วันนี้ (2 มิ.ย.2568) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยงานในสังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) และร่วมประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าการปรับปรุงพัฒนาเส้นทางลาดตระเวนเพื่อคุ้มครองทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า รวมถึงเสริมสร้างความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล

ภาพ : กรมอุทยานฯ
ภาพ : กรมอุทยานฯ
นายอรรถพล เป็นประธานการประชุมร่วมระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติฯ และฝ่ายความมั่นคง ที่อาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยวผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร โดยมี พ.อ.บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี, นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) พร้อมด้วยหัวหน้าพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่มีแนวเขตติดชายแดนไทย-กัมพูชา ได้แก่ อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ายอดโดม, อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ และผู้บริหารจากกรมอุทยานฯ เข้าร่วมประชุม

ภาพ : กรมอุทยานฯ
ภาพ : กรมอุทยานฯ
การประชุมมุ่งเน้นการปรับปรุงและพัฒนาเส้นทางลาดตระเวนเพื่อคุ้มครองและฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ระยะทาง 324 กิโลเมตร ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่ ทั้งนี้ ได้ข้อสรุปสำคัญ 4 ประการ เพื่อสนับสนุนภารกิจฝ่ายความมั่งคง ดังนี้
1.กรมอุทยานฯ จะผนึกกำลังฝ่ายความมั่นคง คุ้มครองป่าแนวชายแดนภายใต้กฎอัยการศึก โดยหน่วยงานป่าอนุรักษ์ทั้ง 6 แห่ง อยู่ในสังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (สบอ.9) ซึ่งได้รับมอบหมายให้สนับสนุนภารกิจของฝ่ายความมั่นคงในทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลาดตระเวนร่วม เพื่อป้องกันและรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ และสัตว์ป่า พร้อมทั้งประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงอย่างใกล้ชิด

ภาพ : กรมอุทยานฯ
ภาพ : กรมอุทยานฯ
2.แผนปรับปรุงเส้นทางลาดตระเวนตลอดแนวชายแดน จ.สุรินทร์ จ.ศรีสะเกษ และ จ.อุบลราชธานี เพื่อความมั่นคงและการฟื้นฟูป่าอนุรักษ์ โดยฝ่ายความมั่นคงได้วางแผนดำเนินการปรับปรุงเส้นทางลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของประเทศ และป้องกันทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงฟื้นฟูและรักษาทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า ซึ่งกรมอุทยานฯ พร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ในแผนการดำเนินงานดังกล่าว
3.ยึดแนวเขตประเทศตามฝ่ายความมั่นคงกำหนดขอบเขตป่าอนุรักษ์ชายแดน โดยที่ประชุมหารือเกี่ยวกับขอบเขตป่าอนุรักษ์ตามแนวเขตชายแดนไทย-กัมพูชา ได้มีการเน้นย้ำให้หน่วยงานของป่าอนุรักษ์ที่มีพื้นที่ติดกับชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ยึดถือการปฏิบัติตามเส้นแนวเขตประเทศของฝ่ายความมั่นคง เพื่อให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันและเกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการดูแลพื้นที่ป่าอนุรักษ์
4.เร่งของบฯ สนับสนุนยุทโธปกรณ์ทันสมัย สนับสนุนภารกิจของหน่วยงานป่าอนุรักษ์และฝ่ายความมั่นคงให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด โดยให้เร่งรัดจัดทำคำของบประมาณเพื่อจัดหาอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ที่จำเป็น รวมถึงอากาศยานไร้คนขับ (Drone), อุปกรณ์ตรวจค้น/ค้นหาวัตถุระเบิด, รถยนต์, วิทยุสื่อสาร และน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติงานตามแนวชายแดนให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด

ภาพ : กรมอุทยานฯ
ภาพ : กรมอุทยานฯ
นอกจากนี้ อธิบดีกรมอุทยานฯ ยังได้ตรวจเยี่ยมและมอบเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ป่าอนุรักษ์และฝ่ายความมั่นคงที่ปฏิบัติงานในแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
การประชุมครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกรมอุทยานฯ ในการให้ความร่วมมือกับฝ่ายความมั่นคง เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงตามแนวชายแดน ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และประโยชน์ของประเทศชาติ

อ่านข่าว : กต.เตือนคนไทยในกัมพูชา เลี่ยงเข้าใกล้จุดชุมนุม-พื้นที่เสี่ยง
กัมพูชาปิดด่าน "บ้านจุ๊บโกกี-ช่องจวม" ตอบโต้ไทยปิดช่องสายตะกู