วันนี้ (16 มิ.ย.2568) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ต้องรอให้หัวหน้าคณะเจรจาเป็นผู้แถลงผลการประชุม JBC ส่วนกรณีรองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์เฟซบุ๊กนั้นเป็นความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ใช่ในความเห็นกองทัพ
หลังจากนี้ จะเป็นวาระการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) โดยต้องหารือในระดับพื้นที่ และดูแนวทางของ ผบ.ทบ. และ รมว.กลาโหม ว่า ไทยจะดำเนินการอย่างไร เพื่อให้สถานการณ์ในพื้นที่คลี่คลายไปในทางที่ดี
ไม่มีอะไรกังวล ผมไม่เคยกังวลอะไร
ส่วนการวางกำลังทหารจะคุยกันทั้งสองฝ่าย หากมีโอกาสจะพยายามถอนทหารทั้งสองฝ่าย ให้คงกำลังไว้เฉพาะจำเป็น ซึ่งแนวโน้มขณะนี้ถือว่าดี แต่ยังตรึงกำลังเช่นเดิม รอให้เข้าสู่การพูดคุยว่าจะดำเนินการอย่างไรก่อน คาดว่าจะประชุม RBC เร็ว ๆ นี้ และเมื่อเสร็จสิ้นจะแถลงทันที โดยอยู่ระหว่างการรอมติเพื่อกำหนดวันประชุม
ผมต้องคุยกับ ผบ.หน่วยงานของเขาว่าจะถอนกำลังอย่างไร ถอนเมื่อไหร่ ถอนพร้อมกัน ต้องมีชุดตรวจสอบว่าถอนจริงหรือไม่
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าดูเหมือนกัมพูชาจะยึดแผนที่ 1 : 200,000 นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า เป็นเรื่องของทางกัมพูชา แต่ของเรายึดแผนที่ 1 : 50,000 เป็นอธิปไตยของเรา
พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า จุดเกิดเหตุบริเวณช่องบกก่อนหน้านี้ ทุกคนก็ทราบว่าเป็นอย่างไร ใครเป็นคนก่อเหตุ โดยฝั่งกัมพูชาเคลื่อนกำลังเข้ามาโดยที่ไม่เคยปฏิบัติมาก่อน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น ปัจจุบันก็ปรับกำลังแล้วในจุดนั้น และต้องพูดคุยกันต่อให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
แม่ทัพภาคที่ 2 ยังกล่าวขอบคุณชาวบ้านที่เป็นกำลังใจให้ ยืนยันว่าทหารจริงใจ และพร้อมที่จะปกป้องแผ่นดิน
ส่วนกรณีการหันปากกระบอกปืนไปทางศรีสะเกษ ยืนยันว่า เป็นเรื่องปกติในการหันไปทิศทางใดทิศทางหนึ่งที่ไม่ใช่ประเทศของตัวเอง เป็นเรื่องปกติทางการทหาร
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าภายหลังการประชุม JBC เป็นอย่างไร แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า เป็นเรื่องของรัฐบาลที่ต้องเดินเกม แต่ทางกองทัพ ก็เดินเกมของกองทัพ ซึ่งรับนโยบายและรับผิดชอบพื้นที่พื้นที่ความมั่นคง ดูแลผลประโยชน์ของชาติ
ผมไม่ทราบว่าทางคณะเจรจาไปพูดคุยในเรื่องอะไรบ้าง แต่ทราบว่า 1 : 200,000 เราไม่ได้ยอมรับอยู่แล้ว ทางกัมพูชาพยายามยกเรื่องนี้มา ซึ่งรัฐบาลต้องแก้ปัญหานี้ต่อ ส่วนทหารในพื้นที่ไม่ได้มีปัญหาอะไร ยึด 1 : 50,000 อยู่แล้ว ถ้าล้ำมาเราก็ประท้วง ประท้วงเป็นขั้นตอนไป
พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ไทยและกัมพูชาถือแผนที่คนละฉบับ ซึ่งมีบางส่วนล้ำไปล้ำมาตลอดแนวเส้นเขตแดน ขึ้นอยู่กับทางรัฐบาลที่ต้องไปคุยให้ชัดเจนว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร แต่ยืนยันว่าทหารในพื้นที่ ยึดถือแผนที่ของกรมแผนที่ทหารในการดูแลแนวเขต ซึ่งในมุมของกองทัพ ทุกฝ่ายต้องพูดคุยกัน อาจต้องเจอกันคนละครึ่งทาง หากต่างฝ่ายต่างยึดถือของตนเองเป็นหลักอย่างไรก็แก้ปัญหาไม่ได้ โดยยังเชื่อมั่นในการเจรจาเป็นหลัก เพื่อไม่ให้นำไปสู้การใช้กำลังทางทหาร
อ่านข่าว : สมช.ถกด่วน 16 มิ.ย. หารือปมกัมพูชาหยุดซื้อเน็ต-ไฟฟ้าไทย
กต.ปัดหารือปมแผนที่ 1:200,000 ผิดหวังกัมพูชาไม่ตั้งใจแก้ปัญหา