เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2568 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต ของกัมพูชา เปิดเผยว่าได้ให้คำแนะนำกับคณะกรรมการเขตแดนร่วมระหว่างกัมพูชา-ไทย (JBC) ให้จัดประชุมกับฝ่ายไทย เพื่อแก้ไขปัญหาเขตแดน พร้อมทั้งจะเสนอเรื่องพิพาทในพื้นที่ 4 แห่ง ต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ได้แก่
- ปราสาทตาเมือนธม
- ปราสาทตาเมือนโต๊ด
- ปราสาทตาควาย
- พื้นที่มอมเบย (สามเหลี่ยมมรกต)
การเคลื่อนไหวดังกล่าวสร้างความกังวลในสังคมไทยไม่น้อย โดยเฉพาะกรณีปราสาทตาเมือนธม และ ปราสาทตาเมือนโต๊ด ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม "ปราสาทตาเมือน" โบราณสถานหินทรายสมัยอาณาจักรเขมรโบราณ ตั้งอยู่ในเขต อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ติดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา
ส่วนปราสาทตาควาย แม้จะอยู่นอกกลุ่มดังกล่าว แต่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกันจึงถูกรวมในข้อเสนอของกัมพูชาครั้งนี้ด้วย การเคลื่อนไหวนี้จะทำให้หลายฝ่ายจับตามองอย่างใกล้ชิด แต่อีกด้านหนึ่งหากมองย้อนลึกไปในประวัติศาสตร์จะพบว่ารากเหง้าของข้อพิพาทเหล่านี้เชื่อมโยงกับอิทธิพลของอาณาจักรขอมที่แผ่ขยายเข้ามาดินแดนไทยในอดีต
อดีตที่ทับซ้อน 3 ปราสาทขอม 1 พื้นที่ในฝั่งไทย
ปราสาทตาเมือนธม และ ปราสาทตาเมือนโต๊ด เป็นโบราณสถานกลุ่มปราสาท "ตาเมือน" ตั้งอยู่ในบริเวณเขต บ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ตั้งอยู่บนเส้นทางโบราณที่เชื่อมระหว่างชุมชนในกัมพูชาและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย โดยผ่านช่องเขาตาเมือน ในเทือกเขาพนมดงรัก
1.ปราสาทตาเมือนธม ตั้งอยู่บนเนินเขาหินทราย บริเวณแนวเทือกเขาพนมดงรัก ติดชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ด้านหน้าทางทิศใต้ค่อนข้างลาดชัน ปรากฏร่องรอยหินธรรมชาติเด่นชัดเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย สร้างราวพุทธศตวรรษที่ 16–17 สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 (ประมาณ 900–1,000 ปีมาแล้ว) ตามแบบศิลปะเขมรบาปวน ถือเป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มปราสาทตาเมือน
องค์ประกอบสำคัญของปราสาท ได้แก่
- ปราสาทประธาน
- ปราสาทบริวาร
- บรรณาลัย
- ระเบียงคด
ในปราสาทพบหลักฐานทางโบราณคดี เช่น ศิลาจารึก ประติมากรรม ชิ้นส่วนอาคารและวัตถุโบราณจำนวนมาก จารึกบางหลักมีอายุตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 12–16 กล่าวถึงการถวายทรัพย์ การตั้งเขตแดน และการสาปแช่งผู้ทำลายโบราณสถาน

ปราสาทตาเมือนธม ที่มา : Wikipedia
ปราสาทตาเมือนธม ที่มา : Wikipedia
2.ปราสาทตาเมือนโต๊ด ตั้งอยู่ในเขาตาเมือน เขต บ้านหนองคันนาสามัคคี หมู่ 8 ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เป็นโบราณสถานประเภท "อโรคยศาล" หรือศาสนาสถานประจำสถานพยาบาล ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอาณาจักรเขมรโบราณ ทรงโปรดให้สร้างขึ้น ตามที่กล่าวไว้ในจารึกปราสาทตาพรหม ของกัมพูชา มีขึ้นเพื่อให้บริการรักษาโรคแก่ประชาชน
อโรคยศาลประกอบด้วยอาคาร 2 ส่วน คือ
- ศาสนาสถาน สร้างจากวัสดุแข็งแรง เช่น หินทรายและศิลาแลง ยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน
- อาคารพยาบาล สร้างด้วยไม้ ปัจจุบันไม่หลงเหลือแล้ว
องค์ประกอบสำคัญของปราสาท ได้แก่
- ปราสาทประธาน
- บรรณาลัยหรือวิหาร
- กำแพงแก้ว
- สระน้ำ
มีการพบจารึกปราสาทเมือนโต๊ด อักษรขอม ภาษาสันสกฤต กล่าวถึงพระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภา (พระพุทธเจ้าทางการแพทย์) พร้อมกล่าวถึงการจัดตั้งสถานพยาบาล เจ้าหน้าที่ วัสดุ สมุนไพร และการรักษาโรคในสมัยนั้น

ปราสาทตาเมือนโต๊ด ที่มา : Wikipedia
ปราสาทตาเมือนโต๊ด ที่มา : Wikipedia
3.ปราสาทตาควาย หรือ เรียกในภาษาเขมรว่า ปราสาทกรอเบย (บฺราสาทตากฺรบี) เป็นโบราณสถานหินศิลาแลง ตั้งอยู่บริเวณช่องตาควาย หมู่บ้านไทยนิยมพัฒนา หมู่ 17 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ อยู่ห่างจาก ปราสาทตาเมือนธม ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 12 กิโลเมตร จากรูปทรงนักประวัติศาสตร์คาดการณ์ว่าปราสาทนี้น่าจะสร้างในช่วงปลายสมัยนครวัด ต่อ ตอนต้นสมัยบายน ซึ่งจะอยู่ในช่วงระหว่าง พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ถึงพระเจ้าชัยวรมันที่ 7
องค์ประกอบสำคัญของปราสาท
- ตัวปราสาทมีลักษณะเป็นอาคาร "จตุรมุข" ตั้งอยู่บนแนวสันเขา หันหน้าไปทางทิศตะวันออก
- โครงสร้างผสมศิลาแลงและหินทราย ฐานล่างสุดก่อด้วยศิลาแลง ส่วนบนของปราสาทก่อด้วยหินทรายทั้งหมด
- ห้องครรภคฤหะ มีหลังคาก่อเป็นทรงพุ่มยอดปรางค์ ซ้อนลดหลั่น 5 ชั้น
- หลังคามุขทั้ง 4 ด้าน แต่ละด้านมีหลังคาทรงประทุน
- ภายในห้องครรภคฤหะ ประดิษฐานสวายยัมภูวลึงค์
ปราสาทตาควาย ที่มา : ด่านศุลกากรช่องจอม
ปราสาทตาควาย ที่มา : ด่านศุลกากรช่องจอม
4.พื้นที่มอมเบย (สามเหลี่ยมมรกต) สามเหลี่ยมมรกต คือ พื้นที่รอยต่อชายแดนของ 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย–กัมพูชา–ลาว ซึ่งได้ร่วมมือกันขึ้นเมื่อเดือน มิ.ย.2543 โดยมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริม ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน ในบริเวณที่มีพรมแดนติดกัน
พื้นที่สามเหลี่ยมมรกตมีขนาดประมาณ 12 ตร.กม. โดยแบ่งตามพื้นที่ของแต่ละประเทศ ดังนี้
- ฝั่งไทย ตั้งอยู่ในพื้นที่ อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี
- ฝั่งลาว คือ เมืองมูลประโมกข์ แขวงจำปาสัก
- ฝั่งกัมพูชา คือ เมืองจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหาร
"ช่องบก" คือ หนึ่งในพื้นที่สำคัญของสามเหลี่ยมมรกต ตั้งอยู่ในเขต อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ฝั่งประเทศไทย ช่องบกเป็นพื้นที่ที่เคยมีความสำคัญทางทหารในอดีตและยังคงเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่มีความอ่อนไหว เนื่องจากยังไม่มีการปักปันเขตแดนอย่างชัดเจนระหว่างไทยและกัมพูชา

หลังจากเหตุการณ์การปะทะ เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา สะท้อนว่า แม้พื้นที่สามเหลี่ยมมรกตจะถูกพัฒนาให้เป็นแหล่งความร่วมมือระดับภูมิภาค แต่ก็ยังคงมีประเด็นความมั่นคงและการอ้างสิทธิ์ที่อ่อนไหว ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
4 พื้นที่ชายแดนดังกล่าว ยังคงเผชิญกับปัญหาความไม่ชัดเจนในการปักปันเขตแดน ซึ่งเป็นปัจจัยที่นำไปสู่ข้อพิพาทและการเผชิญหน้าระหว่าง 2 ประเทศในบางช่วงเวลาต่อมา
เรียบเรียง : ศศิมาภรณ์ สุขประสิทธิ์ นักศึกษาฝึกงาน โครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ข้อมูลจาก สำนักศิลปากรที่ 12 นครราชสีมา กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม, ด่านศุลกากรช่องจอม
อ่านข่าวเพิ่ม :
เปิดไทม์ไลน์ "ทรัมป์-มัสก์" จุดแตกหักพันธมิตรสุดแกร่ง
ประเมิน "กองทัพเรือกัมพูชา" อยู่ตรงไหนในอาเซียน ?