แม้จะเหลือเวลาทำงานอีกเพียง 3 เดือน แต่ “แม่ทัพกุ้ง” พล.อ.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ถูกกล่าวถึงอีกครั้ง หลังถูกพาดพิงในบทสนทนา ระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย และ สมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในเรื่องการปิด-เปิดด่าน และปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา
“เราจะไม่รุกรานใคร และเราก็จะไม่ยอมให้ใครรุกล้ำอธิปไตยของแผ่นดินไทยแม้แต่นิดเดียว...พื้นที่ชายแดนไทย คือ ศักดิ์ศรีที่บรรพบุรุษรักษาไว้ ที่นี่อยู่ในเขต เป็นที่มั่นของพวกเรา ถอยไม่ได้ ไม่ได้ก็คือ ไม่ได้ ” คำกล่าวของพล.ท.บุญสิน หลังเกิดเหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี
พล.ท.บุญสิน พดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเตรียม ทหาร รุ่นที่ 26 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 37 กำลังจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.2568 นี้

ตามประวัติครอบครัวเป็นชาว จ.อุดรธานี บิดารับราชการตำรวจ ในวัยเด็กใช้ชีวิตเหมือนเด็กอีสานทั่วๆไป วิ่งเล่น จับปู จับปลา กับเพื่อนๆ จึงสามารถพูดภาษาอีสานได้อย่างคล่องแคล่ว และคลุกคลีกับวิถีชีวิตชาวบ้านมาตลอด จึงเข้าใจความลำบากของลูกน้อง ซึ่งเป็นทหารชั้นผู้น้อยเป็นอย่างดี
ด.ช.บุญสิน พาดกลาง เรียนที่โรงเรียนชุมชนบ้านดุง และต่อในระดับชั้นมัธยม ศึกษาที่โรงเรียนบ้านดุงวิทยา รุ่นที่ 10 หลับจบชั้นมัธยม ได้นั่งรถไฟเข้ากรุงเทพฯครั้งแรก เพื่อมาสมัครสอบเข้าที่โรงเรียนเตรียมทหาร และสอบเข้าเรียนที่โรงเรียนเตรียมทหารได้ เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 26 (ตท.26)
ก่อนศึกษาต่อที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.)รุ่น 37และโรงเรียนเสนาธิการทหารบก หลักสูตรหลักประจำ ชุดที่ 77 เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นนายทหารฝ่ายเสนาธิการและเติบโตในเหล่าทหารราบ ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 คุมพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในสายยุทธการโดยเฉพาะในเขตอีสานเหนือมาตลอด
พล.ท.บุญสิน เคยลงไปปฎิบัติหน้าที่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ เป็นผบ.ฉก.ปัตตานี เกือบ 2 ปี สำหรับตำแหน่งที่สำคัญ คือ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 (จ.สกลนคร), ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 22 , เสนาธิการกองพลทหารราบที่ 3 , ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 3 , ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 3 (ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา) , ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 (ดูแลพื้นที่อีสานใต้) และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี
นอกจากนี้ ยังเคยมีบทบาทสำคัญในช่วงเหตุการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนเขาพระวิหารในปี พ.ศ. 2554 ก่อนขึ้นเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 2 แม่ทัพน้อยที่ 2 และแม่ทัพภาคที่ 2

ในการบรรยายพิเศษให้นักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ ชั้นปีที่ 5 เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.2568 ช่วงหนึ่งระหว่างการบรรยายพิเศษ ได้พูดถึงกรณีพื้นที่พิพาทบริเวณ “3 ปราสาทและช่องบก” ระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งกำลังเป็นประเด็นในสังคม ว่า จะไม่มีวันยอมขึ้นศาลโลก อย่างเด็ดขาด
โดยระบุว่า ตามกระบวนการของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ต้องได้รับความยินยอมจากทั้งสองฝ่าย ศาลจึงจะรับพิจารณาคดี และย้ำว่ารัฐบาลไทย จะไม่ยอมรับกลไกนี้ โดยตนได้เสนอแนวทางนี้ต่อรัฐบาลแล้วอย่างชัดเจน

“แผ่นดินกูอยู่ตรงนี้มานานแล้ว พอ!! ถ้าจะเอา ก็ดวลกัน ก็จบ ไม่เห็นจะยากอะไร” คำกล่าวของพล.ท.บุญสิน ก่อนจะเกิดเหตุการณ์คลิปสนทนาหลุด เพียง 4 วัน ก่อนตามมาด้วยการโทรศัพท์ไปขอโทษปรับความเข้าใจของ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ต่อเรื่องดังกล่าว เมื่อวานนี้ ( 18 มิ.ย)
โดย พล.ท.บุญสิน กล่าว่า “ผมไม่มีอะไรครับ ผมเข้าใจ ...ก็ไม่ติดใจอะไร ผมทำเพื่อประเทศชาติเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของพี่น้องประชาชน”
ท่ามกลางจุดยืนของกองทัพบกว่า ยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย พร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ และสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้ “คนไทยต้องสามัคคี”
อ่านข่าว:
ติดจรวด 4 คดี กฎหมายไล่ล่า "แพทองธาร" หลังสิ้นเสียงคลิป