ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งในแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นักเคลื่อนไหวทางการเมืองและ สส.พรรคฝ่ายค้าน ออกมาตั้งคำถามถึง "จุดยืนของรัฐบาลคืออะไร" พร้อมย้ำว่า สายสัมพันธ์ส่วนตัวจะต้องไม่อยู่เหนือผลประโยชน์ของประเทศชาติ

สายสัมพันธ์ส่วนตัวที่ว่านั้น น่าหมายถึงความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพ่อ คือนายทักษิณ ชินวัตร และสมเด็จฮุนเซน ที่ส่งต่อถึงรุ่นลูก คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร กับสมเด็จ ฮุน มาเนต และกลายเป็นความใกล้ชิดสนิทสนมข้ามประเทศ ของทั้ง 2 ครอบครัว จึงเป็นคำถามออกมา

นอกจากจะชี้ว่า ปมการปะทะคารมกับนักข่าวจนเป็นดรามาว่านายกรัฐมนตรี พลิกวิกฤตเป็นหายนะแล้ว นายรังสิมันต์ โรม ยังขยายความปมดรามาจากคำถามถึงทฤษฎีสมคบคิด เพื่อชี้ว่า นายกรัฐมนตรี ต้องไม่วาง "สายสัมพันธ์ส่วนตัวอยู่เหนือผลประโยชน์ของประเทศชาติ" เพราะอาจเป็นเหตุให้เสียดินแดน หลังแม้นายกรัฐมนตรี ยอมรับในความสัมพันธ์อันดี ระหว่าง 2 ครอบครัว

นับจากวันนี้ ถึงวันที่ 14 มิ.ย.หรือก่อนวันประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ เจบีซี โดย สส.พรรคฝ่ายค้าน รังสิมันต์ โรม ย้ำให้รัฐบาลสร้างเงื่อนไขการต่อรองกับฝ่ายกัมพูชาให้ชัด ด้วยเชื่อว่า ปมไทย-กัมพูชา ต้องจบลงที่การเจรจา ไม่ใช่การใช้กองทัพห้ำหั่นกันอยู่แล้ว
และแม้จะไม่ตอบตรงๆ แต่นายรังสิมันต์ ก็ยอมรับว่ามีผลกระทบเกิดขึ้นแน่ และผลกระทบที่ว่า คือ ความนิยมของพรรคเพื่อไทยจะตกลง หากปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชายืดเยื้อออกไป นั่นเป็นเพราะว่า มีข้อสังเกตจากปมขัดแย้งไทย-กัมพูชา ว่า ฝ่ายผู้นำกัมพูชากำลังได้รับคะแนนนิยมมากขึ้น ด้วยสไตล์การสร้างชาตินิยมของสมเด็จฮุนเซน
ถ้าทบทวนจากคำถามถึงทฤษฎีของสมคบคิด ภาพหนึ่งที่เห็นตอนนี้ คือ ฝ่ายกัมพูชาได้ประโยชน์จากปมขัดแย้งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ผ่านกระแสชาตินิยม จึงเป็นคำถามอีกว่า แล้วฝ่ายไทยได้อะไรจะทฤษฎีที่ว่านี้ หากปลายทางของปมขัดแย้งไปอยู่ที่ศาลโลก นั่นคือการเสียดินแดน เพราะฉะนั้นความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ 2 ครอบครัวมีต่อกัน ควรจะใช้มาเยียวยาปมขัดแย้งด้วยหรือไม่

คงต้องยอมรับว่าความสัมพันธ์ของ 2 ครอบครัว คือครอบครัวนายทักษิณ ชินวัตร กับครอบครัวสมเด็จฮุนเซน จากรุ่นพ่อกำลังถูกถ่ายทอดถึงรุ่นลูก เพราะถ้าย้อนกลับในสถานการณ์ต่างๆ จะเห็นว่า 2 ครอบครัวนี้ "ใกล้ชิด-สนิทสนม" กัน และมีสไตล์การเมืองสอดคล้องกัน
จะนับก่อนนายทักษิณ ชินวัตร ก้าวเข้าสู่การเมือง หรือเดินสายหลบหนีคดีในต่างประเทศ สมเด็จฮุนเซน เคยประกาศเป็นพี่น้องต่อกัน และภาพนั้นฉายชัดขึ้นมาทันที เพราะก่อนนายทักษิณ จะกลับไทยมารับโทษ ได้ยกคณะครอบครัวและเครือญาติ ร่วมฉลองวันคล้ายวันเกิดของสมเด็จฮุนเซน

และล่าสุดเมื่อปี 2567 หลังนายทักษิณ กลับเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า หนึ่งในแขกวีไอพีที่เข้าพบ ก็คือสมเด็จฮุนเซน และหลังเข้ารับตำแหน่ง น.ส.แพทองธาร ก็เดินทางไปกัมพูชา เพื่อกระชับความสัมพันธ์และส่งเสริมความร่วมมือในทุกมิติ ระหว่าง 2 ประเทศ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี แห่งความสัมพันธ์ทางการทูตด้วย

และถ้ายังคงตั้งข้อสังเกตจาก ทฤษฎีสมคบคิด จนถึงตอนนี้ สถานการณ์ต่างๆ ยังเป็นคำถามได้อีกว่า นอกจาก 2 ครอบครัวผู้นำไทยและกัมพูชาแล้ว รัฐบาลของทั้ง 2 ประเทศแล้ว ระหว่างรัฐบาลภายใต้การนำของนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร กับ กองทัพ รับรู้กับทฤษฎีที่ว่านี้หรือไม่ หลังกองทัพต่างออกมาแสดงแสนยานุภาพในการพร้อมรบ
อ่านข่าว :
ผลประชุม สมช. นายกฯ ยันรัฐบาล กองทัพ เป็นเอกภาพแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา
แท็กที่เกี่ยวข้อง:
- ชายแดนไทย-กัมพูชา
- ชายแดนไทยกัมพูชา
- ชายแดนกัมพูชา
- ชายแดนไทย
- ช่องบก
- อุบลราชธานี
- ความขัดแย้งไทยกัมพูชา
- ปราสาทตาเมือนธม
- สามเหลี่ยมมรกต
- ทหารไทย
- ทหารกัมพูชา
- กัมพูชา
- แพทองธาร ชินวัตร
- รัฐบาลแพทองธาร
- ทักษิณ ชินวัตร
- สมเด็จฮุนเซ็น
- ทฤษฎีสมคบคิด
- ข่าวการเมืองวันนี้
- ข่าววันนี้
- ข่าวล่าสุด
- ข่าวล่าสุดวันนี้
- ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา
- สถานการณ์ไทย-กัมพูชา
- สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา