สื่อท้องถิ่นกัมพูชา เผยแพร่เอกสารของฐานทัพเรือเรียมใน จ.พระสีหนุ แจ้งเกี่ยวกับการซ้อมรบด้วยกระสุนจริง ระหว่างวันที่ 11-13 มิ.ย.นี้ โดยร้องขอให้ประชาชนและชาวประมงในพื้นที่ไม่ต้องตื่นตกใจหากได้ยินเสียงปืน หรือเห็นการเคลื่อนกำลังกองเรือในทะเลระหว่างการซ้อมรบดังกล่าว รวมทั้งขอให้หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อความปลอดภัย
การซ้อมรบดังกล่าวเกิดขึ้นเพียง 1 เดือนหลังจากภารกิจซ้อมรบร่วมจีน-กัมพูชา Golden Dragon ครั้งที่ 7 ซึ่งเปิดฉากขึ้นที่ จ.กัมปงชนัง และพระสีหนุ เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ต่อเนื่องนาน 2 สัปดาห์ โดยถือเป็นการซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่เริ่มจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2016 ซึ่งจีนส่งเรือรบเข้าร่วมภารกิจ 3 ลำ
กองทัพกัมพูชา ระบุว่า การซ้อมรบจัดขึ้นในน่านน้ำระหว่าง "เกาะตัง" และ "เกาะปูเลอ ไว" ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของกัมพูชาที่ จ.พระสีหนุ ประมาณ 95 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากไทยกว่า 180 กิโลเมตร โดยสื่อท้องถิ่นบางสำนัก รายงานว่า จะมีการระดมกำลังทหารเรือไม่ต่ำกว่า 50 นายและเรือรบอีก 2 ลำเข้าร่วม

ผู้บัญชาการฐานทัพเรือเรียม ระบุว่า การซ้อมรบด้วยกระสุนจริงที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นเพียงการซ้อมรบตามปกติ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการใช้อาวุธของกองทัพเรือเท่านั้น ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ประเด็นใดเป็นพิเศษ รวมทั้งไม่ได้เป็นภัยคุกคามประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ
ฐานทัพเรือเรียม เป็นฐานทัพเรือที่เพิ่งได้รับการปรับปรุงใหม่ด้วยเงินทุนของจีน ก่อนหน้านี้ "ฮุน มาเนต" นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ร่วมพิธีเปิดฐานทัพเรือแห่งนี้เมื่อต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ก่อนจะเริ่มใช้เป็นสถานที่จัดการซ้อมรบเป็นครั้งแรกระหว่างภารกิจ Golden Dragon เมื่อเดือน พ.ค.
กองทัพเรือกัมพูชาถือว่ามีขีดความสามารถอยู่จำกัด โดยข้อมูลจากทางการออสเตรเลีย ชี้ว่า กัมพูชามีทหารเรือประมาณ 3,000 นาย ขณะที่เว็บไซต์ Global Firepower ซึ่งรวบรวมข้อมูลกองทัพทั่วโลก ชี้ว่า อินโดนีเซียมีเรือประจำการมากที่สุดในอาเซียน ประมาณ 331 ลำ ตามมาด้วยไทย เมียนมา ฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซียและสิงคโปร์

ส่วนกัมพูชามีเรือน้อยที่สุด 20 ลำ ทั้งหมดเป็นเรือตรวจการณ์ ต่างจากกองทัพเรือของประเทศอื่นๆ ที่จะประจำการเรือหลายประเภท
Lowy Institute ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยนโยบายการเมือง ยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจของออสเตรเลีย จัดทำตารางคะแนนการเคลื่อนย้ายกำลังทางทะเลของกองทัพเรือในเอเชีย-แปซิฟิก ประเมินจากขีดความสามารถเรื่องความเร็วของการเคลื่อนกำลังและการทำศึกทางทะเลครั้งใหญ่
จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน พบว่า สิงคโปร์เป็นอันดับ 1 ของอาเซียน แต่อยู่ในอันดับ 8 ของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ตามมาด้วยอินโดนีเซียอันดับ 10 เวียดนาม ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ บรูไน เมียนมาและกัมพูชารั้งท้ายในอันดับ 22 ด้วยคะแนน 3.6 เท่านั้น ส่วนลาวไม่ถูกประเมินคะแนนในส่วนนี้

ความร่วมมือทางทหารระหว่างจีนและกัมพูชา ถูกจับตามองว่าอาจเข้ามาช่วยยกระดับขีดความสามารถของกองทัพเรือกัมพูชา โดยมีรายงานก่อนหน้านี้ว่าจีนจะส่งมอบเรือคอร์เวต 2 ลำ ให้กัมพูชาตามที่สัญญาไว้ในปีนี้ ซึ่งเรือทั้ง 2 ลำต่อขึ้นใหม่และอาจเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยขยายพื้นที่ปฏิบัติการให้กับกองทัพเรือกัมพูชา
อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องปกติที่แต่ละประเทศจะจัดการซ้อมรบ เพื่อพัฒนาศักยภาพกำลังพลให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ แต่เมื่อการซ้อมรบเกิดขึ้นในช่วงที่ความขัดแย้งกำลังทวีความรุนแรง จึงทำให้หลายคนเป็นห่วง ซึ่งความขัดแย้งต่างๆ สามารถหาทางออกได้ด้วยสันติวิธี และขณะนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยังเดินหน้าเจรจาพูดคุยกันได้
อ่านข่าว
กองทัพเรือกัมพูชา เตรียมซ้อมรบด้วยกระสุนจริง หลังงดมา 2 ปี
"ผบ.เหล่าทัพ" ประชุมวาระเฉพาะกิจ คาดปมชายแดนไทย-กัมพูชา
รู้จัก 7 ด่านค้าชายแดน จุดเชื่อมการค้าการลงทุน "ไทย-กัมพูชา"