เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2568 เพจ Army Military Force มีการเผยแพร่ภาะที่ระบุว่าเป็นทหารกัมพูชากำลังขุดสนามเพลาะ หรือ คูเลต พร้อมกับสร้างบังเกอร์ใกล้ชายแดนกัมพูชา-ไทย ติดกับ จ.สระแก้ว ซึ่งหลายฝ่ายได้ตรวจสอบว่า เป็นการขุดในพื้นที่ไหนของ จ.สระแก้ว และเป็นภาพเก่าหรือพื้นที่อื่นหรือไม่
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวตรวจสอบไปยังหน่วยข่าวของกองทัพและกองกำลังป้องกันชายแดน จ.สระแก้ว ได้รับการยืนยันว่า ทหารกัมพูชามีการระดมพลขุดสนามเพลาะ สร้างบังเกอร์จริง บริเวณพื้นที่ อ.ตาพระยา และ โคกสูง ซึ่งกองกำลังป้องกันชายแดน จ.สระแก้ว ได้เตรียมความพร้อมตามแนวชายแดนตลอด 24 ชม.
สำหรับพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.ตาพระยา เคยเกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชา ล่าสุด เมื่อช่วงวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่บริเวณบ้านคลองแผง ตรงข้ามกับบ้านบันเตียเมียนริด จ.บันเตียเมียนเจย โดยทหารหน่วยเฉพาะกิจตาพระยา กองกำลังบูรพา ได้ทำการลาดตระเวนพบทหารกัมพูชา เข้าไปผูกเปลและสร้างเพิงพักอยู่ท้ายแปลงการเกษตร ในบริเวณพื้นที่ที่ทั้ง 2 ฝ่าย มีข้อตกลงร่วมกันไว้ ห้ามเข้าไปใช้ประโยชน์ ตามข้อตกลง MOU 43 ใกล้หลักเขตแดนที่ 36 จึงเข้าไปพูดคุยทักท้วง และให้รื้อถอนออกไป แต่ปรากฏว่า ทหารฝั่งกัมพูชา มีการพูดคุยเสียงดังมีการชี้หน้าโต้เถียงกัน

ชาวบุรีรัมย์หวั่นรุนแรง สำรวจหลุมหลบภัยซ้อมอพยพ
ภายในหมู่บ้านสายโท 6 ใต้ ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชา ประมาณ 3-4 กิโลเมตร ชาวบ้านได้เข้ามาทำความสะอาด "หลุมหลบภัย" ไว้เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือหากเกิดเหตุฉุกเฉิน เพราะผู้สูงอายุหลายคน ตั้งใจว่าจะอยู่ที่บ้าน
จากการสำรวจ บรรยากาศภายในหมู่บ้าน ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตตามปกติ ยอมรับว่า รู้สึกกังวล ว่าจะเกิดสงครามระหว่างประเทศ เหมือนปี 2554 ที่มีทั้งกระสุนปืนและระเบิดตกใกล้หมู่บ้าน และอยากให้มีการสร้างหลุมหลบภัยในหมู่บ้านเพิ่มเติม
ขณะที่ชาวบ้าน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ เคยอยู่ในเหตุการณ์การสู้รบ เมื่อปี 2554 ที่ต้องอพยพออกจากหมู่บ้าน ซึ่งชาวบ้านก็เฝ้าติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และบอกลูกหลานให้เตรียมพร้อมไว้ตลอดก็อยากจะให้รัฐบาลใช้วิธีการเจรจาโดยสันติ

อ่านข่าวอื่น :
"อันวาร์" สายตรงไทย-กัมพูชา ขอลดตึงเครียดชายแดนเจรจาสันติวิธี