เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2568 ชาวกัมพูชากว่า 150,000 คน ออกมาร่วมเดินขบวนในกรุงพนมเปญ พร้อมทั้งถือรูปของผู้นำ โบกธงชาติและตะโกนคำขวัญ แสดงพลังสนับสนุนและแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับรัฐบาลกัมพูชาและทหารในแนวหน้า ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งเรื่องชายแดนระหว่างกัมพูชากับไทยที่ตึงเครียด
ชาวกัมพูชาเดินขบวนบนท้องถนนในกรุงพนมเปญเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน
ชาวกัมพูชาเดินขบวนบนท้องถนนในกรุงพนมเปญเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน
ฮุน มานี รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลูกชายคนเล็กของสมเด็จฮุน เซน เป็นผู้นำในการจัดกิจกรรมนี้ ระบุว่า การรวมตัวกันในเป็นมากกว่าการรวมตัวของครอบครัวเขมร เพื่อแสดงความสามัคคี จิตวิญญาณอันเข้มแข็ง และความไว้วางใจของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลกัมพูชาและกองทัพ
ฮุน มานี รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ทักทายประชาชนระหว่างการเดินขบวน ซึ่งจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนการกระทำของรัฐบาลกัมพูชาในข้อพิพาทชายแดนกับไทย ในกรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568
ฮุน มานี รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ทักทายประชาชนระหว่างการเดินขบวน ซึ่งจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนการกระทำของรัฐบาลกัมพูชาในข้อพิพาทชายแดนกับไทย ในกรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568
นอกจากนี้ยังระบุว่า การรวมตัวครั้งนี้ยังแสดงให้เห็นว่าเมื่อกัมพูชาถูกคุกคามประชาชนกัมพูชาจะไม่นิ่งเฉย หากมีการดูหมิ่นเกียรติและบูรณภาพแห่งดินแดนของประชาชนกัมพูชา พร้อมย้ำว่าชาวกัมพูชาจะยืนหยัดที่จะสนับสนุนรัฐบาลและกองกำลังของชาติในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดน ผลประโยชน์ของชาติ และสันติภาพของชาติ และเลือกที่จะดำเนินการตามคำสั่งของผู้นำเพื่อแก้ไขปัญหาทั้งหมดอย่างสันติและอยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย
ประชาชนเดินขบวน ที่จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนการกระทำของรัฐบาลกัมพูชาในข้อพิพาทเรื่องพรมแดนกับไทย ในกรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568
ประชาชนเดินขบวน ที่จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนการกระทำของรัฐบาลกัมพูชาในข้อพิพาทเรื่องพรมแดนกับไทย ในกรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568
ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเน้นย้ำด้วยว่า การเดินขบวนแสดงความสามัคคีครั้งนี้มีความสำคัญอย่างลึกซึ้งต่อชาติ (profound national significance) และให้การสนับสนุนทางขวัญกำลังใจอันสำคัญแก่รัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งแก่กองกำลังแนวหน้าที่กำลังปฏิบัติภารกิจอย่างแน่วแน่เพื่อปกป้องเอกราช อธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา
"ฮุน มาเนต" ย้ำข้อพิพาทชายแดนไม่ใช่ละครการเมือง
ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในกรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2568
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เรียกร้องให้ชาวกัมพูชาทุกคนให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของชาติเหนือสิ่งอื่นใด และให้ไว้วางใจรัฐบาลในการจัดการกับสถานการณ์ชายแดนที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความพยายามที่จะนำเรื่อง 4 พื้นที่พิพาทขึ้นสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ พร้อมทั้งระบุว่าเรื่องข้อพิพาททางพรมแดนนั้นเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่ละครทางการเมืองตามที่มีกลุ่มคนกล่าวอ้าง
ฮุน มาเนต พูดถึงประเด็นที่กัมพูชาถูกกล่าวหาว่าเป็นแหล่งของการพนันออนไลน์ด้วยว่า ประเทศที่กล่าวหากัมพูชาก็เป็นที่ตั้งของกลุ่มการพนันออนไลน์เช่นกัน แต่พยายามที่จะปกปิดและกล่าวหากัมพูชาฝ่ายเดียว โดยมีหลายเรื่องในโลกออนไลน์ที่มีการกล่าวหากัมพูชาบางประเทศชอบกล่าวหาประเทศเพื่อนบ้านกับเรื่องแบบนี้
จนท.อพยพชาวบ้านกว่า 3,000 คน ใน จ.พระวิหาร
ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดพระวิหารของกัมพูชา เปิดเผยว่าได้มีการอพยพประชาชนมากกว่า 3,000 คน จากทั้งหมดกว่า 9,000 คน ที่อาศัยอยู่ใน 6 หมู่บ้าน ในพื้นที่แนวหน้าไปยังสถานที่ปลอดภัยที่ทางการท้องถิ่นจัดเตรียมไว้ให้แล้ว เนื่องจากประชาชนกลุ่มดังกล่าวมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเผชิญหน้ากันระหว่างทหารกัมพูชาและทหารไทย
นอกจากนี้ยังเปิดเผยว่าสถานที่ที่ทางการท้องถิ่นเตรียมไว้อยู่ห่างจากชายแดนประมาณ 100 กิโลเมตร ซึ่งทางการได้มีการจัดเตรียมอาหารและสิ่งของจำเป็นสำหรับประชาชนไว้แล้ว โดยได้รับความช่วยเหลือจากสภากาชาดกัมพูชาและหน่วยงานของรัฐบาล พร้อมทั้งร้องขอให้ผู้ใจบุญช่วยบริจาคอาหาร ผัก ปลา เนื้อสัตว์และสิ่งของอื่นๆ ให้กับทางการท้องถิ่นเพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนในศูนย์แห่งนี้
ผู้ว่าราชการจังหวัดพระวิหาร ระบุด้วยว่า เราไม่อยากเห็นสงครามอีกเลยจริงๆ แต่หากศัตรูรุกรานก็ให้คำมั่นที่จะปกป้องความปลอดภัยของประชาชนให้ได้มากที่สุด และปกป้องแผ่นดินของเราอย่างสุดกำลังจะไม่ยอมให้ศัตรูมาดูถูก
กัมพูชาเดินหน้าช่วยแรงงานกลับจากไทยหางานทำ
สำนักข่าวขแมร์ ไทม์ส เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงานและอาชีวศึกษากัมพูชาออกแถลงการณ์ (18 มิ.ย.) ระบุว่า ทางกระทรวงกำลังพยายามอย่างเต็มที่ในการช่วยจัดหางานให้ชาวกัมพูชาที่เดินทางกลับจากประเทศไทย โดยหน่วยงานและบริษัทในเครือของกระทรวงทุกแห่ง รวมถึงสำนักงานจัดหางานแห่งชาติยังคงให้ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งงานว่างที่มีอยู่ในประเทศ
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า แรงงานกัมพูชาเปิดเผยถึงความโล่งใจและความหวัง หลังรัฐบาลเตรียมมาตรการรองรับด้วยการสร้างงานสร้างอาชีพในท้องถิ่น เพื่อให้พวกเขาหางานทำได้โดยไม่ต้องจากบ้านไปไกล
จำนวนแรงงานกัมพูชาที่เดินทางกลับจากประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นในช่วงนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย โดยตามข้อมูลของกระทรวงแรงงานและอาชีวศึกษากัมพูชา ปัจจุบันมีแรงงานชาวกัมพูชาที่อาศัยและทำงานในประเทศไทยมากกว่า 1.2 ล้านคน
ผลสำรวจชี้ชาวกัมพูชาส่วนใหญ่พอใจ รัฐบาลแก้ปัญหาพิพาทชายแดน
สำนักข่าวแคมโบเดียเนสส์ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นกรณีข้อพิพาทระหว่างกัมพูชากับไทยของ Asian vision institute สถาบันวิจัยอิสระในกรุงพนมเปญ
สถาบันสอบถามความเห็น 1,588 คน จากทุกช่วงวัย แรงงานทั้งในและนอกประเทศ รวมถึงในภาคเอกชน เจ้าหน้าที่รัฐ นักศึกษา ธุรกิจ และกลุ่มอื่นๆ โดยพบว่า ร้อยละ 99.8 สนับสนุนรัฐบาลในการยื่นข้อพิพาท 4 จุดสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ไอซีเจ) และร้อยละ 88.7 เห็นด้วยที่รัฐบาลกัมพูชาสั่งห้ามนำเข้าผักและผลไม้จากไทย เพื่อตอบโต้การปิดด่านแต่เพียงฝ่ายเดียวของไทย
นอกจากนี้ ร้อยละ 29.3 เชื่อในการใช้การเจรจาทวิภาคีเพื่อไก้ไขพ้อพิพาท ขณะที่ร้อยละ 1.1 สนับสนุนกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ และประมาณร้อยละ 0.2 สนับสนุนสงคราม โดยมีมากถึงร้อยละ 78 ที่เชื่อว่าข้อพิพาทชายแดนเกิดจากกองทัพไทย และร้อยละ 21.3 เชื่อว่ากลุ่มชาตินิยมไทยหัวรุนแรงทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น ขณะที่ร้อยละ 95.8 สนับสนุนให้กองทัพกัมพูชา เตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการรุกรานของกองทัพไทย
อ่านข่าว : เสียงสะท้อน "คลิปหลุด" กดดันนายกฯ ลาออก-ยุบสภา
หุ้นไทยรับไม่ไหว! คลิปเสียงนายกฯ-ฮุน เซน ชนวนวิกฤตความเชื่อมั่น