ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

จับกระแสการเมือง: “ โชว์ปึกสัมพันธ์ทบ.“ไทย-ญี่ปุ่น” ชูวิทย์ คัมแบ็ค “พลพรรครักประเทศไทย”

การเมือง
17:36
169
จับกระแสการเมือง: “ โชว์ปึกสัมพันธ์ทบ.“ไทย-ญี่ปุ่น” ชูวิทย์ คัมแบ็ค “พลพรรครักประเทศไทย”

โชว์ปึก ความสัมพันธ์กองทัพบก “ไทย-ญี่ปุ่น” วันนี้ ( 26 มิ.ย. 2568) “บิ๊กปู” พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. ต้อนรับ พล.อ.โมริชิตะ ยาสุโนริ (Gen. Morishita Yasunori) ผบ.กองกำลังป้องกันตนเองทางบกญี่ปุ่น ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของกองทัพบก

ไทย-ญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์ทางการทูตมายาวนาน 138 ปี มีการส่งทหารฝึกร่วม/ผสม ภายใต้รหัส Cobra Gold และในอนาคตจะมีการยกระดับการฝึกให้มีความหลากหลาย รวมทั้งการฝึกการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาสาธารณภัย (HA/DR)

ในฐานะประเทศคู่เจรจาภายใต้ความร่วมมือกรอบการประชุมรมว.กลาโหมอาเซียนกับรมว.กลาโหมประเทศคู่เจรจา (ADMM-Plus EWG on HA/DR) ได้ยกระดับความร่วมมือ จากเดิมไทยเป็นเพียงผู้ร่วมสังเกตการณ์ เป็นผู้เข้าร่วมการฝึกหลักในการฝึกภายใต้รหัส Nankai Rescue ซึ่งญี่ปุ่นพร้อมสนับสนุนยุทโธปกรณ์สำหรับการฝึกการป้องกันเคมี ชีวะ รังสี นิวเคลียร์ (CBRN) ให้กับไทยอีกด้วย

พล.อ.โมริชิตะ ยาสุโนริ ได้แสดงความห่วงใยปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย – กัมพูชา เนื่องจากทั้งสองประเทศถือเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นของญี่ปุ่น ซึ่ง “บิ๊กปู” พล.อ.พนา ยืนยันว่า ไทยพร้อมเจรจาในระดับทวิภาคี ผ่านกลไก RBC, GBC และ JBC และเชื่อมั่นว่าหากมีการเจรจาเกิดขึ้น จะส่งผลให้สถานการณ์คลี่คลายกลับมาปกติได้โดยเร็ว

ชาวอุยกูร์สบายดี “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฏร เปิดเผยการเยือนเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในโอกาสเฉลิมฉลอง 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีนว่า ไม่ได้หารือถึงการส่งกลับชาวอุยกูร์ 43 คนจากประเทศไทยเมื่อเดือน ก.พ.2568

แต่ได้สอบถามเป็นการส่วนตัว ทราบว่า ไม่มีปัญหาอะไร และชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับมานั้น เป็นกลุ่มที่ถูกสร้างความเข้าใจผิด ว่าอยู่ที่ซินเจียงลำบาก ถ้าไปจากที่นี่จะมีคนนำพาไปประเทศที่ 3 จะได้อยู่สุขสบาย คนเหล่านี้จึงอยากไปประเทศที่ 3 ต้องเดินทางไปชายแดนจีนผ่านทางเมืองคุณหมิง ลัดเลาะมาทางภาคเหนือเพื่อไปมาเลเซีย จนมาพบบางส่วนที่อ.สะเดา จ.สงขลา

"ปัจจุบันรัฐบาลจีนเข้าใจว่า ถูกหลอกไม่ได้เป็นผู้ร้าย ก็รับกลับมา เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูต กรุงปักกิ่ง โทรศัพท์ถามไปตลอด หลังรัฐมนตรีและสื่อมวลชนมาเยี่ยม ทราบว่าชาวอุยกูร์อยู่ได้สบาย ไม่มีปัญหารบกวนจากรัฐบาลจีนแต่อย่างใด"

ชนวนแตกหัก หลัง “บิ๊กอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และรมว.กลาโหม ออกมาชี้แจงเหตุผลในการปรับครม. ว่า พรรคเพื่อไทยจำเป็นต้องเข้าไปบริหารกระทรวงคลองหลอด เพื่อให้ต้องการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลได้อย่างเต็มที่

ทำให้ “หัวหน้าหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โต้ทันควัน ถ้าพูดกันแบบนี้ ต้องเชิญมาคุยกันหน่อยแล้ว ว่านโยบายไหนที่พรรคภูมิใจไทยไม่ตอบสนอง?

“ตอนดูแลมหาดไทย เราเดินหน้านโยบายทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องที่ขัดต่อกฎหมายโดยตรง เช่น พนันออนไลน์ที่จะให้ มหาดไทย ไปยกอำนาจข้ามกระทรวง ให้หน่วยงานอื่น แต่สำนักงานกฤษฎีกาก็บอกชัดว่าทำไม่ได้ ...กลายเป็น ถูกกล่าวหาว่าขัดนโยบาย”

หัวหน้าค่ายสีน้ำเงิน ตั้งคำถามว่า มหาดไทยอยู่ในลิสต์ที่ประชาชนอยากให้ปรับหรือ? ไม่ใช่นะ โพลบอกชัดว่ากระทรวงที่ประชาชนอยากให้ปรับ คือกระทรวงกลาโหมมากกว่า!

ส่วนจุดยืนต่อนโยบายกาสิโน “หัวหน้าหนู” อนุทิน ยอมรับว่า เป็นชนวนหนึ่งที่ทำให้พรรคฯต้องหลุดจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ถามว่า กาสิโนจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นจริงหรือ และผลประโยชน์ตกกับใคร คนในประเทศจะได้อะไร
“ถ้าเขาจะดันต่อ ผมก็โชคดีที่ออกมาแล้ว ได้แสดงความเห็นอย่างเต็มที่” 

คัมแบ็ค “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” โพสต์เฟซบุ๊กครั้งแรก โดยระบุว่า หลังจากไปรักษาตัวมา 2 ปี วันนี้กลับมาในสถานะ “พลพรรครักประเทศไทย”

ชีวิตที่เฉียดความตาย ประคับประครองร่างกายที่ถูกโรคร้ายกัดกิน จนน้ำหนักเหลือเพียง 58 กิโลกรัม จากเดิม 80 กิโลกรัม
ไม่ต้องบอกว่าทรมานแค่ไหน แต่อยากบอกกับทุกคนว่า “ต้องสู้แค่ไหน” มากกว่า

ชูวิทย์ ระบุว่า “พลพรรครักประเทศไทย” ไม่ได้เป็นพรรคการเมือง ที่ต้องนำเงินมาทุ่มกับการแข่งขัน และแสดงเทคนิคหาเสียงเพื่อได้ ส.ส. มาแปลงเปลี่ยนเป็นอำนาจ เอื้อประโยชน์ สนองตัณหาตนเอง แล้วนำเงินที่ได้จากการเมืองกลับมาใช้เป็นทุนหาเสียงแสวงรักษาอำนาจในครั้งต่อไป

...การทำลายวงจร “ธุรกิจการเมือง” จึงจำเป็น อย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน
และถึงเวลาต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า “ทำอะไรให้ประเทศนี้บ้าง“ ก่อนจะถามว่า ”ประเทศทำอะไรให้เราบ้าง”

โดยยกตัวอย่าง เรื่องกัญชาที่เป็นยาเสพติด แค่ระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาประชาชนยังสับสนไม่เข้าใจ บางทีก็ว่า “กัญชาเสรี” บางทีก็ว่า “กัญชาทางการแพทย์”

จากเป็นยาเสพติดอยู่แท้ๆ ดันเอาออกมาขายกันได้เสรีทั่วไป คนซื้อมาสูบข้างถนนจนกลิ่นคลุ้งไปทั่ว ผู้ปกครองต้องระวังลูกหลานของตัวเองไม่ให้ไปเผลอลองสูบกัญชา...วันนี้กลับมาควบคุมใหม่ จะเอากลับไปเป็นยาเสพติดอีก

ทุกคนอ้างว่า “ทำเพื่อประชาชน“ ... แต่ประชาชนกลับรู้สึกเหมือนนั่งดูเด็กทะเลาะกัน “ฉันให้เธอได้ เพราะเป็นพวกฉัน ตอนนี้อยู่คนละพวกแล้ว ฉันไม่ให้” ทั้งที่แต่ก่อนก็เล่นกระโดดยางด้วยกันอยู่แท้ๆ

ขนาดเป็น ”ยาเสพติด“ ยังทำกันป่นปี้แบบนี้ กลับไปกลับมาในระยะเวลาสั้นๆ แค่ 2 ปี ทุกอย่างกลับตาลปัตร 2 ตลบ ...ไม่ใช่ไม่เห็นด้วย เพราะผมรณรงค์ให้เป็น “กัญชาทางการแพทย์” มาโดยตลอด แต่สมเพชกับการเห็นเรื่องยาเสพติดเป็นเรื่องเล่นๆ มีประเทศไหนเขาทำกันแบบนี้?

ฟาดจุก ๆ เจ็บ ๆ สมกับการกลับมาอีกรอบหนึ่งจริง ๆ

อ่านข่าว

พลังดูด "ภูมิใจไทย-เพื่อไทย-กล้าธรรม" สส.งูเห่า "ขนมผสมน้ำยา"

ฟอกเงินดิจิทัล นอกราชอาณาจักร เล่ห์ร้าย “คอลเซนตอร์” ข้ามแดน

จับกระแสการเมือง: รัฐบาลเพื่อไทย “กอดคอ”พรรคร่วมฯ สู้ครั้งสุดท้าย “ทำลายตัวเอง” ?