วันนี้ (20 มิ.ย.2568) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรให้สัมภาษณ์ถึงทางออกของรัฐบาลภายหลังมีคลิปเสียงนายกรัฐมนตรีกับสมเด็จฯ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่า จากหน้ากระดานที่เป็นอยู่ นายกรัฐมนตรีสูญเสียความเชื่อมั่นไปแล้ว และการลาออกคงไม่ใช่ทางเลือกด้วยสมการที่เป็นอยู่ ทางออกเดียวคือการยุบสภา
และจากบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่เหลืออยู่ เชื่อว่าเลือกมาแล้ว ก็ไม่สามารถหาทางออกให้กับประเทศได้ ปัญหาสำคัญเช่นการปฏิรูปกองทัพ การแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงเรื่องอื่นๆ ซึ่งการรวมตัวกันของรัฐบาลที่เหลืออยู่คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้
นายณัฐพงษ์ยังกล่าวถึงปฏิกิริยาการต่อรองของพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ว่าคงต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีให้ได้มากที่สุด เห็นจากการสื่อสารเมื่อวานนี้ (19 มิ.ย.) ที่บอกว่าต้องไปคุยกับนายกรัฐมนตรี คงจะเป็นเรื่องนี้มากกว่าการเอาประเด็นปัญหาของประเทศเป็นหลัก
ซึ่งถือว่าเป็นบริบททางการเมืองที่ผ่านมา พรรคประชาชนเคยอภิปรายสื่อสารแบบนี้มาก่อนแล้ว เช่น การอภิปรายงบประมาณว่าเราอยากเห็นการจัดสรรงบประมาณที่เป็นประโยชน์กับประเทศ แต่กลายเป็นว่าทุกครั้งจังหวะก้าวทางการเมืองเป็นการต่อรองตำแหน่งและผลประโยชน์มากกว่า ที่เป็นสิ่งที่พวกเราเป็นห่วง จึงนำมาสู่ข้อเรียกร้องว่าการลาออกไม่ใช่ทางออกของประเทศ
เมื่อถามว่าเปิดสมัยประชุมสภาฯ มาแล้ว พรรคฝ่ายค้านก็พร้อมที่จะทำหน้าที่กลไกตรวจสอบอย่างเต็มที่ เพื่อกดดันนายกฯ ให้ยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชน

นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวถึงการรวมกับพรรคภูมิใจไทย และเสนอชื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่มีชื่อเป็นแคนดิเดต เป็นนายกรัฐมนตรี นั้นว่าไม่มีแน่นอน ซึ่งพรรคประชาชนยืนยันมาโดยตลอดว่าในหน้ากระดานที่เป็นอยู่ ไม่สามารถสนับสนุนให้ใครก็ตามมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้ต่อ ณ ตอนนี้ เพื่อแก้ไขสถานการณ์
นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวว่า เรื่องความรักและสามัคคีในสถานการณ์แบบนี้เป็นเรื่องต้องมีอยู่แล้วแต่ไม่อยากให้ใช้สถานการณ์ที่เป็นอยู่ที่มีความขัดแย้งระหว่างประเทศ การเมืองภายในประเทศ อาศัยเป็นจุดช่วงชิงใช้กระแสชาตินิยมมาเรียกร้อง ให้ใช้อำนาจนอกระบบ
สำหรับการลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานีของนายกรัฐมนตรี เพื่อทำภารกิจกับแม่ทัพภาคที่ 2 นั้นเป็นสิ่งที่สมควรทำอยู่แล้ว ต้องพยายามให้รัฐบาลพลเรือนอยู่เหนือกองทัพ และมีบทบาทนำกองทัพ โดยคาดหวังว่านายกรัฐมนตรีจะปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อเรียกร้องความเชื่อมั่นกลับคืนมา
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เข้าใจว่าประชาชนต้องการเปลี่ยนผู้นำประเทศ แต่ไม่เห็นด้วยกับการใช้อำนาจนอกระบบ เช่น การปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น ทางออกอื่น เช่น การเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี โดยที่โครงสร้างการเมืองยังเหมือนเดิม อาจไม่สามารถแก้ปัญหาประเทศได้อย่างแท้จริง ดังนั้น ทางออกที่ดีที่สุดคือการเลือกตั้งใหม่ เพื่อให้ประชาชนเป็นผู้กำหนดอนาคตของประเทศ
สำหรับการพูดคุยกับฝ่ายค้านกลุ่มใหม่ที่จะมีอยู่ร่วมกันนั้น คงไม่ได้มีการนัดเฉพาะกิจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุด ซึ่งฝ่ายค้านในสภาฯ ก็มีการพูดคุยกันอยู่แล้ว แต่ถ้าหมายถึงพรรคภูมิใจไทยที่เข้ามาล่าสุด ส่วนตัวยังไม่ได้มีการพูดคุยใดๆอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้เรื่องความกังวลเกี่ยวกับการซื้องูเห่าหากรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่มีความจำเป็นต้องเน้นย้ำอะไรกับ สส.เพราะมั่นใจในความมั่นคงและความร่วมมือของเพื่อนร่วมพรรค
นายณัฐพงษ์ ยังระบุถึงข้อเสนอของพรรครวมไทยสร้างชาติให้รัฐบาลเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี นายชัยเกษม นิติสิริ จากพรรคเพื่อไทย ว่าต้องดูจากสมการทางการเมืองในปัจจุบัน แต่จุดยืนของพรรคประชาชน ชัดเจนว่าเราไม่ร่วมรัฐบาล ฉะนั้น สภาพที่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้ พรรคภูมิใจไทยถอนตัวออกมา จึงเกิดสภาพรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งคิดว่าเป็นสิ่งที่ต้องติดตามดูต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ส่วนกรณีสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ผู้นำประเทศต้องกำหนดบทบาทตัวเองให้ชัดเจนเนื่องจากกัมพูชากำลังใช้โอกาสนี้ขับเคลื่อนประเด็นต่างๆ เพื่อผลประโยชน์ภายในประเทศ เช่น การเผยแพร่คลิปเสียงที่ถือว่าผิดมารยาททางการทูตอย่างรุนแรง พร้อมเน้นว่าการเจรจาหลังบ้านในฐานะผู้นำประเทศต้องระมัดระวังทุกช่องทางที่มีการสื่อสาร
"ช่องทางหลังบ้านยังสามารถทำได้ สิ่งที่เกิดขึ้นจะโทษฝั่งนั่นฝั่งเดียวก็ไม่ถูก ต้องอยู่ที่ฝั่งเราด้วย หากบทสนทนานายกฯ ยืนอยู่ในหลักการ ในฐานะผู้นำประเทศโดยไม่ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว บทสนทนาก็จะเปลี่ยนไป ถึงแม้จะมีการแอบอัดคลิปแต่บทสนทนาเป็นไปในทางผู้นำกับผู้นำ ตนคิดว่าก็จะไม่นำมาสู่การที่มีคลิปหลุดแบบนี้ สมเด็จฯ ฮุน เซนก็ไม่สามารถนำคลิปเสียงไปใช้ประโยชน์ได้"
อ่านข่าว :
ทหารไทยให้ชาวกัมพูชาหยุดทำกิจกรรม หลังเข้าร้องเพลงที่ปราสาทตาควาย
"พล.อ.ณัฐพล" มอง กรณี "คลิปเสียงหลุด" เชื่อวางแผนมา หวังยิงปืนนัดเดียวได้นกทั้งรัง
"ประชาธิปัตย์" ยันไม่ถอนพรรคร่วม ให้รัฐบาลทบทวนบทบาทสัมพันธ์กัมพูชา