ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

รู้จัก "แผนที่" ที่มากกว่าแค่เส้น ช่วยบอกทางชี้ชัดเขตแดน

สังคม
14:52
133
 รู้จัก "แผนที่" ที่มากกว่าแค่เส้น ช่วยบอกทางชี้ชัดเขตแดน
อ่านให้ฟัง
13:33อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
แผนที่ไม่ได้แค่บอกทาง แต่ยังเผยเรื่องราวของเขตแดนและอำนาจ ค้นหาความหมายของแผนที่ รู้มาตราส่วน 1:50,000 หรือ 1:200,000 ตัวเลขเหล่านี้ บอกอะไร

แผนที่ (Map) คือ การจำลองหรือแสดงลักษณะของพื้นผิวโลกหรือส่วนหนึ่งของโลก ใช้สัญลักษณ์ ตัวเลข สี หรือเส้น แสดงข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่ง ระยะทาง ความสูง หรือลักษณะภูมิศาสตร์ เช่น ภูเขา แม่น้ำ เมือง หรือเขตแดน แผนที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้มนุษย์สามารถเข้าใจและนำทาง โดยย่อขนาดของโลกจริงลงมาให้อยู่ในรูปแบบที่จัดการได้

แผนที่ไม่เพียงแต่แสดงข้อมูลทางกายภาพเท่านั้น แต่ยังสามารถแสดงข้อมูลเชิงนามธรรม เช่น การกระจายประชากร อุณหภูมิ หรือข้อมูลเศรษฐกิจ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการใช้งาน นอกจากนี้ แผนที่ยังมีบทบาทสำคัญ เช่น การทหาร การเมือง การศึกษา และการวางผังเมือง

ประเภทของแผนที่ มีกี่แบบอะไรบ้าง

แผนที่สามารถแบ่งออกได้ประเภท ขึ้นอยู่กับว่าจัดประเภทตามอะไร ข้อมูลจาก กรมพัฒนาที่ดิน ระบุโดยทั่วไปแบ่งได้เป็น 3 ประเภท    

  • แผนที่แบ่งประเภทตามลักษณะการใช้งาน
  • แผนที่แบ่งประเภทตามรายละเอียดที่แสดงผล 
  • แผนที่แบ่งประเภทตามมาตราส่วน

1. การแบ่งประเภทแผนที่แผนที่แบ่งตามลักษณะการใช้งาน แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 

1.แผนที่ฐาน (Base map) เป็นแผนที่ที่ทำขึ้นอย่างมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับโดยหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชนนำไปใช้เป็นแผนที่ฐานในการดำเนินงานด้านต่างๆ เช่น แผนที่ภูมิประเทศมาตราส่วน 1:50,000 ลำดับชุด L7017 และ L7018 ของกรมแผนที่ทหาร

2. แผนที่เฉพาะเรื่อง (Thematic map) คือ แผนที่ที่จัดทำขึ้นหรือผลิตขึ้นเพื่อแสดงการใช้งานเฉพาะวัตถุประสงค์หรือความต้องการใช้งานในเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ เช่น แผนที่ดิน แผนที่สภาพการใช้ที่ดินแผนที่ป่าไม้ ผังเมืองรวม แผนที่อุทกศาสตร์ แผนที่ธรณีวิทยา

2. แผนที่แบ่งประเภทตามรายละเอียดที่แสดงบนแผนที่ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่

3.1 แผนที่ลายเส้น (Line map) คือ แผนที่ที่แสดงรายละเอียดและสัญลักษณ์ที่ปรากฏบนแผนที่ในลักษณะของลายเส้น เช่น แผนที่ภูมิประเทศ แผนที่เส้นทางคมนาคม แผนที่เส้นทางน้ำ

3.2 แผนที่ภาพถ่าย (Photo map) คือ แผนที่ที่ผลิตจากภาพถ่ายทางอากาศภาพถ่ายจากดาวเทียม หรือภาพถ่ายจากอากาศยานไร้คนขับ ซึ่งแสดงรายละเอียดทั้งหมดของภูมิประเทศ ณ เวลาที่ท าการบันทึกภาพ

3.3 แผนที่แบบผสม (Annotated map) คือ แผนที่ที่ปรากฎรายละเอียดของลักษณะภูมิประเทศเช่นเดียวกับแผนที่ภาพถ่ายและแสดงรายละเอียดหรือสัญลักษณ์ที่ปรากฏบนแผนที่เช่นเดียวกับแผนที่ลายเส้น

3. แผนที่แบ่งตามมาตราส่วน แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ

1.แผนที่มาตรส่วนเล็ก คือ แผนที่มาตราส่วน 1 : 1,000,000 ได้แก่ แผนที่โลกแผนที่ภาคพื้นทวีป แผนที่แสดงอาณาเขตประเทศ แผนที่เส้นทางคมนาคม แผนที่เส้นทางเดินเรือ เส้นทางเดินอากาศ

2 แผนที่มาตราส่วนกลาง คือ แผนที่มาตราส่วน 1 : 250,000 ถึง 1 : 1,000,000 เช่นแผนที่ยุทธการร่วมทางทหาร แผนที่ทรัพยากรดิน น้ำ ป่าไม้ แผนที่สภาพการใช้ที่ดิน ตำบล อำเภอ จังหวัด หรือในระดับภาค

3 แผนที่มาตราส่วนใหญ่ คือ แผนที่มาตราส่วนใหญ่กว่า 1 : 250,000 ได้แก่ แผนที่ภูมิประเทศ 1 : 50,000 แผนที่ภาพถ่ายออร์โธสี 1 : 25,000 แผนที่ผังแปลงที่ดิน 1 : 4,000

มาตราส่วน (Map Scale) คือ อัตราส่วนที่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างระยะทางหรือขนาดบนแผนที่กับระยะทางหรือขนาดจริงบนพื้นโลก มาตราส่วนช่วยให้ผู้ใช้แผนที่เข้าใจว่าระยะทาง 1 หน่วยบนแผนที่เทียบเท่ากับระยะทางเท่าใดในความเป็นจริง มาตราส่วนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่กำหนดระดับความละเอียดและขนาดของพื้นที่ที่แผนที่ครอบคลุม

แผนที่มีประโยชน์อย่างไร 

แผนที่เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้มนุษย์เข้าใจและจัดการกับข้อมูลเชิงพื้นที่ มาตราส่วนเป็นส่วนประกอบหลักที่กำหนดระดับความละเอียดและการใช้งานของแผนที่ โดยมีตั้งแต่วิธีการแสดงแบบตัวเลข เส้น และคำอธิบาย การเลือกใช้แผนที่และมาตราส่วนที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการใช้งานที่แม่นยำ เช่น การสำรวจเขตแดน การวางผังเมือง หรือการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่

การนำทางและการสำรวจ แผนที่ช่วยให้มนุษย์สามารถระบุตำแหน่ง ระยะทาง และเส้นทางในพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคยได้อย่างแม่นยำ ตั้งแต่สมัยโบราณที่นักเดินเรือใช้แผนที่ดาวนำทาง จนถึงยุคปัจจุบันที่ใช้ GPS และแผนที่ดิจิทัล เช่น Google Maps ตัวอย่าง แผนที่ถนนช่วยนักเดินทางวางแผนเส้นทาง แผนที่เดินเรือป้องกันการชนโขดหิน และแผนที่การบินช่วยนักบินลงจอดอย่างปลอดภัย ความสำคัญ ลดความเสี่ยงจากการหลงทางและเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินทางหรือขนส่ง

การกำหนดและเขตแดน แผนที่เป็นเครื่องมือหลักในการกำหนดเขตแดนของประเทศหรือดินแดน ซึ่งมีความสำคัญต่อการรักษาอธิปไตยและป้องกันข้อพิพาท ตัวอย่าง ในกรณีข้อพิพาทไทย-กัมพูชา เช่น บริเวณปราสาทพระวิหารหรือช่องบก แผนที่ที่มีมาตราส่วนต่างกัน (ไทยใช้ 1:50,000, กัมพูชาใช้ 1:200,000) นำไปสู่การตีความเขตแดนที่ไม่ตรงกัน ส่งผลต่อความตึงเครียดทางการเมืองและการทหาร 

การวางแผนและการพัฒนา แผนที่ให้ข้อมูลเชิงพื้นที่ที่จำเป็นสำหรับการวางผังเมือง การจัดการทรัพยากร และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ตัวอย่าง แผนที่ภูมิศาสตร์ช่วยรัฐบาลวางแผนสร้างถนน โรงเรียน หรือโรงพยาบาลในพื้นที่ที่เหมาะสม แผนที่เฉพาะเรื่อง เช่น แผนที่ความหนาแน่นประชากร ช่วยกำหนดนโยบายการกระจายทรัพยากร ความสำคัญ เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

การศึกษาและการวิจัย แผนที่เป็นเครื่องมือการเรียนรู้ที่ช่วยให้เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสิ่งแวดล้อม รวมถึงปรากฏการณ์ต่าง ๆ เช่น สภาพอากาศ การค้า หรือการย้ายถิ่น ตัวอย่าง แผนที่สภาพภูมิอากาศช่วยนักวิทยาศาสตร์วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของโลก แผนที่ประวัติศาสตร์แสดงการเปลี่ยนแปลงเขตแดนเมื่อเวลาผ่านไป ความสำคัญ ส่งเสริมความรู้และการตัดสินใจที่อิงข้อมูล

การสื่อสารและการตัดสินใจ แผนที่ช่วยแปลงข้อมูลที่ซับซ้อนให้อยู่ในรูปแบบที่มองเห็นได้ชัดเจน ทำให้ง่ายต่อการสื่อสารและตัดสินใจ ตัวอย่าง ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น น้ำท่วมหรือแผ่นดินไหว แผนที่ภัยพิบัติช่วยหน่วยกู้ภัยระบุพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและวางแผนช่วยเหลือ ความสำคัญ ลดเวลาในการตัดสินใจและเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ปัญหา

การอนุรักษ์วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ แผนที่บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่สำคัญ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ช่วยรักษาความทรงจำของมนุษยชาติ ตัวอย่าง แผนที่โบราณ เช่น แผนที่ของปโตเลมี หรือแผนที่สมัยอยุธยา แสดงให้เห็นว่ามนุษย์ในอดีตเข้าใจโลกอย่างไรความสำคัญ ช่วยให้คนรุ่นหลังเข้าใจรากเหง้าและบริบทของสังคม

การปรับตัวในยุคดิจิทัล ปัจจุบันแผนที่ดิจิทัลและเทคโนโลยี GIS (Geographic Information System) ทำให้การเข้าถึงข้อมูลเชิงพื้นที่รวดเร็วและแม่นยำ เช่น แอปพลิเคชันอย่าง Google Maps ที่บริษัทขนส่งต่าง ๆ ใช้แผนที่เพื่อให้บริการเรียลไทม์ เช่น การนำทาง ส่งอาหาร  

ปัญหาเส้นเขตแดนไทย-กัมพูชา มาตราส่วน 1:50,000 กับ 1:200,000 

เมื่อเช้าวันที่ 16 มิ.ย. 2568 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 ณ กรุงพนมเปญ ระหว่างวันที่ 14-15 มิ.ย. 2568 ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จ โดยทั้งสองฝ่ายยอมรับกรอบการทำงานและตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจติดตามสถานการณ์ ไทยยืนยันไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก พร้อมตั้งคณะกรรมการปกป้องผลประโยชน์ชาติ และย้ำว่ารัฐบาลกับกองทัพไม่มีข้อขัดแย้ง อย่างไรก็ตาม เอกสารแถลงข่าวของกัมพูชากลับจุดกระแสความไม่พอใจในไทย

แถลงการณ์ของกัมพูชาระบุ 4 ประเด็นจากการประชุม โดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนัก เลขาธิการกิจการชายแดนและประธานคณะกรรมการ พรมแดนร่วมกัมพูชา ยืนยันจะนำพื้นที่ 3 ปราสาทและสามเหลี่ยมมรกตขึ้นสู่ศาลโลก แม้ไทยปฏิเสธอำนาจศาล พร้อมอ้างว่ากัมพูชายึดมั่นในสันติภาพและแก้ไขปัญหาชายแดนอย่างสันติตาม MOU 2543 ซึ่งระบุใช้แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 การอ้างว่าไทยยอมรับแผนที่ดังกล่าวก่อให้เกิดความไม่พอใจ เนื่องจากไทยยึดแผนที่มาตราสส่วน 1:50,000 มาโดยตลอด

ความคลาดเคลื่อนนี้ทำให้กระทรวงการต่างประเทศไทยต้องชี้แจงผ่านโพสต์เฟซบุ๊กเมื่อเวลาใกล้ 21.00 น. ยืนยันว่าไม่ได้หารือเรื่องแผนที่ 1:200,000 ตามที่กัมพูชาอ้าง

ความแตกต่างของมาตราส่วนแผนที่

ความแตกต่างของแผนที่มาตราส่วน 1:50,000 กับ 1:200,000 

แผนที่มาตราส่วน 1:50,000 ที่ไทยใช้อ้างอิง หมายถึง 1 เซนติเมตรบนแผนที่เท่ากับ 50,000 เซนติเมตร หรือ 500 เมตรในความเป็นจริง ด้วยความละเอียดสูง แผนที่นี้สามารถแสดงลักษณะภูมิประเทศ เช่น เนินเขา ลำธาร หรือเส้นทางเล็ก ๆ ได้อย่างชัดเจนและแม่นยำ

ขณะที่ แผนที่มาตราสส่วน 1:200,000 ที่กัมพูชายืนกรานใช้ หมายถึง 1 เซนติเมตรบนแผนที่เท่ากับ 200,000 เซนติเมตร หรือ 2 กิโลเมตรในความเป็นจริง มีรายละเอียดน้อยกว่าของไทยถึง 4 เท่า

ข้อพิพาทเรื่องเขตแดนยังคงอยู่ระหว่างการเจรจาพูดคุยของทั้ง 2 ประเทศ เพื่อนำไปสู่การแบ่งเขตที่ชัดเจน ซึ่งอาจใช้เวลาค่อนข้างนานเนื่องไทยและกัมพูชามีชายแดนติดกันระยะทางกว่า 800 กม. ซึ่งยังคงมีอีกหลายขั้นตอนจนกว่าจะนำไปสู่ผลสำเร็จซึ่งอาจใช้เวลาค่อนข้างนาน 

ดังนั้น คราบใดที่ยังไม่มีบทสรุปในเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน ก็อาจจะยังคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดการปะทะกันได้ ซึ่งผลกระทบก็จะตกถึงประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งด้านการค้าชายแดน แรงงานข้ามชาติ และครอบครัวที่อาศัยใกล้ชายแดน แม้ไม่มีฝ่ายใดต้องการความรุนแรง แต่ทุกฝ่ายหวังให้การพูดคุยนำไปสู่สันติภาพและผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองชาติ

อ้างอิงข้อมูล : กรมพัฒนาที่ดิน, คลังสารสนเทศของสถาบันนิติบัญญัติฯ, กรมแผนที่ทหาร, กรมชลประทาน

อ่านข่าว : มทภ.2 ยันกองทัพยึดแผนที่ 1 : 50,000 จ่อคุย RBC

นายกฯ เข้าบ้านพิษณุโลก หารือหน่วยงานความมั่นคง แก้ปัญหาชายแดนไทย - กัมพูชา

กต.ปัดหารือปมแผนที่ 1:200,000 ผิดหวังกัมพูชาไม่ตั้งใจแก้ปัญหา