ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

จุดยืน “แพทองธาร-เพื่อไทย” ยื้อยาว ปิดทาง “อนุทิน” นั่งนายกฯ

การเมือง
17:11
699
จุดยืน “แพทองธาร-เพื่อไทย” ยื้อยาว ปิดทาง “อนุทิน” นั่งนายกฯ

ตามคาด เมื่อผลประโยชน์ลงตัว พรรคร่วมรัฐบาลก็ยัง “ยื้อ” อยู่ต่อ ไม่ว่าจะเป็นพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคชาติไทยพัฒนา ที่แม้เหล่า แฟนคลับและคนเคยรัก จะออกมาเรียกร้องให้แสดงจุดยืนลาออกจากรัฐบาล แต่ดูเหมือนไม่ได้ส่งสะเทือนต่อ “ทักษิณ ชินวัตร” และพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด

แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมายืนยัน จะไม่ลาออกจากตำแหน่งและจะไม่มีการยุบสภาฯ ในขณะนี้

“สิ่งที่เกิดขึ้นต้องขออภัย เพราะไม่ทราบจริง ๆ ว่ามีการอัดคลิป ต่อจากนี้จะระวังในการพูดคุยมากขึ้น วันนี้ถ้าเรารวมเป็นหนึ่ง เราสามัคคีกัน เราจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้”

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การไม่ลาออก หรือไม่ยุบสภา ของ “แพทองธาร” ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย หากดูจากการเตรียมรับมือในช่วงเช้าที่ผ่านมา ของชุดทีมที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็น นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานที่ปรึกษา,นพ. สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานที่ปรึกษา, ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษา, ดร.ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษา และนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ที่ปรึกษา และหัวหน้าฝ่ายเลขานุการนายกฯ ฝ่ายบริหาร

ในโลกโซเชียล หน้าเพจของพรรคเพื่อไทย เมื่อวานนี้ ( 18 มิ.ย.) ถูกถล่มยับ เช่นเดียวกับพรรคร่วมรัฐบาลหลาย ๆ พรรค แต่วันนี้ ความเคลื่อนไหว แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์และก่นด่า แต่ก็เทียบไม่ได้กับในช่วงที่มีคลิปสนทนาหลุดออกมาอย่างชนิดเรียกว่าถูกสวดยับแบบหมอไม่รับเย็บ

จึงไม่แปลกหากทางฝั่งพรรคเพื่อไทย ได้ประเมินแล้วว่า จะไม่ให้ “แพทองธาร” ลาออก และแม้จะมีบางพรรคการเมืองลาออกไปบ้าง ก็จะยอมเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย จนกว่าสถานการณ์สุกงอมแล้วอยู่ไม่ได้ การยุบสภาจึงจะเกิดขึ้น

ส่วนพรรคภูมิใจไทยที่ออกไปเป็นฝ่ายค้านนั้น มีเสียงเล็ดลอดออกมาจากสายของฝั่ง “ทักษิณ”ว่า โนสน โนแคร์ ใครจะออกก็ออกไปก็เชิญ และจะมีการตั้งรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยให้ควบกระทรวงเพื่อเข้ากำกับดูแล “กระทรวงมหาดไทย” แม้จะเป็นช่วงระยะสั้น ๆ เพียง4-5 เดือนก็ถือว่า ไม่ขาดทุนและยังสามารถดำเนินการทางการเมืองได้ทัน เพื่อรองรับการเลือกตั้งในปี 2570

โดยจุดยืนของพรรคเพื่อไทย คือ จะไม่มีวันยอมให้ค่ายสีน้ำเงิน “อนุทิน ชาญวีรกุล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก้าวขึ้นมาเป็นนายก ฯ เป็นอันขาด

อย่างไรก็ตาม แม้พรรคเพื่อไทยจะทราบว่า อย่างไรเสียรัฐบาลไม่สามารถอยู่ครบเทอมได้ แต่ก็จะพยายามยื้อ เพื่อให้อยู่ในอำนาจให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ นอกจากนี้ยังมีการวิเคราะห์ว่า อำนาจการบีบที่จะให้ “แพทองธาร” ลาออกยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอ

กล่าวคือ เสียงเรียกร้องส่วนใหญ่อยู่ในโลกโซเชียล ยังไม่มีปรากฏตัวในด้านกายภาพ ดังนั้นแรงบีบจากโลกโซเชียล จึงไม่มีผลต่อการตัดสินใจใดๆ ของพรรคเพื่อไทย

ส่วนตัวผู้นำที่ออกมาต่อต้าน ทางด้านกายภาพที่ออกมาเคลื่อนไหว ยังเป็นกลุ่มคนเดิม ๆ หน้าเก่า ๆ อยู่ และมวลชนส่วนใหญ่ก็ยังเป็นมวลชนเดิม ไร้พลัง ยังไม่มีมวลชนใหม่เข้ามาเสริม ไม่มีชาวบ้านทั่วไป หรือคนรุ่นใหม่เข้าร่วมเพิ่มเติม จึงยังรอได้

นอกจากนี้พรรคเพื่อไทย จะมีการวางวงล้อม ไม่ให้อำนาจจาก deep state เข้ามาส่งสัญญาณสะกิดให้ลาออก โดยจะไม่ให้มีการติดต่อสื่อสาร แต่จะอยู่ในลักษณะแบบซื้อเวลาต่อไปเรื่อยๆ 

“ส่วนการทำรัฐประหาร หากทหารอยากทำก็ทำไป หากมีการทำจริง ๆ พรรคเพื่อไทยก็จะได้เปรียบว่า ตระกูลชินวัตร ถูกกองทัพรังแก เพราะทักษิณ ชินวัตร, ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และแพทองธาร ก็ล้วนถูกทหารกลั่นแกล้ง”

และในที่สุดก็จะมีการนำไปเป็นข้ออ้างว่า เหตุการณ์ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นข้อพิพาท หรือเหตุปะทะที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ล้วนเกิดจากการจัดฉากของทหารโดยเฉพาะการปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี จนนำไปสู่การปิดด่านพรมแดนต่าง ๆ จึงมั่นว่า ทหารจะไม่ปฎิวัติหรือทำรัฐประหาร 

อ่านข่าว

“พล.ท.บุญสิน พาดกลาง” ในสมรภูมิฝุ่นควัน (ข้ามแดน) การเมือง

ติดจรวด 4 คดี กฎหมายไล่ล่า "แพทองธาร" หลังสิ้นเสียงคลิป

คลิปเสียงนายกฯ คุยฮุน เซน ความ “ละอ่อนการเมือง” ราคาสุดแพง