ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

คำสั่งศาลเบรกภาษีทรัมป์ เขย่า "ยุคทอง" แผนเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ต่างประเทศ
19:37
340
คำสั่งศาลเบรกภาษีทรัมป์ เขย่า "ยุคทอง" แผนเศรษฐกิจสหรัฐฯ
อ่านให้ฟัง
09:40อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ศาลการค้าระหว่างประเทศสหรัฐฯ สั่งบล็อกนโยบายภาษีนำเข้าของทรัมป์ รวมถึงภาษี "วันแห่งการปลดปล่อย" และภาษีสากล 10% ทำให้ขาหลักของแผนเศรษฐกิจ "เก้าอี้ 3 ขา" สั่นคลอน รายได้ 150,000 ล้านดอลลาร์/ปีหายวับ ข้อตกลงการค้าลังเล ลุ้นอุทธรณ์เกมจะพลิกหรือไม่

เมื่อวันที่ 28 พ.ค.2568 ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ คณะผู้พิพากษา 3 คนจากศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (US Court of International Trade) ออกคำตัดสินครั้งประวัติศาสตร์ที่อาจเปลี่ยนโฉมแผนเศรษฐกิจของ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ โดยสั่งระงับภาษีนำเข้าหลายประเภทที่ทรัมป์ประกาศใช้ อ้างอำนาจในภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ

ภาษีที่ถูกบล็อกรวมถึง ภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) หรือ "วันแห่งการปลดปล่อย" (Liberation Day) ซึ่งกำหนดอัตราสูงเพื่อตอบโต้ประเทศที่เก็บภาษีสินค้าสหรัฐฯ สูง, ภาษีสากล (Universal Tariffs) อัตราร้อยละ 10 สำหรับสินค้านำเข้าทุกประเภท, ภาษีป้องกันเฟนทานิล มุ่งสกัดยาเสพติดจากจีนและเม็กซิโก

คำตัดสินนี้เปรียบเหมือนการตีขาหลักของ "เก้าอี้ 3 ขา" ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานของแผนเศรษฐกิจทรัมป์ ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนต่อทั้งเศรษฐกิจสหรัฐฯ คู่ค้าทั่วโลก และการเมืองภายในพรรครีพับลิกัน รัฐบาลทรัมป์ยื่นอุทธรณ์ทันที โดยคดีอาจไปถึงศาลฎีกา ซึ่งมีผู้พิพากษาสายอนุรักษนิยม 6 ใน 9 คนที่ทรัมป์แต่งตั้ง

เปิดแผนเศรษฐกิจ "เก้าอี้ 3 ขา" ของทรัมป์

  1. ภาษีนำเข้า สร้างรายได้ 150,000 ล้านดอลลาร์/ปี และกดดันคู่ค้าให้เจรจาการค้า
  2. ลดรายจ่ายภาครัฐ ตัดงบประมาณ เช่น Medicaid มูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อลดขาดดุล
  3. ลดภาษีครั้งใหญ่ กระตุ้นการบริโภคและลงทุน มูลค่ากว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์

"ภาษีนำเข้า" ถือเป็นหัวใจสำคัญ เพราะเป็นทั้งแหล่งรายได้และเครื่องมือทางการเมือง การที่ศาลสั่งบล็อกภาษีนี้เหมือนตัดขาหลักของเก้าอี้ ทำให้โครงสร้างทั้งหมดสั่นคลอน หากไม่มีรายได้จากภาษี แผนลดภาษีอาจถูกต่อต้านจากสมาชิกรีพับลิกันที่กลัวหนี้สาธารณะพุ่ง และข้อตกลงการค้ากับคู่ค้าอาจล่ม

2 ยุทธศาสตร์สำคัญ "ภาษีนำเข้า" ของทรัมป์

  1. เครื่องมือกดดันการค้า ภาษีแห่งการปลดปล่อย บีบให้คู่ค้าหลายสิบประเทศต้องเจรจา เช่น จีนยอมลดภาษีนำเข้าถั่วเหลืองสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีตอบโต้ ข้อตกลงเหล่านี้ช่วยเปิดตลาดให้สินค้าสหรัฐฯ เช่น รถยนต์ Ford หรือข้าวโพดจากมิดเวสต์ ช่วยเกษตรกรและผู้ผลิตสหรัฐฯ ได้เปรียบ
  2. ชดเชยการลดภาษี รายได้ 150,000 ล้านดอลลาร์/ปี จากภาษีช่วยเติมช่องว่างงบประมาณจากการลดภาษีมูลค่า 4 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล แม้จะตัดงบ Medicaid 1 ล้านล้านดอลลาร์ แต่พรรครีพับลิกันบางกลุ่มยังกังวลว่างบจะขาดดุล โดยเฉพาะเมื่อ Congressional Budget Office คาดการณ์หนี้สาธารณะอาจพุ่งเกินร้อยละ 120 ของ GDP ภายในปี 2573

แรงกระเพื่อมหลายมิติ "คำตัดสินศาล"

ข้อตกลงการค้าสะดุด เพราะภาษีที่ถูกบล็อกลดอำนาจต่อรองของทรัมป์ ปัจจุบันสหรัฐฯ มีกรอบข้อตกลงเบื้องต้นกับแค่สหราชอาณาจักร (ลดภาษีรถยนต์) และจีน (เพิ่มโควตานำเข้าถั่วเหลือง) การเจรจากับญี่ปุ่น อินเดีย และสหภาพยุโรปชะลอตัว เพราะคู่ค้าเริ่มสงสัยว่าภาษีอาจไม่บังคับใช้ได้จริง อนิเกต ชาห์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ความยั่งยืนและการเปลี่ยนผ่านที่ Jefferies ชี้ว่า คู่ค้าอาจรอดูผลอุทธรณ์ก่อนตัดสินใจ

ความไม่แน่นอนในธุรกิจ คีธ เลอร์เนอร์ จาก Truist Advisory Services ระบุว่า ธุรกิจ เช่น ผู้ผลิตเหล็กและรถยนต์ สับสนกับอนาคตของภาษี อาจชะลอการลงทุน ผู้บริโภคก็อาจเผชิญราคาสินค้าผันผวน เช่น สินค้าจีนที่อาจถูกภาษีในอนาคต

แรงกดดันในพรรครีพับลิกัน กลุ่มต่อต้านขาดดุลในพรรค เช่น วุฒิสมาชิก รอน จอห์นสัน อาจไม่สนับสนุนร่างกฎหมายลดภาษี หากขาดรายได้จากภาษีนำเข้า ทรัมป์อาจต้องยอมลดขนาดการลดภาษี หรือตัดงบประมาณเพิ่ม เช่น งบสวัสดิการหรือการศึกษา ซึ่งอาจจุดชนวนการประท้วงจากประชาชน

ผลต่อนโยบายเฟนทานิล ภาษีป้องกันยาเสพติดจากจีนและเม็กซิโกถูกบล็อก ทำให้ทรัมป์เสียหน้าในนโยบายต่อต้านยาเสพติด ซึ่งเป็นหนึ่งในวาระหาเสียงสำคัญ

เสียงค้าน "ยุคทอง" ของทรัมป์

แผนเศรษฐกิจ "ยุคทอง" ของทรัมป์ถูกวิจารณ์ว่าเปราะบางตั้งแต่ต้น นักเศรษฐศาสตร์กระแสหลัก เช่น พอล ครุกแมน มองว่ารัฐบาลขาดวินัยทางการคลังและการสนับสนุนทางการเมือง อีลอน มัสก์ ผู้สนับสนุนทรัมป์และทีม DOGE ยังวิจารณ์ว่าร่างกฎหมายภาษี 4 ล้านล้านดอลลาร์จะเพิ่มหนี้สาธารณะ ซึ่งขัดกับเป้าหมายลดต้นทุน ความขัดแย้งภายในพรรครีพับลิกัน เช่น การต่อต้านร่างกฎหมาย "Big, Beautiful Bill" และความล้มเหลวของ DOGE ในการตัดงบประมาณ สะท้อนถึงความอ่อนแอของแผน

นอกจากนี้ นโยบายการค้าของทรัมป์สร้างความผันผวน เช่น การระงับภาษีชั่วคราว 3 เดือนในเดือน มี.ค.2568 ทำให้คู่ค้าสับสน และการที่ทรัมป์ผลักดันภาษีโดยไม่ปรึกษาคองเกรส ทำให้เกิดการฟ้องร้องจากสมาคมการค้า เช่น National Association of Manufacturers

ทรัมป์อุทธรณ์ทันทีหลังศาลสั่ง

รัฐบาลทรัมป์ยื่นอุทธรณ์คำตัดสินทันที โดยคดีอาจไปถึงศาลฎีกา ซึ่งมีแนวโน้มเอียงข้างทรัมป์ เนื่องจากผู้พิพากษา 6 ใน 9 คนเป็นสายอนุรักษนิยมที่เขาแต่งตั้ง แต่กระบวนการอาจใช้เวลาหลายเดือน ระหว่างนี้ ทรัมป์อาจหาทางเก็บภาษีใหม่ เช่น ใช้ มาตรา 232 ของกฎหมายขยายการค้า ซึ่งให้อำนาจประธานาธิบดีเก็บภาษีโดยอ้างความมั่นคงแห่งชาติ ตัวอย่างคือ ปี 2561 ทรัมป์ใช้มาตรานี้เก็บภาษีเหล็กร้อยละ 25 และอะลูมิเนียมร้อยละ 10 โดยไม่ถูกศาลขวาง

แกรี่ ไคลด์ ฮัฟบาวเออร์ จาก Peterson Institute for International Economics เปรียบสถานการณ์นี้เหมือนเกม "ทุบตัวตุ่น" ที่รัฐบาลอาจหาช่องทางใหม่เก็บภาษี แม้ศาลบล็อกช่องทางเดิม เออร์นี่ เทเดสชี่ จาก Yale Budget Lab เตือนว่า ความไม่แน่นอนนี้กระทบธุรกิจหนัก เช่น ผู้ผลิตชิปอย่าง Intel อาจชะลอการขยายโรงงานในสหรัฐฯ และผู้บริโภคอาจเจอราคาสินค้าผันผวน เช่น สมาร์ตโฟนหรือเครื่องใช้ไฟฟ้า

คำตัดสินที่ส่งผลต่อโลก

  • สหรัฐฯ ผู้บริโภคอาจเจอราคาสินค้าผันผวน เช่น สินค้าจากจีนที่อาจถูกภาษีใหม่ ธุรกิจ เช่น ผู้ผลิตรถยนต์ GM อาจชะลอการลงทุนรอความชัดเจน การเมืองภายในพรรครีพับลิกันอาจแตกแยก หากทรัมป์ยืนกรานผลักดันร่างกฎหมายภาษี
  • จีน-สหภาพยุโรป อาจชะลอการเจรจา รอดูผลอุทธรณ์
  • ญี่ปุ่น อาจตอบโต้ด้วยภาษีรถยนต์สหรัฐฯ หากทรัมป์เก็บภาษีใหม่
  • อินเดีย อาจลดโควตานำเข้าข้าวสาลีสหรัฐฯ สร้างความเสียหายให้เกษตรกร

ความไม่แน่นอนอาจกระทบห่วงโซ่อุปทาน เช่น การผลิตชิปในเอเชียที่สหรัฐฯ พึ่งพา ราคาสินค้าอาจผันผวนทั่วโลก หากศาลฎีกายืนตามคำตัดสินเดิม ทรัมป์อาจต้องทบทวนแผนเศรษฐกิจทั้งหมด เช่น ลดขนาดการลดภาษี หรือตัดงบประมาณเพิ่ม ซึ่งอาจจุดชนวนการประท้วงจากกลุ่มสวัสดิการ ในทางกลับกัน หากชนะอุทธรณ์ ภาษีอาจกลับมา แต่ความสัมพันธ์กับคู่ค้าจะยิ่งตึงเครียด

อ่านข่าวอื่น :

นายกฯ ชี้ "สัญญาณบวก" หลังศาลสหรัฐฯ ระงับขึ้นภาษี

"ไทย-กัมพูชา" ถกสางปมปะทะช่องบก สั่ง 2 ฝ่ายถอนกำลัง 200 เมตร