ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ภูมิธรรม" เมิน "ฮุน เซน" รับตำแหน่งเสนาธิการทหารสูงสุดกัมพูชา

การเมือง
19:11
208
"ภูมิธรรม" เมิน "ฮุน เซน" รับตำแหน่งเสนาธิการทหารสูงสุดกัมพูชา
"ภูมิธรรม" ส่งสัญญาณสั่งลาย้ายกระทรวง คุย ผบ.เหล่าทัพรายคน ขณะที่ไม่ออกความเห็น "ฮุน เซน" ขอให้ญี่ปุ่นสนับสนุนแนวทางกัมพูชาแก้ชายแดน เมินรับตำแหน่งเสนาธิการทหารสูงสุดของกัมพูชา ยันต้องใช้เวลาสอบเหตุผู้นำฝ่ายค้านถูกลอบสังหารในไทยเพราะเป็นการเมืองนอกประเทศ

วันนี้ (26 มิ.ย.2568) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ  รมว.กลาโหม ระบุหลังการประชุมสภากลาโหม ที่กองทัพอากาศ ซึ่งใช้เวลานานถึง 3 ชั่วโมงครึ่ง โดยแยกเป็นวงประชุมใหญ่และวงประชุมเล็ก ว่า เป็นการคุยกับ ผู้บัญชาการเหล่าทัพทีละคน โดยหลังจากนี้คงจะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลเกิดขึ้น จึงขอบคุณทุกคนที่ได้ทำงานร่วมกันมาอย่างดี และมีอะไรก็ยังช่วยกันได้อยู่ เพราะยังไม่ชัดเจน แต่ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงการประชุมสภากลาโหมครั้งหน้าเดือนกรกฎาคม ก็อาจจะไม่ได้พบกัน จึงลากันเผื่อไว้

แต่ถ้าไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงก็ยังทำงานร่วมกันได้ จึงขอบคุณเหล่าทัพที่ให้ความสนับสนุนช่วยเหลือการทำงานอย่างดี และขอบคุณทุกท่าน ดีใจที่มีโอกาสมาทำงานที่กระทรวงกลาโหม อะไรที่ยังช่วยได้ถ้ายังอยู่ในรัฐบาลก็ยินดี ทั้งนี้ ไม่ได้มีการสั่งลาพิเศษ แต่การเมืองไม่แน่นอน และการเปลี่ยนแปลงอาจเกิดขึ้นได้ เพราะขณะนี้ทุกคนได้เขียนรายละเอียดยืนยันประวัติไปแล้ว จึงพูดไว้เป็นสองทาง ซึ่งการมาทำงาน ร่วมกับกองทัพ ได้เรียนรู้อะไร หลายเรื่อง เป็นสิ่งที่ไม่เคยเข้าใจก็ได้เข้าใจ และเห็นว่ากองทัพทุกเหล่าทำงานเต็มที่ และทุ่มเท ขอให้ทำเต็มที่อย่างนี้ต่อไป เพื่อเกิดประโยชน์กับประเทศ พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณอะไร แต่เป็นการพูดตามปกติที่จะมีการเปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้การเขียนรายละเอียดประวัติ เตรียมไว้ เพื่อใช้ในกระบวนการตรวจสอบประวัติ จากเดิม 2-3 วันก็จบแล้ว แต่ตอนนี้ต้องไปตรวจสอบอีกหลายที่ ซึ่งรัฐบาลก็ต้องทำงาน จึงอยากให้ทุกอย่างพร้อมเร็ว พร้อมย้ำว่า หากถึงเวลาที่ต้องจากก็จาก แต่ถ้ายังต้องทำงานอยู่ก็เต็มใจและทำงานด้วยความเต็มใจ และไม่ได้มีการลงนามทิ้งทวนโครงการของกองทัพแต่ ยอมรับว่าบางโครงการอยู่ระหว่างดำเนินการเพราะยังไม่จบ

เรื่องเรือดำน้ำก็พยายามทำให้จบ สำหรับโครงการเครื่องบินกริพเพนอยู่ในแผนแล้ว

ไม่ขอออกเห็น "ฮุน เซน" ขอให้ญี่ปุ่นสนับสนุน

นายภูมิธรรม ระบุว่าที่ประชุมสภากลาโหมวันนี้ได้มีการวิเคราะห์สถานการณ์ ความมั่นคงตามปกติ ทั้งเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางการโลกและเรื่องชายแดน ซึ่งสถานการณ์ข้อพิพาท ชายแดนก็สงบลงไปมากแล้ว และขอยืนยันว่ารัฐบาลแก้ปัญหาด้วยสันติวิธีและใช้กลไกทวิภาคี ส่วนเรื่องด่านก็ใช้มาตรการควบคุมปิดเปิดให้กระทบกับประชาชนน้อยที่สุด และคำนึงถึงเรื่องมนุษยธรรม

ขณะที่กรณีสมเด็จฯ ฮุน เซน รับตำแหน่งเสนาธิการทหารสูงสุดของกัมพูชาว่า ได้ติดตามข่าวสารเหล่านี้ เพื่อรับฟังและพิจารณา แต่มองว่าอย่าไปตามมากเพราะเปลี่ยนแปลงตลอด

นายภูมิธรรม ระบุถึงกรณีที่ สมเด็จฯ ฮุน เซน พบผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันตนเองทางบกของญี่ปุ่น และขอให้สนับสนุนแนวทางของกัมพูชาว่า ไม่ขอออกความเห็น และโดยส่วนตัวก็ไม่ได้มีการพบกับผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันตนเองทางบกของญี่ปุ่น

ส่วนกรณีที่ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันตนเองทางบกญี่ปุ่นมาพบ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ในวันนี้ ได้รับรายงานว่ามีการมาพบ แต่ไม่ได้พูดคุยในรายละเอียด ซึ่งเป็นการมาเยือนตามปกติ

ทั้งนี้ที่มีกระแสเรียกร้องฟื้นคดีลอบสังหารฝ่ายค้านกัมพูชาในประเทศไทยนั้น เรื่องนี้มีการเมืองนอกประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องก็ต้องใช้เวลา และไม่อยากจะเข้าไปสอบสวนอะไรในประเทศของเพื่อนบ้าน ขณะที่สภาความมั่นคง ขณะที่ถูกนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อ้างว่าเป็นคนไปลงนามให้คนขึ้นไปที่ปราสาทตาเมือนธม ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น ซึ่งการยึด MOU 43 นั้นก็ยึดตาม MOU ในอดีตไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ดังนั้นอย่าพูดให้ผู้อื่นเสียหาย

"ในฐานะที่เป็นบุคคลสาธารณะก็รับฟังแต่ก็ขอว่าอย่านำเรื่องที่ไม่จริงออกมาพูด หากนายสมชัยมีปัญหา ยินดีที่จะพบพูดคุย และคงไม่ถึงขั้นไปฟ้อง แต่อยากให้เข้าใจ เพื่อให้บ้านเมืองสงบ โดยส่วนตัวเป็นนักการเมืองที่พร้อม พิสูจน์ตัวเองแต่อยากให้ทุกอย่างโปร่งใส"

สภากลาโหม สั่งยกระดับมาตรการรับมือแฮกเกอร์กัมพูชาโจมตี

พ.อ.หญิง ดังใจ สุวรรณกิตติ โฆษกกระทรวงกลาโหม ระบุว่า การประชุมสภากลาโหม ได้หารือถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทยและกัมพูชาตามแนวชายแดนที่ผ่านมา และเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนอย่างใกล้ชิด ครอบคลุมข้อมูลข่าวสารด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงภายในกัมพูชา

โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของกำลังรบและยุทโธปกรณ์ใกล้แนวชายแดนที่อาจส่งผล กระทบต่อประเทศไทย

นอกจากนี้ หน่วยที่รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนจะต้องบูรณาการการทำงานกับทุกภาคส่วน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระดับพื้นที่กับกองกำลังฝ่ายกัมพูชา ภายใต้กลไกสันติวิธีเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน พร้อมทั้งสั่งการให้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการทูต และติดตามนโยบายต่างประเทศของกัมพูชา เพื่อเสนอแนะแนวทางการดำเนิน นโยบายที่เหมาะสมต่อไป

ด้านความมั่นคงภาคสนาม หน่วยกองกำลังป้องกันชายแดน โดยเฉพาะหน่วยในระดับพื้นที่ ต้องเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย เพิ่มการลาดตระเวนและจุดตรวจ พร้อมเน้นย้ำให้กำลังพลมีวินัย ตื่นตัว และเคร่งครัดในการปฏิบัติหน้าที่ โดยต้องสังเกตสิ่งผิดปกติ ตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยหรือกลุ่มผู้ไม่หวังดี รวมถึงจุดเวรยามอย่างสม่ำเสมอ และให้รายงานผู้บังคับบัญชาโดยเร็วที่สุดเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่อาจกระทบความมั่นคง

ทั้งนี้ยังได้สั่งให้ทุกหน่วยยกระดับมาตรการความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ เพื่อรับมือการโจมตีจากกลุ่มแฮกเกอร์กัมพูชาโดยเร่งด่วน และให้มีการติดตาม เฝ้าระวัง แลกเปลี่ยนข้อมูลภัยคุกคามกับ หน่วยงานพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง รวมถึงแจ้งเตือนหน่วยที่เกี่ยวข้องทันทีเมื่อตรวจพบภัยคุกคาม

พร้อมกันนี้ ได้กำชับให้กองบัญชาการกองทัพไทยและเหล่าทัพ จัดทำแผนการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจ นำไปสู่การใช้กำลังทหาร เช่น แผนรับมือผู้หนีภัยจากการสู้รบ แผนรักษาความปลอดภัยตามแนวชายแดน แผน ช่วยเหลือพลเรือน และแผนการใช้กำลัง โดยเฉพาะหน่วยเคลื่อนที่เร็ว เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาวไทยใน กัมพูชาและการอพยพกลับประเทศ

รวมทั้งแผนเสริมกำลังเมื่อสถานการณ์รุนแรงขึ้น โดยให้เตรียมยุทโธปกรณ์ อาวุธประจำหน่วยและประจำกาย โดยเฉพาะกระสุนและวัตถุระเบิดให้เพียงพอ และพิจารณาปรับแผนงาน โครงการและงบประมาณเพื่อซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์และจัดหาสิ่งอุปกรณ์ที่ขาดแคลน

พร้อมทั้งมอบหมายให้กองบัญชาการกองทัพไทยเป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำรายงานสถานการณ์แบบบูรณาการ เสนอแนวทางการเตรียมเพื่อตอบสนองสถานการณ์และรักษาเสถียรภาพชายแดนในทุกมิติ

ทั้งนี้ ให้ทุกหน่วยงานภายใต้กระทรวงกลาโหมดำเนินการอย่างเป็นเอกภาพภายใต้กรอบและนโยบายของรัฐบาล โดยยึดแนวทางของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา

อ่านข่าว :

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ชงยกเลิกกิจกรรม 75 ปีความสัมพั​นธ์ไทย-กัมพูชา​

ศบ.ทก.แจงจับ 2 ชาวกัมพูชา จ่อเยียวยาภาคเอกชน-ผู้ประกอบการ

นายกฯ ลงพื้นที่สระแก้ว รับฟังปัญหาผู้ค้าชายแดนไทย-กัมพูชา