วันนี้ (22 มิ.ย.2568) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และตำรวจ สนธิกำลังตรวจสอบร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์กัญชากว่า 20 แห่งในกรุงเทพฯ รวมถึงร้าน 3 แห่งในซอยสุขุมวิท 33 ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลัก
ผลการตรวจพบว่า ร้านทั้งหมดมีใบอนุญาตประกอบการถูกต้องตามกฎหมาย แต่หลายร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกัญชา เช่น หมากฝรั่ง เจลลี่ และอาหารแปรรูป ที่ไม่มีการรายงานข้อมูลสินค้ากับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และไม่มีสลาก อย.กำกับ ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหารและยา มีโทษปรับสูงสุด 30,000 บาท ร้านที่พบสินค้าผิดกฎหมายถูกสั่งปิด 10 วันทันที
นายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ไม่ได้รับการรายงาน หากผลตรวจในห้องปฏิบัติการพบสาร THC เกินร้อยละ 0.2 ของน้ำหนักผลิตภัณฑ์ จะเข้าข่ายเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ซึ่งมีโทษรุนแรงทั้งจำคุกและปรับ
ประกอบกับมีเรื่องร้องเรียนจำนวนมากเกี่ยวกับร้านกัญชาที่แพร่หลายในแหล่งท่องเที่ยว กระทรวงฯ จึงวางแผนตรวจเข้มทุกสัปดาห์เพื่อควบคุมสถานการณ์ โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีร้านกัญชาหนาแน่น

ก่อนการลงพื้นที่ นายสมศักดิ์เดินทางไปปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ด้วยตัวเอง พร้อมประกาศเดินหน้าผลักดันให้กัญชากลับไปอยู่ในบัญชียาเสพติดอีกครั้ง เนื่องจากพบปัญหาสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนที่เข้าถึงกัญชาได้ง่ายขึ้นหลายเท่าตัว เขาย้ำว่าร้านจำหน่ายกัญชาจะต้องเตรียมรับมือกับการควบคุมที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในอนาคต และปฏิเสธว่าการดำเนินการครั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับการที่พรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากรัฐบาล
จากข้อมูลของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ในปี 2568 มีการออกใบอนุญาตให้ผู้ประกอบการร้านกัญชาทั้งสิ้น 17,894 ราย แต่พบการกระทำผิด จนต้องดำเนินคดีกับร้านที่ลักลอบเปิด 123 ราย มีการพักใช้ใบอนุญาต 1,050 แห่ง เพิกถอนใบอนุญาต 9 แห่ง และยกเลิกใบอนุญาต 183 แห่ง สะท้อนถึงปัญหาการบังคับใช้กฎหมายที่ยังไม่เข้มงวดเพียงพอ และความท้าทายในการควบคุมอุตสาหกรรมกัญชาที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
อ่านข่าว :
เทลอาวีฟระส่ำ! ขีปนาวุธอิหร่านถล่ม เจ็บ 86 คน
“ด่านช่องจอม” เงียบ รถบรรทุกพ่วงกว่า 70 คัน รอขนมันกลับจากกัมพูชา