กว่า 7 ชั่วโมง หลังคณะกรรมการคัดเลือกผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือแบงก์ชาติ เชิญผู้สมัครที่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ 6 คน เข้าแสดงวิสัยทัศน์ พร้อมตอบคำถามแบบทีละคน คนละ 30 นาที
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการคัดเลือกผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ผู้สมัครฯ ทยอยเดินทางเข้ามาแสดงวิสัยทัศน์ ครบทั้ง 6 คน ตั้งแต่เวลา 14.00-18.30 น.
จากนั้นคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้ลงคะแนนลับ ก่อนได้ข้อสรุปชื่อผู้สมควรได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ว่าฯ แบงก์ชาติคนใหม่ จำนวน 2 คน โดยประธานคณะกรรมการคัดเลือกฯ ลงนาม ในหนังสือผลการคัดเลือก เสนอนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ในวันนี้ (25 มิ.ย.2568) ก่อนนำเข้าคณะรัฐมนตรี เสนอทูลเกล้าฯ ต่อไป
นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธ์ ประธานคณะกรรมการคัดเลือกฯ กล่าวว่า ผู้สมัครทุกคนล้วนเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ โดยส่วนใหญ่นำเสนอมุมมองต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลก และการใช้เครื่องมือนโยบายการเงิน ในการรับมือความเสี่ยง ล้วนเป็นที่น่าพอใจ พร้อมเปรียบเปรยว่า การตัดสินใจให้คะแนนครั้งสุดท้าย เหมือนการวิ่งแข่ง 100 เมตร และต้องใช้ภาพถ่ายตัดสินขณะเข้าเส้นชัย
ส่วนกรณีข้อสังเกตถึงผู้สมัครบางคน มีความเกี่ยวพันกับการเมือง นายสถิตย์กล่าวว่า กรรมการทุกคนมีความเป็นอิสระ และไม่ได้คำนึงเรื่องการเมืองแต่อย่างใด ซึ่งต้องให้เกียรติกรรมการคัดเลือกทุกคนด้วย
รายงานจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า นางรุ่ง โปษยานนท์ มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพระบบสถาบันการเงิน ธปท.เป็น 1 ใน 2 ผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย
พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงนางสุทธาภา อมรวิวัฒน์ อดีตประธานกรรมการบริหาร บริษัท อบาคัส ดิจิทัล จำกัด ซึ่งเป็นตัวเต็งเช่นกัน อาจไม่ผ่านการคัดเลือก เนื่องจากอาจถูกโจมตี ถึงประเด็นการเมืองครอบงำแบงก์ชาติ เหมือนการคัดเลือกนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติ
ตัวเต็งอีกคนอย่างนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการออมสิน ถือเป็นผู้มีความโดดเด่น ในฐานะนักปฏิบัติ สามารถขับเคลื่อนนโยบายการเงิน และภาคธนาคาร สู่ฐานรากได้ แต่อาจต้องเผชิญความท้าทาย จากวัฒนธรรมองค์กรในแบงก์ชาติ ตลอดจนข้อจำกัดกฎหมายการเงิน ที่มากกว่า พ.ร.บ.ธนาคารออมสินหรือไม่ โดยแหล่งข่าวระบุว่า หากนายวิทัยขึ้นเป็นผู้ว่าแบงก์ชาติ อาจได้เห็นปฏิวัติแบงก์ชาติ
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวว่า สเปคผู้ว่าการแบงก์ชาติคนใหม่ ต้องเป็นผู้สามารถทำงานร่วมกับนโยบายการคลังได้อย่างราบรื่น