เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2568 ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ CNN รายงานการตัดสินใจของ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ที่สั่งโจมตีศูนย์นิวเคลียร์ของอิหร่าน ทำให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางตกอยู่ในภาวะผันผวนอย่างยิ่ง นักวิเคราะห์กำลังจับตาการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของอิหร่านอย่างใกล้ชิด ซึ่งมีทางเลือกที่สำคัญ 2 ทาง โดยแต่ละทางล้วนมีความเสี่ยงและอาจส่งผลต่อการอยู่รอดของผู้นำอิหร่านในอนาคต
1.อิหร่านอาจกลับสู่โต๊ะเจรจาผ่านการทูต
อามอส ยาดลิน อดีตหัวหน้าหน่วยข่าวกรองทหารอิสราเอล กล่าวกับ CNN ว่านี่คือแรงจูงใจมหาศาลที่จะยุติสงครามและรักษาระบอบการปกครอง อิหร่านอาจประกาศเจรจาเพื่อยุติสงครามบนพื้นฐานของการไม่เสริมสมรรถนะยูเรเนียมเลย ยาดลิน เสริมว่าอิหร่านอาจถอนตัวจากสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (NPT) เพราะศักยภาพในการสร้างระเบิดของอิหร่านนั้น ยังไม่มีใน 1-2 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่ากลุ่มสายเหยี่ยวอนุรักษ์นิยมของอิหร่านจะยอมรับการตอบโต้ทางการทูตเพียงอย่างเดียวต่อการโจมตีจากสหรัฐฯ บนแผ่นดินอิหร่านหรือไม่
2.อิหร่านเลือกตอบโต้
ซึ่งอาจลากสหรัฐฯ และตะวันออกกลางเข้าสู่ความขัดแย้งที่ซับซ้อนและยืดเยื้อ บารัก ราวิด นักวิเคราะห์ด้านการเมืองและกิจการโลกของ CNN ระบุว่าอิหร่านเคยกล่าวไว้หลายครั้ง ว่าหากสหรัฐฯ เข้าร่วมสงครามนี้และโจมตีศูนย์นิวเคลียร์ของพวกเขา พวกเขาจะตอบโต้กองกำลังสหรัฐฯ ในภูมิภาค รวมถึงผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ซึ่งมีอยู่มากมาย อิหร่านยังสามารถเลือกที่จะปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันที่สำคัญ ทำให้มีอำนาจเหนือการขนส่งเชิงพาณิชย์ทั้งหมดในอ่าว ราวิดกล่าวว่าสิ่งนี้จะทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกทั้งหมด
โฮสเซน ชาเรียตมาดารี ที่ปรึกษาผู้ทรงอิทธิพลของผู้นำสูงสุดอิหร่าน ได้เรียกร้องให้มีการโจมตีด้วยขีปนาวุธและการปิดช่องแคบฮอร์มุซแล้ว โมฮัมหมัด อาลี ชาบานี นักวิชาการด้านตะวันออกกลางกล่าวว่า การมีอิทธิพลทางภูมิศาสตร์เหนือการขนส่งทั่วโลกทำให้อิหร่านมีศักยภาพที่จะก่อให้เกิดการช็อกในตลาดน้ำมัน, ผลักดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้น, ขับเคลื่อนเงินเฟ้อ, และทำลายวาระทางเศรษฐกิจของทรัมป์
แอรอน เดวิด มิลเลอร์ นักวิเคราะห์ของ CNN ชี้ว่าผู้นำสูงสุด อยาตอลลาห์ อาลี คาเมเนอี "ต้องตัดสินใจ" และน่าจะตอบโต้ โดยเสริมว่าเป็นไปแทบเป็นไปไม่ได้ที่ผู้นำวัย 86 ปีผู้นี้ ซึ่งมีเป้าหมายหลักในการรักษาระบอบปฏิวัติจะ "อยู่เฉยๆ" คาเมเนอีอาจต้องปรับเทียบการตอบโต้ของเขา คิดว่ายังไม่จบแค่นี้แน่

อิสราเอลโจมตีกลับพื้นที่ตะวันตกอิหร่าน
สหรัฐฯ ได้โจมตีฐานนิวเคลียร์ 3 แห่งของอิหร่านเมื่อวันเสาร์ที่ 21 มิ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น ปธน.ทรัมป์อ้างว่าศูนย์เหล่านี้ถูกทำลายสิ้นเชิง แต่ทางการอิหร่านลดความสำคัญของผลกระทบ โดยสมาชิกรัฐสภาคนหนึ่งกล่าวว่า ฐานฟอร์โดว์ไม่ได้รับความเสียหายร้ายแรง และสื่อของรัฐอ้างว่าการโจมตีสร้างความเสียหายเฉพาะอุโมงค์ทางเข้า-ออกของ Fordow เท่านั้น ไม่ใช่ตัวอาคาร Fordow เป็นที่ตั้งลึกเข้าไปในภูเขาหลายลูกใกล้เมืองศักดิ์สิทธิ์ Qom
ในทางกลับกัน อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธถล่มอาคารอพาร์ตเมนต์ในเทลอาวีฟทางตอนเหนือของอิสราเอล ทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ และสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคาร รวมถึงทำลายหน้าต่างและทิ้งเศษซากปรักหักพังกระจัดกระจาย กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลรายงานว่า มีผู้บาดเจ็บ 86 คน เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตั้งแต่คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันอาทิตย์ หลังอิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอล โดย 2 คนบาดเจ็บปานกลาง 77 คนบาดเจ็บเล็กน้อย 4 คนมีอาการวิตกกังวล และ 3 คนอยู่ระหว่างประเมิน
นับตั้งแต่อิหร่านเริ่มโจมตีเมื่อ 13 มิ.ย. เพื่อตอบโต้การโจมตีของอิสราเอล มีผู้บาดเจ็บในอิสราเอลแล้ว 2,835 คน ในจำนวนนี้ 23 คนอาการหนัก 107 คนปานกลาง 2,555 คนเล็กน้อย และ 119 คนมีอาการวิตกกังวล ขณะที่ตำรวจรายงานว่าเขตที่อยู่อาศัยในเทลอาวีฟถูกโจมตี ทำให้มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยราว 20 คน และเจ้าหน้าที่ยังค้นหาผู้ที่อาจติดอยู่ในซากอาคาร
กองทัพอิสราเอลรายงานว่า กองทัพอากาศอิสราเอลได้เริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายทางทหารในภาคตะวันตกของอิหร่าน ซึ่งเป็นการโจมตีครั้งแรกนับตั้งแต่สหรัฐฯ โจมตีฐานนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยกองทัพระบุว่าเมื่อเช้านี้ ได้โจมตีแท่นยิงขีปนาวุธที่เตรียมโจมตีอิสราเอลของทหารกองทัพอิหร่าน และทำลายแท่นยิงที่เพิ่งยิงขีปนาวุธใส่อิสราเอลได้เร็ว ๆ นี้

IAEA เรียกประชุมด่วน หลังสหรัฐฯ โจมตีอิหร่าน
กระทรวงการต่างประเทศของอิหร่านกล่าวว่าสหรัฐฯ ได้เริ่มสงครามอันตรายต่ออิหร่าน โดยการโจมตีฐานนิวเคลียร์ และถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและกฎบัตรสหประชาชาติ อิหร่านได้ร้องขอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) จัดประชุมฉุกเฉินเพื่อประณามการโจมตีของสหรัฐฯ โดยเรียกการโจมตีดังกล่าวว่าภัยคุกคามร้ายแรงต่อสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคและระหว่างประเทศ
ราฟาเอล มาเรียโน กรอสซี ผู้อำนวยการใหญ่ของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ได้เรียกประชุมฉุกเฉินคณะมนตรีผู้ว่าการในวันจันทร์ที่ 23 มิ.ย. อย่างไรก็ตาม IAEA ยืนยันว่ายังไม่มีรายงานระดับรังสีเพิ่มขึ้นนอกพื้นที่ ณ ศูนย์นิวเคลียร์ทั้ง 3 แห่งที่ถูกโจมตี IAEA ยืนยันว่าเป็นองค์กรเฝ้าระวังระดับโลกที่เป็นกลาง แม้ว่าอิหร่านจะวิพากษ์วิจารณ์ IAEA มากขึ้นนับตั้งแต่ความขัดแย้งกับอิสราเอลปะทุขึ้น
นายกฯ เคียร์ สตาร์เมอร์ ของอังกฤษ ได้เรียกร้องให้อิหร่านกลับสู่โต๊ะเจรจา โดยกล่าวว่าอิหร่านจะต้องไม่ได้รับอนุญาตให้พัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และสหรัฐฯ ได้ดำเนินการเพื่อบรรเทาภัยคุกคามนั้น
ด้านอิรักได้เตือนว่าการโจมตีของสหรัฐฯ ต่อศูนย์นิวเคลียร์อิหร่านถือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อสันติภาพและความมั่นคงในตะวันออกกลาง และมีความเสี่ยงที่จะนำไปสู่ การยกระดับความขัดแย้งที่เป็นอันตราย ซึ่งจะส่งผลกระทบข้ามพรมแดนของรัฐใดรัฐหนึ่ง และคุกคามความมั่นคงของภูมิภาคและโลก อิรักเรียกร้องให้ลดความขัดแย้งลงทันที

อ่านข่าวอื่น :
เช็กพื้นที่ชุมนุม 28 มิ.ย. ไม่ไล่นายกฯ แต่มาแสดงความรักชาติ-ปกป้องอธิปไตย
อิหร่านยิงกลับอิสราเอลทันที หลังทรัมป์แถลงโจมตีฐานนิวเคลียร์