วันนี้ (26 มิ.ย.2568) สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา แต่งกายชุดทหาร ลงพื้นที่ จ.อุดรมีชัย ที่มีพรมแดนติดกับไทย พบปะกับทหารและชาวบ้านที่มารอต้อนรับ ขณะที่ล่าสุด กองทัพกัมพูชา เสนอตำแหน่งผู้บัญชาการสูงสุด ด้านการส่งกำลังบำรุงกองทัพกัมพูชาให้กับ "ฮุน เซน"
โดยอดีตผู้นำกัมพูชา เน้นย้ำกับผู้บังคับบัญชาทหารทุกหน่วย ให้คงความพร้อมของกำลังพลในขั้นสูงสุด และอย่าเกรงกลัวภัยคุกคามใด ๆ ที่พยายามจะบ่อนทำลายอธิปไตยกัมพูชา นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า กัมพูชาอาจเผชิญความขัดแย้งเรื่องพรมแดนกับไทยไปอีกเป็นระยะเวลายาวนาน หากไม่เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นในรัฐบาลไทย
ซึ่งแตกต่างกับการปะทะกันเมื่อปี 2554 พร้อมทั้งแนะนำให้ชาวบ้านในพื้นที่ ขุดสนามเพลาะเพื่อป้องกันภัย และเตรียมผลผลิตทางการเกษตรให้พร้อม

ที่มา : Samdech Hun Sen of Cambodia
"ฮุน เซน" ขอ "ญี่ปุ่น" ช่วยแก้ปัญหาพรมแดนกับไทย
ขณะที่เพจเฟซบุ๊กของสมเด็จฮุน เซน เผยภาพขณะที่ พล.อ.โมริชิตะ ยาสุโนริ ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันตนเองทางบกของญี่ปุ่น พร้อมคณะ เข้าพบที่กรุงพนมเปญเมื่อวานนี้ (25 มิ.ย.)
โดยสมเด็จฮุน เซน ร้องขอให้ญี่ปุ่น ช่วยพูดคุยกับไทย ให้ยอมรับการแก้ปัญหาพรมแดนระหว่างกันอย่างสันติ ซึ่งรวมถึงการยื่นข้อพิพาทเหนือพื้นที่ 4 จุด ให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศพิจารณาด้วย นอกจากนี้ ยังวิพากษ์วิจารณ์ไทย ที่ดำเนินมาตรการปิดพรมแดนฝ่ายเดียว และละเมิดอธิปไตยของกัมพูชาหลายครั้ง

ที่มา : Samdech Hun Sen of Cambodia
"ฮุน มาเนต" ตั้งคำถาม อำนาจนายกฯ - กองทัพไทย
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก ฮุน มาเนต เผยแพร่คลิปวิดีโอ ที่ออกมาแสดงถึงความกังวลเกี่ยวกับความไม่ชัดเจน และการดำเนินการที่ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ระหว่างนายกรัฐมนตรีไทย และกองทัพไทย ในประเด็นปัญหาพรมแดน ซึ่งกัมพูชา ต้องการคำตอบที่ชัดเจนว่า ใครมีอำนาจตัดสินใจเปิด-ปิดจุดผ่านแดนของไทย
ซึ่งหากทราบแน่ชัดแล้ว กัมพูชาจึงจะหารือด้วยความจริงใจ และหาทางออกร่วมกันเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้ง 2 ประเทศได้ นอกจากนี้ นายกฯ กัมพูชายังเน้นย้ำด้วยว่า กัมพูชาจะไม่เล่นเกมกับไทย
หากกัมพูชาจะดำเนินการใด ๆ กัมพูชาก็จะทำอย่างมีความรับผิดชอบ ซึ่งที่ผ่านมา ก็ได้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนแล้ว เช่นเดียวกับเรื่องที่ไทยปิดจุดผ่านแดน กัมพูชาก็จะปิดต่อไปจนกว่าไทยจะยอมเปิด ซึ่งไม่ทราบแน่ชัดว่า จะสิ้นสุดเมื่อไร

ที่มา : Hun Manet
ที่มา : Hun Manet
ด้านสำนักข่าวขแมร์ ไทม์ส รายงานแถลงการณ์ของคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา ที่แสดงความกังวลต่อการดำเนินมาตรการปิดพรมแดนฝ่ายเดียวของไทย โดยระบุว่า ละเมิดสิทธิมนุษยชนหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นเสรีภาพในการเดินทาง สิทธิในการทำงาน สิทธิในการรับข้อมูลข่าวสาร สิทธิในการมีคุณภาพชีวิตที่ดี สิทธิที่จะได้รับการศึกษาและบริการสาธารณสุข นอกจากนี้ ยังอาจยิ่งทำให้ผู้คนตกอยู่ในความเสี่ยงของขบวนการค้ามนุษย์เพิ่มขึ้นอีกด้วย
อ่านข่าวเพิ่ม :
"ภูมิธรรม" เมิน "ฮุน เซน" รับตำแหน่งเสนาธิการทหารสูงสุดกัมพูชา