ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ปรับครม.กลางมรสุมการเมือง แค่เริ่มต้นก็วุ่นวายตอบไม่ถูก

การเมือง
15:57
205
ปรับครม.กลางมรสุมการเมือง แค่เริ่มต้นก็วุ่นวายตอบไม่ถูก
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ไม่ว่าข้อเสนอ “ปรับทั้งกระดาน” ของพรรคภูมิใจไทย จะได้รับการสนองตอบแค่ไหน แต่ที่ชัดเจน คือรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทย ไม่อาจยื้อเรื่องปรับคณะรัฐมนตรีออกไปได้อีก

อย่างที่นายกฯ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พยายามแสดงท่าทีผ่านคำพูด เพื่อไม่ให้ถูกมองว่า ไม่ได้มีอำนาจตัดสินใจเอง แต่ถูกครอบงำโดยนายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา

แต่กระนั้น โจทย์ใหญ่ที่ถูกตั้งคำถาม หวังให้ตอบ ยังมีมากมายอยู่ดี ตั้งแต่เป็นการปรับเพื่อกระชับอำนาจ หรือเกี้ยเซียะกัน ในกลุ่มพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประชาชนเป็นศูนย์กลาง และไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจหรือยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนได้จริง

จะเป็นการปรับแค่แลกเปลี่ยนกระทรวง ที่อยากได้อย่างมหาดไทย แลกกับกระทรวงที่เพื่อไทยดูแลอยู่ อย่างกระทรวงพาณิชย์ สาธารณสุข หรือ ดีอีเอส จนเกิดสูตร 2 ต่อ 1 ซึ่งจะยิ่งเพิ่มปัญหาสำหรับพรรคเพื่อไทย เพราะลำพังที่ได้โควตาอยู่ ก็ไม่เพียงพอต่อการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีให้กับคนในพรรคนั่ง ทั้งแบบคนหน้าเก่าและที่รอคิวนั่งเก้าอี้ดนตรี เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงต้องมี 1 คน ที่ต้องกระเด็นหลุดจากรัฐมนตรีตามสูตรนี้

หรือจะเป็นแบบเกลี่ยกระทรวงกันใหม่ โดยพรรคร่วมรัฐบาลยังหน้าเดิม ๆ แนวทางนี้ก็ไม่มีหลักประกันใด ๆ ว่าจะตอบโจทย์ประชาชนได้อยู่ดี หรือหากเปลี่ยนพรรคร่วมรัฐบาล ถึงขั้นเปลี่ยนขั้วสลับข้าง เขี่ยพรรคภูมิใจไทย ที่เป็นเป้าหมายใหญ่มาตลอดออกไป

แล้วใช้ “โมเดล” แบบ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เมื่อครั้งขน สส.20 คนออกไปอยู่พรรคใหม่ แล้วย้อนกลับเข้าร่วมรัฐบาล เพื่อขับพรรคพลังประชารัฐออกไปเป็นฝ่ายค้านแทน

ดังที่มีข่าววงในเกิดขึ้นกับพรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ เตรียมย้ายไปอยู่พรรคโอกาสใหม่ หลังยอมรับว่า ไปอาศัยบ้านคนอื่นอยู่แล้ว พบว่าไปกันไม่ได้ และภารกิจได้สิ้นสุดลงตั้งแต่ “ผู้มีพระคุณ” ออกจากพรรคการเมืองนี้ไปแล้ว

แต่ไม่ใช่จะจากไปมือเปล่า นายสุชาติยังเตรียมจะเอา สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ไปด้วย ท่ามกลางกระแสข่าวที่อ้างว่า มีกลุ่ม สส.ให้การสนับสนุนมากถึง 27 คน จากจำนวน สส.ของพรรคทั้งหมด 36 คน พร้อมพลิกเกมชิงความได้เปรียบเข้าร่วมรัฐบาล แต่ให้ขับพรรครวมไทยสร้างชาติ ในสายของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน ไปเป็นฝ่ายค้านแทน เหมือนกรณีพรรคพลังประชารัฐในสาย “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ปัญหาสำคัญ หากเป็นตามสมการนี้ คือจะยังคงมีพรรคภูมิใจไทยอยู่ในรัฐบาลต่อไปหรือไม่ เพราะแม้จะมีพรรคกล้าธรรมของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็น “หัวหมู่ทะลวงฟัน” คอยดึงพรรคเล็กพรรคน้อย และอาจรวมถึง สส.งูเห่า บางส่วนในพรรคพลังประชารัฐและพรรคอื่น อย่างกรณี สส.ชลบุรี พรรคประชาชน มาคอยเติมจำนวน สส.ให้กับรัฐบาลแล้ว จะมีเสถียรภาพและเป็นเสียงข้างมากในสภาผู้แทนฯ หรือไม่

หรือต้องใช้วิธีดึงเสียงจาก สส.งูเห่า เพื่อเติมเต็มเสียงโหวตสนับสนุนในสภาเป็นกรณีๆ ไป เพราะเป้าหมายการดึงพรรคประชาชนเข้าร่วมรัฐบาลในสมัยนี้ ดูท่าทียังจะเป็นเรื่องยากอยู่ต่อไป

แต่สมการดังกล่าว จะเป็นไปได้มากแค่ไหน ในทางการเมืองปัจจุบัน จะเป็นคำถามใหญ่ ท่ามกลางความคลางแคลงใจต่อรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยในสายตาของประชาชน ที่นับวันยิ่งพอกพูนไม่รู้จบ

ต่อเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจ ราคาสินค้า และค่าครองชีพแพง การแก้ปัญหายาเสพติด การทุจริตคอร์รัปชัน ไร้คำตอบจากกรณีตึก สตง.ถล่ม คดีฮั้ววเลือก สว. เรื่องกำแพงภาษีโดนัลด์ ทรัมป์ และล่าสุด ความมั่นคงชายแดน กรณีช่องบก จ.อุบลราชธานี ที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ใส่รัฐบาลจนหา “หางเสือ” ไม่เจอ

ที่สำคัญคือบารมี และความน่าเชื่อถือของนายทักษิณ ชินวัตร แตกต่างไปจากเมื่อ 20 ปีก่อนอย่างชัดเจน กระทั่งกูรูการเมืองหลายคน ฟันธงสอดคล้องกันว่า

สาระพันปัญหาที่รัฐบาล น.ส.แพทองธาร กำลังเผชิญอยู่ และหาทางออกไม่เจอขณะนี้ มาจากการไม่ยอมลดรา หรือยุติบทบาททางการเมืองของนายทักษิณ ทั้งในรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย

การปรับ ครม. ซึ่งเป็นทางออกหนึ่งเดียวที่รัฐบาลฝากความหวังไว้ขณะนี้ จึงเป็นเรื่องยากตั้งแต่เริ่มต้น และไม่มีใครรับประกันว่า จะ”ตอบโจทย์”ของประเทศขณะนี้ได้จริง

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : "เฉลิมชัย" ระบุปลาน้ำกกบวม เกิดจากพยาธิไม่ใช่สารพิษ

วิเคราะห์ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ไร้กลยุทธ์ป้องอธิปไตย?

มท.แจ้งด่วนผู้ว่าฯ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา ดูแลความปลอดภัย ปชช.