วันนี้ (30 พ.ค.2568) ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทย-กัมพูชา หลังเกิดเหตุปะทะบริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี ว่า คิดว่าน่าจะเคลียร์กันจบแล้ว เพราะผู้ใหญ่ทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดีคุยกันรู้เรื่อง และทางทหารก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และเรื่องดังกล่าวเป็นการกระทบกระทั่งกันในพื้นที่ ของทหารชั้นผู้น้อย ซึ่งมีกติกาที่ว่า เขตแดนที่ไม่ชัดเจน ไม่มีการปักปัน ใครจะอ้างสิทธิ์อย่างไรก็ให้ถอยออกไปก่อน หรือเป็น No man's land ไม่มีผู้ที่ครอบครองหรือใช้สิทธิ์ ซึ่งก็จะไม่เกิดเหตุกระทบกระทั่งกัน เพราะการปักปันเขตแดนของแต่ละประเทศทั่วโลก บางครั้งต้องใช้เวลานานเป็น 1,000 ปี พูดคุยกันไม่จบ และบริเวณดังกล่าวก็ไม่มีอะไรเป็นพื้นที่ป่า
ส่วนได้มีการพูดคุยกับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภา และประธานองคมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา แล้วหรือไม่นั้น นายทักษิณระบุว่า ทั้ง 2 รัฐบาลมีการพูดคุยกันตลอด
ส่วนนายทักษิณได้มีการพูดคุยกับสมเด็จฮุนเซนเป็นการส่วนตัวหรือไม่นั้น นายทักษิณ ระบุว่า ตนและสมเด็จฮุนเซนมีการพูดคุยกันเป็นประจำ เพียงแต่ขอทุกฝ่ายอย่าไปเติมเชื้อไฟ ให้เกิดการกระทบกระทั่งบริเวณชายแดนหรือที่จะเกิดเหตุยิงกันก็ขอให้กลายเป็นการเตะตะกร้อร่วมกัน
ส่วนท่าทีของสมเด็จฮุนเซน ที่จะส่งกำลังมาเพิ่มบริเวณชายแดน จะทำให้เหตุการณ์รุนแรงขึ้นหรือไม่นั้น นายทักษิณ ยืนยันว่าไม่มี และขณะนี้มีการถอนกำลังหมดแล้ว
ส่วนเงื่อนไขข้อตกลงระหว่างกองทัพไทยกับกัมพูชาที่ยังไม่ตรงกันนั้น นายทักษิณ กล่าวว่า จะดีขึ้นบางครั้งก็คนละที แต่หลักการคือไม่มีการเพิ่มความตึงเครียด และจะต้องช่วยกันทั้งสองฝ่าย และพยายามสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ ว่าทั้ง 2 ประเทศเป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ไม่ควรมีความขัดแย้งใดๆ
ส่วนที่สมเด็จฮุนเซนมีการหยิบยกประเด็นประสาทของพระวิหารมาโพสต์เฟซบุ๊กด้วยนั้น นายทักษิณแล้วบอกว่าตนเองยังไม่ได้อ่าน
อ่านข่าว :
ผลเจรจา ผบ.ทบ.ไทย-กัมพูชา ยึดแนวทางสันติวิธี ใช้กลไก JBC แก้ปัญหา
วิเคราะห์ผลกระทบเหตุปะทะ "ไทย-กัมพูชา"
ชาวบ้านชายแดนไทย - กัมพูชา คลายความกังวล หลังผลเจรจายึดแนวทางสันติวิธี