราะพูดคุยกันหมดแล้ว พร้อมขอให้สื่อทั้งสองฝ่ายอย่าเพิ่งนำเสนอข่าวให้เรื่องราวเกิดความขยายตัว
อ่านข่าว : ชมสด วันที่ 2 ประชุมสภาฯสมัยวิสามัญ ถกร่างงบฯปี 69