วันนี้ (27 มิ.ย.2568) นายวิศารท์ พจน์ประสาท ประธานบริหารนิคมอุตสาหกรรมกัญชาทางการแพทย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตปลูกกัญชาทางการแพทย์รายใหญ่ที่สุดของประเทศ เปิดเผยว่า ภาคธุรกิจกัญชาทางการแพทย์ได้รับผลกระทบหนักตั้งแต่การปลดล็อกกัญชาเมื่อปี 2565 ส่งผลให้ตลาดปั่นป่วนอย่างไร้ทิศทาง
- ราชกิจจาฯ ประกาศกฎกระทรวงควบคุม "ช่อดอกกัญชา" มีผล 26 มิ.ย.68
- "สมศักดิ์" ปัดกัญชากลับยาเสพติดใน 45 วัน ยันไม่ใช่เกมการเมือง
- อวสาน "สายเขียว" มติเครือข่ายแพทย์ หนุนเลิก "นโยบายกัญชาเสรี"
เราทำเรื่องกัญชาทางการแพทย์มาตั้งแต่ปี 2564 ก่อนจะมีการปลดล็อก ยังได้รับอนุญาตในฐานะยาเสพติดเพื่อใช้ทางการแพทย์โดยเฉพาะ แต่เมื่อปลดล็อก ทุกคนก็หันมาปลูกกัญชาโดยไม่มีระบบควบคุม ทำให้ตลาดเสียหาย กัญชากลายเป็นเหมือนใบกะเพรา
เขาระบุว่า หลังจากมีการปลดล็อกตลาดกัญชากลับตกต่ำอย่างต่อเนื่อง โรงปลูกจำนวนมากต้องปิดกิจการ โดยฟาร์มของเขาที่มีพื้นที่กว่า 500,000 ตร.ม.ต้องลดกำลังการผลิตอย่างหนัก

นายวิศารท์ พจน์ประสาท ประธานบริหารนิคมอุตสาหกรรมกัญชาทางการแพทย์แห่งประเทศไทย
นายวิศารท์ พจน์ประสาท ประธานบริหารนิคมอุตสาหกรรมกัญชาทางการแพทย์แห่งประเทศไทย
เนื่องจากไม่สามารถขายในประเทศได้ เพราะต้นทุนสูงจากการผลิตตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข ขณะที่กัญชาราคาถูกจากฟาร์มเถื่อนและต่างประเทศหลั่งไหลเข้าสู่ตลาด
วันนี้โรงปลูกที่ได้มาตรฐานเหลือเพียง 69 แห่ง จากเดิมหลายพันแห่ง และอาจเหลือไม่ถึง 30 แห่งในปีหน้า ถ้าสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้
นายวิศารท์ ยังตั้งข้อสังเกตว่า แม้รัฐจะกลับมาควบคุมการใช้กัญชาใหม่ โดยให้อยู่ภายใต้กฎหมายยาเสพติดอีกครั้ง เขาก็ไม่ได้คัดค้านและไม่ได้รับผลกระทบเพราะเน้นตลาดในต่างประเทศ

แต่ต้องการให้รัฐมีความชัดเจนในการส่งเสริมการส่งออก และผลักดันการใช้ในทางการแพทย์อย่างจริงจัง โดยเสนอให้จัด Road Show ในต่างประเทศ เช่น เยอรมนี โปรตุเกส และออสเตรเลีย เพื่อเปิดตลาดและสร้างชื่อเสียงให้กัญชาไทย
วันนี้เราส่งออกได้แค่ครั้งละ 15-30 กก.ทั้งที่มีกำลังผลิตสูง รัฐควรมีบทบาทช่วยเหลือด้านการเจรจาส่งออก เพราะไม่มีหน่วยงานใดให้การสนับสนุนเลย
เขายังตั้งข้อสงสัยต่อแนวทางของภาครัฐเกี่ยวกับคำว่า “กัญชาทางการแพทย์” ซึ่งยังขาดความชัดเจนว่าแพทย์และผู้ป่วยจะนำไปใช้อย่างไร พร้อมระบุว่า คลินิกกัญชาทางการแพทย์ของเขาเองต้องปิดกิจการตั้งแต่ปี 2565 เนื่องจากไม่มีผู้มาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
รัฐไม่เคยเข้าใจตลาดกัญชาทางการแพทย์จริง ๆ ทุกวันนี้คนป่วยยังต้องกินพาราเซตามอล ไม่มีการสนับสนุนตำรับยาแผนไทยหรือแพทย์ทางเลือกเลย
นายวิศารท์ กล่าวทิ้งท้ายว่า แม้ขณะนี้รัฐจะเตรียมนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด เขายินดีปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ขอให้ทำอย่างรอบด้าน ไม่ใช่เพียงออกกฎโดยไม่มีแนวทางการตลาดรองรับ พร้อมเตือนว่า หากไม่เร่งแก้ไขปัญหา ตลาดกัญชาไทยอาจล่มสลายจนเหลือเพียงไม่กี่รายที่สามารถอยู่รอดได้

อ่านข่าว : สิ้นสุดกัญชาเสรี! ประกาศใหม่ คุมช่อดอก ห้ามโฆษณา-ขายทั่วไป
ผู้ประกอบการเรียกร้องจัดโซนร้านกัญชาเมืองท่องเที่ยว
ป.ป.ส. - สธ.จ่อหารือมาตรการ หลังประกาศคุมช่อดอกกัญชา