ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ภูมิธรรม" ยืนยันประชุม JBC เกิดขึ้นแน่ หวังได้ข้อสรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

การเมือง
16:28
148
"ภูมิธรรม" ยืนยันประชุม JBC เกิดขึ้นแน่ หวังได้ข้อสรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
"ภูมิธรรม" เผยคุยปัญหาช่องบก เวที JBC หวังได้ข้อสรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำไม่ทิ้งปัญหาความไม่สงบพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

วันนี้ (9 มิ.ย.2568) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายก และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีสมเด็จฮุนเซน ระบุว่า พื้นที่ช่องบกเป็นของกัมพูชา แต่ไทยเรียกพื้นที่นั้น no man land ว่า พื้นที่ทั้งหมดที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ เป็นพื้นที่ของไทยทั้งหมด และเราจะรักษาอธิปไตยของไทยอย่างเต็มที่แต่ที่ผ่านมามีการอ้างสิทธิ์ว่าเป็นพื้นที่ของกัมพูชา กัมพูชาก็อ้างไป ในขณะที่ยังไม่มีข้อสรุป ซึ่งต้องเข้าใจว่า การจะหาข้อสรุปไม่ใช่เรื่องง่าย จึงต้องหาวิธีทางในการแก้ไขปัญหา บางพื้นที่ ได้ทำเป็นพื้นที่พัฒนาร่วม

ปัจจุบันนี้ ไทยก็อ้างสิทธิ์ของเรา ส่วนท่านฮุนเซน ก็จะบอกว่าเป็นสิทธิ์ของท่าน เราก็ไม่ต้องมาเถียงกัน ทุกคนต่างมีสิทธิ์ที่จะอ้าง ต้องหาวิธีในการเจรจากัน ถือว่าขณะนี้เราดำเนินการในขั้นต้นประสบความสำเร็จ โดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ ไม่อยากให้เกิดการเผชิญหน้า เพราะห่วงจะมีกระสุนนัดแรก จะกลายเป็นเรื่องใหญ่

ทั้งนี้ต้องขอบคุณผู้ช่วยทูตทหารกองทัพบกไทย ประจำกัมพูชา ที่ได้ประสานงานกันมาโดยตลอด เป็นที่มาของการส่ง พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ไปพูดคุยหลังกัมพูชาประสานมา ซึ่งก็ได้ข้อสรุปมีการปรับกำลังแล้วกลับไปอยู่ในจุดเดิมเมื่อปี 2567 มีการลาดตระเวนร่วมกัน ถือเป็นบรรยากาศในการเอื้อให้มีการพูดคุย ซึ่งเรื่องข้อพิพาทเขตแดนยังไม่จบ แต่ที่จบแล้วก็คือการลดการเผชิญหน้า ตามข้อเรียกร้องของไทย คือ ยึดสันติวิธี และใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก

ยืนยันว่า การพบปะพูดคุยในการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ไทย-กัมพูชา เกิดขึ้นแน่นอนเพื่อให้เกิดข้อสรุปโดยฝ่ายกัมพูชาเป็นเจ้าภาพซึ่งในวาระที่พูดคุยกันได้ตกลงกันว่า จะพูดคุยเรื่องจุดปะทะบริเวณช่องบก รวมถึงมาตรการร่วมกันในอนาคต

นอกจากนี้ การประชุม JBC จะมีในส่วนที่เป็นเรื่องของเทคนิคโดยของไทยจะมีเจ้ากรมแผนที่ทหาร อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ เป็นตัวหลักในการพูดคุย

นอกจากนี้ยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องที่มีความเชี่ยวชาญ ถือเป็นคณะชุดเดิม ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง แต่มีการตั้ง พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เป็นที่ปรึกษา รวมถึง คนอื่น ๆ ที่มีความเหมาะสม แต่ทั้งหมดกระทรวงต่างประเทศเป็นเจ้าภาพ ซึ่งจะเดินทางร่วมประชุมด้วย

สำหรับมาตรการเปิด-ปิดด่าน ยังใช้ไม่ครบ ขณะนี้เป็นเพียงระดับที่ 1 และระดับที่ 2 เท่านั้น เราต้องการแค่ส่งสัญญาณว่า เป็นมาตรการของเราว่าหากสิ่งต่าง ๆ ยังไม่คืบหน้าจะค่อย ๆ ยกระดับ

เมื่อถามว่า รมว.กลาโหม กัมพูชา ได้แสดงจุดยืนจะไม่นำเรื่องกรณีช่องบกไปพูดคุยในที่ประชุม JBC จะมีวิธีการโน้มน้าวเพื่อนบ้านอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า การพูดคุยเราได้จำกัดพื้นที่อยู่แล้ว ประสาทอื่น ๆ จะไม่หยิบเข้ามาพูด แต่เฉพาะพื้นที่ช่องบกเท่านั้น เพราะเป็นพื้นที่เกิดเหตุการณ์ปะทะ ยังไงก็ต้องคุยกันเรื่องนี้ ตนคิดว่า คณะกรรมการ JBC ฝ่ายไทยและกัมพูชา ชัดเจนอยู่แล้วว่าจะคุยเรื่องใดบ้าง อยากให้รออย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่องเรื่องช่องบกได้พูดคุยแน่นอน

เมื่อถามว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา สามารถพูดได้หรือไม่ว่า สบายใจ 100% นายภูมิธรรม กล่าวว่า บรรยากาศดีขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีการเผชิญหน้าการพูดคุยในเรื่องนี้ต้องใช้ความระมัดระวัง ปล่อยให้กระบวนการสันติวิธีดำเนินการไป ซึ่งต้องยอมรับว่า มีคนที่รักและหวงแหนอธิปไตย อยากจะสู้รบ เพื่อให้เกิดความชัดเจน แต่ต้องยอมรับว่า ประชาชนตามแนวชายแดนจะได้รับผลกระทบทั้งเรื่องความปลอดภัย ชีวิตทรัพย์สิน เพราะไม่ใช่เรื่องที่สนุกที่ประชาชนในพื้นที่ต้องมาเผชิญกับสงคราม

ไม่ทิ้งปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ 

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ระบุถึงสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เหตุการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หยุดไปช่วงหนึ่ง ระหว่างเกิดปัญหาสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แต่เมื่อเหตุการณ์ชายแดนฝั่งไทย-กัมพูชา คลี่คลายก็มาเกิดปัญหาในพื้นที่ภาคใต้ขึ้น

จากข้อมูลพบว่า เหตุระเบิดในพื้นที่ช่วง 1-2 วันนี้ เป็นระเบิดลูกเล็ก ไม่มีสะเก็ดระเบิด เป็นระเบิดเสียง โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นช่วงเทศกาลฮารีรายอของชาวมุสลิมถือว่า เป็นระเบิดก่อกวนให้เกิดความวุ่นวายเพราะเกิดขึ้นในพื้นที่ที่ไม่ได้ทำร้ายใคร

ทั้งนี้ เชื่อมั่นการทำงานของแม่ทัพภาคที่ 4 และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ โดยยืนยันว่า ในฐานะ รมว.กลาโหม ไม่ได้ทิ้งปัญหาใดปัญหาหนึ่ง เพราะเป็นหน้าที่ต้องจับทุกปัญหา

นายภูมิธรรม ย้ำว่า ที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่รับฟังข้อมูลจากหลายฝ่าย ทั้งทหารและตำรวจ ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติงานโดยตรง หลังจากนี้เป็นเรื่องที่จะต้องพูดคุยกับต่างประเทศ แต่เนื่องจากขณะนี้ต้องมาแก้ไขสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศอีกด้านหนึ่ง แต่เชื่อมั่นว่า ผู้รับผิดชอบดำเนินการอยู่แล้ว รวมทั้งกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขในพื้นที่ โดยยืนยันว่า ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะถึงอย่างไรก็จะไม่ทอดทิ้ง

อ่านข่าว : ทักษิณน้อมนำแนวทางพระราชดำริ ร.9 ลุยแก้ปัญหาชายแดนใต้ 

หวังเพิ่มอำนาจต่อรอง! วิเคราะห์ปมชายแดนใต้ช่วงเดือนรอมฎอน  

"ทวี" ลงพื้นที่ 3 จว.ชายแดนใต้ ติดตามแก้ปัญหาความรุนแรง