วันนี้ (26 มิ.ย.2568) นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และ รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก) ว่า ที่ประชุมติดตามสถานการณ์ตามที่ประชุมได้ติดตามสถานการณ์ตามแนวชายแดนที่จุดผ่านแดนต่างๆ โดยได้รับรายงานจากหน่วยงานในพื้นที่ที่รับผิดชอบการบริหารจุดผ่านแดนต่างๆ ตามนโยบายของ ศบ.ทก. เพื่อติดตามมาตรการยกระดับความเข้มข้นของการควบคุมด่าน ซึ่งที่ประชุมรับทราบว่าส่วนใหญ่เป็นไปอย่างเรียบร้อย
ทั้งนี้ที่เห็นทางสื่อสังคมออนไลน์ว่ามีบางจุด มีชาวกัมพูชาจำนวนมากรอข้ามแดน หรือจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยฝ่ายไทยได้หารือเจรจากับฝ่ายกัมพูชาให้สามารถขยายเวลาการเปิดด่าน โดยจากการประสานงานเป็นไปได้ความเรียบร้อยและชาวกัมพูชาในจุดนั้นจำนวน 722 คน ได้เดินทางข้ามแดนได้
นางมาระตี ยังกล่าวย้ำว่ามาตรการต่างๆ จะเพิ่มความเข้มงวดขึ้น สำหรับผู้ผ่านแดนทั้งสองประเทศ รวมถึงชาวต่างชาติอื่นๆ และมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด แต่ยืนยันอีกครั้งว่าไทยยังยึดหลักสิทธิมนุษยชน อนุญาตให้การรักษาผู้ป่วยได้ 24 ชั่วโมง และอนุญาตให้เด็กนักเรียนนักศึกษา เข้ามาศึกษาได้ ดังนั้นไทยอยู่ในวาระเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติยิ่งต้องรับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว
ส่วนมาตรการเยียวยาทางเศรษฐกิจ นางมาระตี เปิดเผยว่า ที่ได้มีการประชุม ศบ.ทก.ในวันนี้ ได้มีการหาถึงแนวทางการบริหารผลกระทบทางเศรษฐกิจจากมาตรการต่างๆ การช่วยเหลือเยียวยาภาคเอกชน โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการที่ฝ่ายกัมพูชานำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงจากประเทศไทย โดยทุกภาคส่วนได้นำเสนอข้อมูลและให้ความเห็นที่เป็นประโยชน์ในการพิจารณาทางเลือกต่างๆ พร้อมเตรียมรับมือ
ด้าน พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เน้นย้ำการดำเนินการของไทยเป็นไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอน และแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาอย่างเป็นเอกภาพ อย่างไรก็ตามหน่วยงานในพื้นที่ยังคงดำรงความเข้มงวดในการตรวจผู้ผ่านเข้าออก ซึ่งที่ผ่านมามีภาพข่าวการจับกุมชาวกัมพูชา 2 คนซึ่งเป็นการดำเนินการต่อผู้กระทำผิดกฎหมายตรวจคนเข้าเมือง และเป็นกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ตามปกติ โดยรายแรก ไม่มีใบเข้าเมือง ส่วนรายที่สองอยู่เกินเวลาที่กำหนด
สำหรับมาตรการเยียวยาช่วยเหลือประชาชนผู้ประกอบการรับผลกระทบจากสถานการณ์วันนี้ พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวว่าทางศูนย์ได้ร่วมหารือกับผู้แทนหน่วยที่รับผิดชอบในการจัดส่งสินค้าตามช่องทางต่างๆ เช่นกรมศุลกากร กรมเจ้าท่า การท่าเรือแห่งประเทศไทย ทุกหน่วยมีความพร้อมในการดำเนินมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ
นอกจากนี้กระทรวงมหาดไทย ได้มีการสั่งการศูนย์ชายแดนจังหวัด ให้ช่วยเหลือบรรเทาผู้ที่ได้รับผลกระทบตามจังหวัดชายแดน เช่น จ.อุบลราชธานี ชี้แจงแนวทางการเพิ่มจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคจำหน่าย สินค้า ห้างร้าน การจัดงานเทศกาลต่างๆ รวมถึงเปิดช่องทางร้องเรียนให้กับประชาชนด้วยโดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเป็นผู้ประสานงานและประสานงานกับเครือข่ายพาณิชย์จังหวัดใกล้เคียง ในการนำผลิตภัณฑ์ต่างๆ มาช่วยจัดจำหน่ายเช่นเดียวกัน
อ่านข่าว :
นายกฯ ลงพื้นที่สระแก้ว รับฟังปัญหาผู้ค้าชายแดนไทย-กัมพูชา
ทภ.1 อนุโลมเปิดด่านคลองลึก ให้ชาวกัมพูชาเข้าไทยวันละไม่เกิน 1 พันคน