ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

จบใหม่ “เสี่ยง”ตกงานสูง 89% นายจ้างชี้ไร้ประสบการณ์ ไร้มารยาท

เศรษฐกิจ
14:38
228
จบใหม่ “เสี่ยง”ตกงานสูง 89% นายจ้างชี้ไร้ประสบการณ์ ไร้มารยาท
อ่านให้ฟัง
05:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
สศช. เผยเด็กจบใหม่เสี่ยงตกงานสูง 89% นายจ้างเมินจ้าชี้ขาดประสบการณ์ในโลกความเป็นจริง มารยาททางธุรกิจไม่ดี เลือกจ้างฟรีแลนซ์ คนเกษียณ แทน แนะเด็กจบใหม่ควรตรียมความพร้อม ทั้งด้านทักษะและทัศนคติต่อโลกการทำงาน

วันนี้ (9 มิ.ย. 2568) นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผย ว่า เด็กจบใหม่อาจเสี่ยงต่อการตกงานสูง ผลการสำรวจผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล ในสหรัฐอเมริกา ของ Hult International Business School ร่วมกับ Workplace Intelligence พบว่า ผู้บริหาร กว่า 89% มีแนวโน้มที่จะเลี่ยงการจ้างงานบัณฑิตจบใหม่

ทั้งนี้จากผลสำรวจมากกว่าครึ่งมองว่า 60% เด็กจบใหม่ยังขาดประสบการณ์ ในโลกแห่งความเป็นจริง 51% ไม่มีทักษะที่เหมาะสม 55%ขาดทักษะการทำงานเป็นทีม และ50% มีมารยาททางธุรกิจที่ไม่ดีนัก

ทั้งนี้นายจ้างเลือกที่จะจ้างฟรีแลนซ์หรือพนักงานที่เกษียณไปแล้วทดแทน หรือปล่อยให้ตำแหน่งว่าง สอดคล้องกับมุมมองของผู้ประกอบการไทย จากข้อมูลการวิเคราะห์ประกาศรับสมัครงาน ออนไลน์ของ TDRI ที่พบว่า มีตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครเพียง22.3% ที่ไม่ต้องการประสบการณ์ทำงานจากผู้สมัคร

สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการให้ความสำคัญกับการมีทักษะและความเข้าใจในการทำงานจริง สอดคล้อง กับอัตราการว่างงานในแรงงานกลุ่มอายุน้อยและแรงงานที่จบการศึกษาในระดับอุดมศึกษาที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับ กลุ่มอื่น และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ดังนั้น แรงงานจบใหม่ควรเตรียมความพร้อมตนเองให้เหมาะสม ทั้งในด้านทักษะที่จำเป็นต่อสายงานและทัศนคติต่อโลกการทำงาน ขณะที่ภาคการศึกษาต้องเร่งปรับการเรียนการสอนให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด รวมถึงส่งเสริมการฝึกงาน เพื่อสร้างประสบการณ์ทำงานจริงให้แก่นักศึกษา

ขณะที่สถานการณ์แรงงานไตรมาสหนึ่ง ปี 2568 ปรับตัวลดลง โดยภาคเกษตรกรรมมีการจ้างงานลดลงต่อเนื่อง ส่วนนอกภาคเกษตรขยายตัวได้เล็กน้อย แต่ยังต้องให้ความสำคัญกับความอยู่รอดของ SMEs จากการขาดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม เด็กจบใหม่ที่อาจเสี่ยงตกงาน รวมถึงการสร้าง หลักประกันการถูกเลิกจ้างให้แก่แรงงาน

ทั้งนี้ไตรมาสหนึ่ง ปี 2568 ผู้มีงานทำมีจำนวนทั้งสิ้น 39.4 ล้านคน ลดลงจากไตรมาสหนึ่งของปีก่อน 0.5% พบว่า การจ้างงานในภาคเกษตรกรรมที่ลดลงอย่างต่อเนื่องที่ 3.1% แต่นอกภาคเกษตรกรรมปรับตัวดีขึ้น เล็กน้อยที่ 0.5%

โดยเฉพาะสาขาโรงแรม/ภัตตาคารยังคงขยายตัวได้ 3.5% แม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยว จะเริ่มลดลง เช่นเดียวกับสาขาการขนส่ง/เก็บสินค้าที่ขยายตัวต่อเนื่องที่ 4.5% ขณะที่การจ้างงานในสาขา การผลิตเริ่มหดตัวลงเล็กน้อยที่ 0.4%

สำหรับค่าจ้างแรงงาน เฉลี่ยของภาคเอกชนเพิ่มขึ้นแต่ค่าจ้างในภาพรวมลดลงเล็กน้อย โดยภาพรวมค่าจ้าง 16,246 บาท/คน/เดือน ลดลง 0.8% แรงงานในระบบมีค่าจ้าง 15,565 บาท/คน/เดือน เพิ่มขึ้น 2.4% และแรงงานภาคเอกชน 14,273 บาท/คน/เดือน เพิ่มขึ้น 3.5%

ขณะที่จำนวนแรงงานในภาพรวมลดลง แต่ผู้เสมือนว่างงานกลับเพิ่มขึ้น 14.6% หรือ 4.3 ล้านคนจากช่วงเดียวกันของปีก่อน สวนทางกับอัตราว่างงานในระบบเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราว่างานในระบบไตรมาส1/68 เพิ่มขึ้น 1.88% และมีผู้ว่างงานระยะยาว ตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป 68,000 คน โดย 69.8%เฉลี่ยอายุ20-29ปี และ71.7%ไม่เคยทำงาน ซึ่งในจำนวนนี้74.3%หางานไม่ได้

 อ่านข่าว:

คนไทยติดหรู ก่อหนี้เกินตัว สศช.ชี้หนี้ครัวเรือน ปี 67 พุ่ง 16 ล้านล้าน

เศรษฐกิจชายแดน ระส่ำ หวั่นปิด16 ช่องการค้า กระทบวิถีชายขอบ

รัฐปรับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ หนุนดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค พ.ค.ดีขึ้น