วันนี้ ( 10 มิ.ย.2568) ผศ. ดร.อนุชา ทีรคานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (SACIT) กล่าว่า ปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป หันมาให้ความสนใจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน สินค้าที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติจะได้รับความสนใจมาก โดยเฉพาะในต่างประเทศ ล่าสุด สถาบันฯ ได้ไปเจาะสำรวจตลาดในตะวันออกกลางซึ่งมีกำลังซื้อสูงและสนใจสินค้าไทยมาก โดยเฉพาะสินค้าหัตถกรรม เครื่องเบญจรงค์ สินค้าที่ผลิตด้วยมือแต่มีคุณภาพสูง หรืองานศิลปะ หรือแม้แต่ประเทศฝั่งยุโรปที่ต้องการสินค้ที่เป็นมิตรกับสิ่งอแวดล้อมและมีความยั่งยืน ซึ่งไทยเองต้องปรับตัวให้ทันกับความต้องการของตลาด

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อนุชา ทีรคานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อนุชา ทีรคานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย
หน้าที่ของสถาบันฯคือขับเคลื่อนและส่งเสริมงานศิลปหัตถกรรมไทยให้อยู่ท่ามกลางบริบทโลกสมัยใหม่ และขยายโอกาสทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเป็นการเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคทุกเจเนอเรชัน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ไปพร้อมกับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ผอ. SACIT กล่าวอีกว่า ไทยมีช่างฝีมือหัตถศิลป์ที่เต็มไปด้วยความสามารถ นักออกแบบ นักเรียนนักศึกษา กลุ่มเปราะบางที่มีพรสวรรค์ แต่ยังไม่มีโอกาสแสดงทักษะ และความสามารถในการสร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมไทย โดยมีสมาชิกกว่า4000 คนทั่วประเทศ และมีครูช่างครูศิลป์และทายาทครูศิลป์รวมกัน 400 คน

ทั้งนี้สถาบันฯเตรียมจัดงาน Crafts Bangkok 2025 ในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด Weaving Past to the Future เป็นการเปิดประสบการณ์สัมผัสเสน่ห์ของงานฝีมือที่เชื่อมต่อคนหลายเจเนอเรชันโดยการ ดึงศักยภาพของช่างฝีมือที่ซ่อนอยู่ ชี้ทิศทางและโอกาสให้กับงานศิลปหัตถกรรมไทย ในทุกด้าน เพื่อจับมือจากชุมชนสู่เมืองจากฝีมือสู่แบรนด์ จากท้องถิ่นสู่สากลไปพร้อมๆ กับโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงไป เสมือนนักปั้นดาวแห่งหัตถศิลป์ไทย ที่ให้ความเชื่อมั่นและคอยสนับสนุนผู้สร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมไทยอยู่ข้างหลังเสมอมา
งานศิลปหัตถกรรมไทย มีศักยภาพในรอบด้าน ทั้งในการออกแบบ การผลิต และมีความมั่นใจในการรองรับความความต้องการของตลาดออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อเป็นการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงต่อพฤติกรรมผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น

เพราะปัจจุบันกระแสการตอบรับงานศิลปหัตถกรรมไทยมีทิศทางที่ดี โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ และชาวต่างชาติที่ให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ ผสานนวัตกรรม และสะท้อนเรื่องราวทางวัฒนธรรม รวมถึงงานหัตถกรรมที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม (Conscious Craft) และสินค้าที่ปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ร่วมสมัย (Trendy Craft) ซึ่งกำลังเป็นที่นิยม
สำหรับไฮไลต์และกิจกรรมภายในงาน Crafts Bangkok 2025 มากกว่า 300 คูหา โดยแบ่งออกเป็น 3 โซน คือ Meet the masters งานฝีมือชั้นครู สะท้อนให้เห็นถึงทักษะฝีมือ แห่งมรดกภูมิปัญญา ตั้งแต่ต้นกำเนิดจนถึงการประยุกต์ใช้ในปัจจุบัน โซน Be conscious งานฝีมือที่สะท้อนความยั่งยืนผสานความคิดสร้างสรรรค์ คลื่นลูกใหม่ของ งานฝีมือ สะท้อนศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัดของความคิดสร้างสรรค์ และโซน Trendy look งานฝีมือแห่งอนาคต สะท้อนเสน่ห์ของงานฝีมือที่เชื่อมต่อคนหลาย Generation ร้อยเรียงแก่นแท้ของงานฝีมือดั้งเดิมเข้ากับนวัตกรรม

นอกจากนี้สถาบันฯยังมพื้นที่สำหรับกลุ่ม New Young Craft ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และแนวคิดการสร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมไทยในมุมมองใหม่, กิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงาน
งาน Crafts Bangkok 2025 จะเป็นเวทีสำคัญที่รวมดาวเด่นแห่งวงการหัตถศิลป์ไว้ในที่เดียว ซึ่งานจัดระหว่าง 18-22 มิ.ย. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์คาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าชมงานมากกว่า 20,000 ราย เงินสะพัดภายในงานมากกว่า 80 ล้านบาท สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก เพิ่มพูนรายได้ให้กับชาวบ้าน ชุมชน และผู้ผลิตงานศิลปหัตถกรรมไทยให้เติบโต
ทั้งนี้สถาบันฯให้ความสำคัญกับกลุ่มคนรุ่นใหม่โดยผลักดันกลุ่ม New Young Craft ที่สถาบันฯทำมาเป็นปีที่2 เนื่องจากเห็นถึงศักยภาพที่จะช่วยผลักดันให้สร้างสรรค์ผลงานและอนุรักษ์งานหัตถกรรมไทยได้ในอนาคต
สำหรับการส่งออกสินค้าหัตกรรมไทยปีที่ผ่านมา ส่งออกได้ 99,000 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่มาจากสินค้า เครื่องเงินและเครื่องทองเป็นหลัก ส่วนปีนี้สถาบันฯจะเน้นทำการตลาดในประเทศ เนื่องจากเศรษกิจชะลอตัว ซึ่งทำให้ผุ้บริโภคลดการใช้จ่าย ส่วนปีหน้าจะรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น เช่นตลาดตะวันออกกลาง และจะนำผู้เชียวชาญมาอบดเพื่อพัฒนาสินค้าให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ซื้อในตะวันออกกลาง
อ่านข่าว:
รัฐปรับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ หนุนดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค พ.ค.ดีขึ้น
จบใหม่ “เสี่ยง”ตกงานสูง 89% นายจ้างชี้ไร้ประสบการณ์ ไร้มารยาท
เศรษฐกิจชายแดน ระส่ำ หวั่นปิด16 ช่องการค้า กระทบวิถีชายขอบ