ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ปราสาทชายแดนร้อน! กัมพูชาอ้างสิทธิ์ 3 โบราณสถาน 1 พื้นที่ฝั่งไทย

ต่างประเทศ
16:00
2,586
ปราสาทชายแดนร้อน! กัมพูชาอ้างสิทธิ์ 3 โบราณสถาน 1 พื้นที่ฝั่งไทย
อ่านให้ฟัง
08:15อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ชายแดนเดือด! กัมพูชาอ้างสิทธิ์ 3 ปราสาทดังฝั่งไทย เสนอข้อพิพาทสู่ศาลโลก จับตาแนวชายแดนสุรินทร์–อุบลฯ เสี่ยงตึงเครียดซ้ำรอยเขาพระวิหาร พร้อมเจาะลึกประวัติศาสตร์โบราณสถานที่อาจกลายเป็นชนวนใหม่ของความขัดแย้ง

เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2568 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต ของกัมพูชา เปิดเผยว่าได้ให้คำแนะนำกับคณะกรรมการเขตแดนร่วมระหว่างกัมพูชา-ไทย (JBC) ให้จัดประชุมกับฝ่ายไทย เพื่อแก้ไขปัญหาเขตแดน พร้อมทั้งจะเสนอเรื่องพิพาทในพื้นที่ 4 แห่ง ต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ได้แก่

  1. ปราสาทตาเมือนธม
  2. ปราสาทตาเมือนโต๊ด
  3. ปราสาทตาควาย
  4. พื้นที่มอมเบย (สามเหลี่ยมมรกต)

การเคลื่อนไหวดังกล่าวสร้างความกังวลในสังคมไทยไม่น้อย โดยเฉพาะกรณีปราสาทตาเมือนธม และ ปราสาทตาเมือนโต๊ด ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม "ปราสาทตาเมือน" โบราณสถานหินทรายสมัยอาณาจักรเขมรโบราณ ตั้งอยู่ในเขต อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ติดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา

ส่วนปราสาทตาควาย แม้จะอยู่นอกกลุ่มดังกล่าว แต่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกันจึงถูกรวมในข้อเสนอของกัมพูชาครั้งนี้ด้วย การเคลื่อนไหวนี้จะทำให้หลายฝ่ายจับตามองอย่างใกล้ชิด แต่อีกด้านหนึ่งหากมองย้อนลึกไปในประวัติศาสตร์จะพบว่ารากเหง้าของข้อพิพาทเหล่านี้เชื่อมโยงกับอิทธิพลของอาณาจักรขอมที่แผ่ขยายเข้ามาดินแดนไทยในอดีต

อดีตที่ทับซ้อน 3 ปราสาทขอม 1 พื้นที่ในฝั่งไทย

ปราสาทตาเมือนธม และ ปราสาทตาเมือนโต๊ด เป็นโบราณสถานกลุ่มปราสาท "ตาเมือน" ตั้งอยู่ในบริเวณเขต บ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ตั้งอยู่บนเส้นทางโบราณที่เชื่อมระหว่างชุมชนในกัมพูชาและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย โดยผ่านช่องเขาตาเมือน ในเทือกเขาพนมดงรัก

1.ปราสาทตาเมือนธม ตั้งอยู่บนเนินเขาหินทราย บริเวณแนวเทือกเขาพนมดงรัก ติดชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ด้านหน้าทางทิศใต้ค่อนข้างลาดชัน ปรากฏร่องรอยหินธรรมชาติเด่นชัดเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย สร้างราวพุทธศตวรรษที่ 16–17 สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 (ประมาณ 900–1,000 ปีมาแล้ว) ตามแบบศิลปะเขมรบาปวน ถือเป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มปราสาทตาเมือน

องค์ประกอบสำคัญของปราสาท ได้แก่

  1. ปราสาทประธาน
  2. ปราสาทบริวาร
  3. บรรณาลัย
  4. ระเบียงคด

ในปราสาทพบหลักฐานทางโบราณคดี เช่น ศิลาจารึก ประติมากรรม ชิ้นส่วนอาคารและวัตถุโบราณจำนวนมาก จารึกบางหลักมีอายุตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 12–16 กล่าวถึงการถวายทรัพย์ การตั้งเขตแดน และการสาปแช่งผู้ทำลายโบราณสถาน

ปราสาทตาเมือนธม ที่มา : Wikipedia

ปราสาทตาเมือนธม ที่มา : Wikipedia

ปราสาทตาเมือนธม ที่มา : Wikipedia

2.ปราสาทตาเมือนโต๊ด ตั้งอยู่ในเขาตาเมือน เขต บ้านหนองคันนาสามัคคี หมู่ 8 ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เป็นโบราณสถานประเภท "อโรคยศาล" หรือศาสนาสถานประจำสถานพยาบาล ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอาณาจักรเขมรโบราณ ทรงโปรดให้สร้างขึ้น ตามที่กล่าวไว้ในจารึกปราสาทตาพรหม ของกัมพูชา มีขึ้นเพื่อให้บริการรักษาโรคแก่ประชาชน

อโรคยศาลประกอบด้วยอาคาร 2 ส่วน คือ

  1. ศาสนาสถาน สร้างจากวัสดุแข็งแรง เช่น หินทรายและศิลาแลง ยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน
  2. อาคารพยาบาล สร้างด้วยไม้ ปัจจุบันไม่หลงเหลือแล้ว

องค์ประกอบสำคัญของปราสาท ได้แก่

  1. ปราสาทประธาน
  2. บรรณาลัยหรือวิหาร
  3. กำแพงแก้ว
  4. สระน้ำ

มีการพบจารึกปราสาทเมือนโต๊ด อักษรขอม ภาษาสันสกฤต กล่าวถึงพระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภา (พระพุทธเจ้าทางการแพทย์) พร้อมกล่าวถึงการจัดตั้งสถานพยาบาล เจ้าหน้าที่ วัสดุ สมุนไพร และการรักษาโรคในสมัยนั้น

ปราสาทตาเมือนโต๊ด ที่มา : Wikipedia

ปราสาทตาเมือนโต๊ด ที่มา : Wikipedia

ปราสาทตาเมือนโต๊ด ที่มา : Wikipedia

3.ปราสาทตาควาย หรือ เรียกในภาษาเขมรว่า ปราสาทกรอเบย (บฺราสาทตากฺรบี) เป็นโบราณสถานหินศิลาแลง ตั้งอยู่บริเวณช่องตาควาย หมู่บ้านไทยนิยมพัฒนา หมู่ 17 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ อยู่ห่างจาก ปราสาทตาเมือนธม ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 12 กิโลเมตร จากรูปทรงนักประวัติศาสตร์คาดการณ์ว่าปราสาทนี้น่าจะสร้างในช่วงปลายสมัยนครวัด ต่อ ตอนต้นสมัยบายน ซึ่งจะอยู่ในช่วงระหว่าง พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ถึงพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 

องค์ประกอบสำคัญของปราสาท

  1. ตัวปราสาทมีลักษณะเป็นอาคาร "จตุรมุข" ตั้งอยู่บนแนวสันเขา หันหน้าไปทางทิศตะวันออก
  2. โครงสร้างผสมศิลาแลงและหินทราย ฐานล่างสุดก่อด้วยศิลาแลง ส่วนบนของปราสาทก่อด้วยหินทรายทั้งหมด
  3. ห้องครรภคฤหะ มีหลังคาก่อเป็นทรงพุ่มยอดปรางค์ ซ้อนลดหลั่น 5 ชั้น
  4. หลังคามุขทั้ง 4 ด้าน แต่ละด้านมีหลังคาทรงประทุน
  5. ภายในห้องครรภคฤหะ ประดิษฐานสวายยัมภูวลึงค์
    ปราสาทตาควาย ที่มา : ด่านศุลกากรช่องจอม

    ปราสาทตาควาย ที่มา : ด่านศุลกากรช่องจอม

    ปราสาทตาควาย ที่มา : ด่านศุลกากรช่องจอม

4.พื้นที่มอมเบย (สามเหลี่ยมมรกต) สามเหลี่ยมมรกต คือ พื้นที่รอยต่อชายแดนของ 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย–กัมพูชา–ลาว ซึ่งได้ร่วมมือกันขึ้นเมื่อเดือน มิ.ย.2543 โดยมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริม ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน ในบริเวณที่มีพรมแดนติดกัน

พื้นที่สามเหลี่ยมมรกตมีขนาดประมาณ 12 ตร.กม. โดยแบ่งตามพื้นที่ของแต่ละประเทศ ดังนี้

  • ฝั่งไทย ตั้งอยู่ในพื้นที่ อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี
  • ฝั่งลาว คือ เมืองมูลประโมกข์ แขวงจำปาสัก
  • ฝั่งกัมพูชา คือ เมืองจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหาร

"ช่องบก" คือ หนึ่งในพื้นที่สำคัญของสามเหลี่ยมมรกต ตั้งอยู่ในเขต อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ฝั่งประเทศไทย ช่องบกเป็นพื้นที่ที่เคยมีความสำคัญทางทหารในอดีตและยังคงเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่มีความอ่อนไหว เนื่องจากยังไม่มีการปักปันเขตแดนอย่างชัดเจนระหว่างไทยและกัมพูชา

หลังจากเหตุการณ์การปะทะ เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา สะท้อนว่า แม้พื้นที่สามเหลี่ยมมรกตจะถูกพัฒนาให้เป็นแหล่งความร่วมมือระดับภูมิภาค แต่ก็ยังคงมีประเด็นความมั่นคงและการอ้างสิทธิ์ที่อ่อนไหว ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

4 พื้นที่ชายแดนดังกล่าว ยังคงเผชิญกับปัญหาความไม่ชัดเจนในการปักปันเขตแดน ซึ่งเป็นปัจจัยที่นำไปสู่ข้อพิพาทและการเผชิญหน้าระหว่าง 2 ประเทศในบางช่วงเวลาต่อมา

เรียบเรียง : ศศิมาภรณ์ สุขประสิทธิ์ นักศึกษาฝึกงาน โครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ข้อมูลจาก สำนักศิลปากรที่ 12 นครราชสีมา กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม, ด่านศุลกากรช่องจอม

อ่านข่าวเพิ่ม :

เปิดไทม์ไลน์ "ทรัมป์-มัสก์" จุดแตกหักพันธมิตรสุดแกร่ง

ประเมิน "กองทัพเรือกัมพูชา" อยู่ตรงไหนในอาเซียน ?