วันนี้ (10 มิ.ย.2568) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งจะมีการพิจารณาคดีในวันที่ 13 มิ.ย. นี้ ว่า ในส่วนของกระทรวงยุติธรรม มี 2 หน่วยด้วย คือ เรือนจำพิเศษกรุงเทพ กับอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ซึ่งตนเองได้มีการสอบถามกับทั้ง 2 หน่วยงาน ได้ให้ความมั่นใจในการปฎิบัติหน้าที่ และถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ไปชี้แจงกับศาล เนื่องจากผู้ปฏิบัติหน้าที่ทั้ง 2 หน่วยงาน ยึดกฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นกฎหมายเฉพาะ และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งเป็นกฎหมายทั่วไป
หากเราใช้กฎหมายเฉพาะแล้ว แต่กฎหมายไม่สามารถคุ้มครองสิทธิ์ของผู้ต้องขัง หรือญาติของบุคคลดังกล่าว ก็จะใช้กฎหมายทั่วไป ซึ่งจะต้องไปขออำนาจศาล ในมุมมองของกรมราชทัณฑ์ ประกอบกับมาตรา 246 พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ได้มีแนวคำวินิจฉัยของศาลฎีกาไว้แล้ว
เมื่อถามว่า เป็นห่วงกับผลที่จะออกมาหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ต้องสร้างความมั่นใจว่าสิ่งที่เข้าไปสู่ศาลแล้ว ถือเป็นเรื่องที่ดี และเคารพในคำตัดสินของศาล แต่ส่วนตัวและหน่วยงานไม่ได้กังวล เพราะเป็นข้อปฏิบัติมา 100 กว่าปีแล้ว
"ทวี" ยัน "นายกฯ" ยังไม่คุยปรับ ครม.
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการปรับคณะรัฐมนตรี ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้นัดพูดคุยแล้วหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี รมว.ยุติธรรม หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า สำหรับตนเองยังไม่มี แต่พรรคอื่นยังไม่ทราบ ซึ่งพรรคประชาชาติเป็นพรรคที่มีรัฐมนตรีคนเดียว ส่วนกรณีเอกสารหลุดพรรครวมไทยสร้างชาติ เรียกร้องให้มีการปรับ ครม.นั้น พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ไม่ได้ไปดูของพรรคอื่น
เมื่อถามว่าที่ผ่านมามั่นใจผลงานกระทรวงยุติธรรม ว่าทำงานได้ดีหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ตนเองมีนโยบายเดียว คือ ต้องปฏิบัติตามหลักนิติธรรม และการบริหารกระบวนการยุติธรรมต้องมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และปราศจากอคติ ที่สำคัญต้องอำนวยความสะดวกให้ประชาชน ถือว่าเราทำหน้าที่นี้มาโดยตลอด
พ.ต.อ.ทวี กล่าวยืนยันว่า กระทรวงยุติธรรมไม่ใช่สายล่อฟ้า แต่ขึ้นกับสถานการณ์และบริบทในช่วงนั้น ซึ่งรัฐมนตรีและข้าราชการต้องทำกฎหมาย ยึดกฎหมายเป็นหลัก พร้อมย้ำว่ายังไม่มีการนัดดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล
อ่านข่าว : "ประศาสน์" นำทัพ JCB ถกปมเขตแดนไทย-กัมพูชา เคลียร์ช่องบก
"สมศักดิ์" ชี้แจงคลิป นทท.จีนในทำเนียบฯ เผยเป็นการศึกษาดูงาน