สำหรับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร กับการสวมบทเจรจากับผู้นำมากประสบการณ์ และเต็มไปด้วยคูเหลี่ยมการเมืองระดับชั้นเซียนอย่างสมเด็จฮุน เซน
ทั้งการกล่าวแยกพวกแยกฝ่าย ใส่แม่ทัพภาค 2 ของไทย คนที่ซัดตรง ๆ ว่ากัมพูชาละเมิดเอ็มโอยู 43 เป็นร้อย ๆ ครั้ง และตัวท่านพยายามปกป้องอธิปไตยของประเทศ
โดยย้ำว่า แม่ทัพภาค 2 เป็นฝ่ายตรงข้ามกับนายกฯ ทั้งระบุว่า ต้องการทำตัวเท่ห์ แต่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ
ขณะเดียวกันพยายามพูดขอความเห็นใจจากสมเด็จฮุน เซน แบบอ่อนน้อมด้วยว่า ตอนนี้(นายกฯไทย) ถูกไล่ไปเป็นนายกฯ ประเทศกัมพูชาแล้ว
หากต้องการอะไรขอให้บอก เดี๋ยวจัดการให้ ทำราวกับว่า เป็นเจ้านายผู้บังคับบัญชาที่สั่งให้ทำได้ทุกอย่าง ทั้งที่เป็นเรื่องของประเทศชาติ อันเป็นผลจากข้อขัดแย้งพิพาทพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา
แต่ไม่ใช่เรื่องเฉพาะของลุงกับหลานในครอบครัวแต่อย่างใด คลิปนี้จึงเป็นเรื่องร้อน ถูกเผยแพร่ในโลกโซเชียลจนนายกฯ ไทย ต้องรีบออกมาตั้งโต๊ะแถลง
และพยายามชี้แจงว่า ที่ต้องพูดแบบนี้ เพราะต้องการให้บรรยากาศคลี่คลาย เพื่อเปิดทางไปสู่ประเด็นคำถามว่า ทางฝั่งนั้นต้องการอะไรจากไทย
ก่อนจะกลายเป็นว่า คลิปนี้ถูกปล่อยออกมาในโลกโซเซียล ไม่เพียงเท่านั้น ยังส่งต่อไปยังบุคคลสำคัญๆ ในกัมพูชา ด้านความมั่นคงและกิจการต่างประเทศอีกไม่ต่ำกว่า 80 คน
ด้วยข้ออ้างว่า เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด ป้องกันถูกบิดเบือน และต้องบันทึกการสนทนาเพื่อความโปร่งใส
จึงกลายเป็น “งานเข้า” นายกฯ ในฐานะผู้นำประเทศที่ “ละอ่อน” ทางการเมือง ถูก สมเด็จฮุน เซน ขี่คออยู่ในที เพราะเท่ากับประจานว่า ฝ่ายไทยแตกแยกกันชัดเจน ระหว่างรัฐบาลกับทหาร
นอกเหนือจากเป็นฝ่ายโทรหา เพื่อขอความช่วยเหลืออีกต่างหาก เสียเหลี่ยมให้ฝั่งกัมพูชาเต็มๆ อันเป็นผลจากคาดหวังว่า จะสามารถเคลมเป็นงานได้ หากสามาถเจรจากันสำเร็จ
หารู้ไม่ว่าในทางการเมือง ที่คู่กรณีมีเป้าหมายแบบ Hidden Agenda (วาระซ่อนเร้น) ต้องการปลุกกระแสชาตินิยมนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนต่อรองราคาสินค้ากับแม่ค้าในตลาด
หนำซ้ำยังเป็นเนื้อหาทำนอง “ด้อยค่า” คนกันเอง เอาดีเข้าตัวเอาชั่วเข้าเพื่อน ยิ่งไปกันใหญ่
มีปฏิกริยาเกิดขึ้นทันควันและแพร่หลาย ไม่เพียงผ่านสื่อหลัก แต่ยังขยายผลบานปลายไปในโลกโซเชียล
นักการเมือง นักเคลื่อนไหว กูรูการเมือง ออกโรงมาวิพากษ์และแสดงความเห็นที่เป็น “ทางออก” กันหลากหลาย
ทั้งให้นายกฯ ลาออก ให้ยุบสภาเลือกตั้งหาผู้นำคนใหม่ ปรับ ครม.ไม่พอต้องปรับนายกฯ แต่ก็มี “ตีกัน” ห้ามอ้างเหตุทำรัฐประหาร
ยังไม่นับรวมเสียงวิพากษ์ใส่ตัวนายกฯ ทั้งเชิงบวกและเชิงลบล้นหลาม
แต่ทั้งหลายจะไปโทษผู้คนเหล่านี้ก็ไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่หวังดีและรักประเทศชาติ
แต่ต้องโทษคนต้นคิด ที่ไม่คิดหน้าคิดหลังให้ถ้วนถี่ก่อน แต่ทำโดยไม่ถามความเห็นคนรอบข้างที่มีมากมาย ทั้งที่ปรึกษา คณะที่ปรึกษา คณะทำงาน รัฐมนตรีพี่เลี้ยง รวมกระทั่งคนที่เคยอวดอ้างบารมี และโอ่ว่าซี้ปึ้กสนิทกัน
ผลจึงออกมาอย่างที่เห็น
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าว : แม่ทัพภาค 2 ไม่ติดใจนายกฯ ปมคลิปเสียงคุยฮุนเซน พาดพิง
"ฮุน เซน" รับแชร์ต่อแล้ว 80 คน พร้อมปล่อยคลิปเต็ม 17 นาที
นายกฯ ชี้แจง คลิปเสียงคุยกับ "ฮุน เซน" ยอมรับจริง-ปัดทะเลาะกับทหาร