วันนี้ (27 มิ.ย.2568) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก Ing Shinawatra โดยระบุข้อความว่าเนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมเชียงราย ขณะนี้ฝ่ายปกครอง ปภ.เขต จังหวัด และนายอำเภอได้ลงพื้นที่เพื่อเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทั้งการขนย้ายสิ่งของสำคัญขึ้นที่สูง อพยพประชาชนไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัย โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่ติดอยู่ในพื้นที่
โดยได้สั่งการเพิ่มเติมให้กระทรวงกลาโหม ประสานความร่วมมือช่วยเหลือด้านกำลังพลและอุปกรณ์ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้ได้อย่างรวดเร็ว ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ ปภ.ดูแลจัดเตรียมสิ่งของอุปโภคบริโภค ให้ทางกระทรวงสาธารณสุขเตรียมบุคลากรทางการแพทย์ให้พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงดีอี โดยเฉพาะกรมอุตุนิยมวิทยา ประเมินสถานการณ์และแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบเป็นระยะ
ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข่าวสารจากทางราชการในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ซึ่งจะผ่านทั้งทาง Cell Broadcast และการแจ้งข่าวโดยตรงจากในพื้นที่
ขอส่งกำลังใจให้พี่น้องประชาชนที่กำลังประสบภัยและเจ้าหน้าที่ทุกท่านขณะนี้ รัฐบาลจะดูแลทุกชีวิตอย่างดีที่สุด และนี่เป็นอีกครั้งที่ยืนยันว่าการจัดการน้ำอย่างเป็นระบบจะต้องเกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งรัฐบาลเตรียมแผนงานไว้แล้ว
ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ (28 มิ.ย.) นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่ จ.เชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม โดยจุดแรก ที่บ้านสบเปา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย จากนั้นมอบถุงยังชีพที่ วัดสันติคีรี อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย จากนั้นช่วงบ่าย ไปติดตามแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ที่ คิงโรมัน บริเวณ อ.เชียงแสน และจุดสุดท้ายลงพื้นที่ โรงเรียนแม่จันวิทยาคม อ.แม่จัน จ.เชียงราย ดูกลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้รับสัญชาติไทย ทั้งนี้การลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรี ไม่มีกำหนดการล่วงหน้า แต่ดูจากสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.เชียงราย
ขณะเดียวกันในวันพรุ่งนี้ ต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวทางการเมือง กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ นายพิชิต ไชยมงคล แถลงข่าวความพร้อมการจัดการชุมนุมของกลุ่มเห็นต่างทางการเมืองซึ่งมีหลากหลายกลุ่ม เช่น เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย จัดชุมนุมใหญ่ ปกป้องอธิปไตย น.ส.แพทองธาร บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตั้งแต่ 10.00-21.00 น.
อ่านข่าว :