นายวิศารท์ พจน์ประสาท เจ้าของคลินิกแพทย์แผนไทยที่ใช้กัญชาเป็นส่วนประกอบในการปรุงยา ออกมาเปิดเผยถึงสถานการณ์ที่น่าวิตก หลังเปิดให้บริการทางการแพทย์มาตั้งแต่ปี 2564 แต่ตลอดช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา แทบไม่มีผู้ป่วยมาใช้บริการ พร้อมตั้งคำถามถึงนโยบายภาครัฐว่า เข้าใจคำว่า “กัญชาทางการแพทย์” มากน้อยเพียงใด
คลินิกแห่งนี้จัดตั้งขึ้นโดยมีเป้าหมายในการใช้ตำรับยากัญชาตามแนวทางของแพทย์แผนไทย ซึ่งในช่วงแรกได้รับความสนใจอย่างมากจากหน่วยงานภาครัฐและท้องถิ่นที่เข้ามาศึกษาดูงานทั่วประเทศ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความสนใจกลับลดลงอย่างเห็นได้ชัด

จากที่เคยมีคนไข้วันละ 5 คน กลายเป็นไม่มีเลยมานานกว่า 3 ปี ธุรกิจก็ซบเซา สังคมยังไม่เชื่อมั่นในกัญชาทางการแพทย์ บางคนกลัวเมา กลัวไม่มีผลรักษาจริง ทั้งที่เราทำตามแนวทางรัฐทุกอย่าง
เจ้าของคลินิก ระบุว่า แม้ปัจจุบันกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกจะอนุมัติให้ใช้ตำรับยาที่มีกัญชาเป็นส่วนประกอบ 16 ตำรับ แต่ความนิยมและการเข้าถึงกลับยังน้อยมาก ขณะที่คลินิกเองต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายกว่า 40,000 บาทต่อเดือน เพียงเพื่อคงสถานะให้สามารถต่อใบอนุญาตกับกระทรวงสาธารณสุขได้
ถึงแม้จะมีน้ำมันกัญชาในต่างประเทศใช้รักษาโรคประสาทและมะเร็ง แต่ของไทยยังใช้แค่ดอกกัญชาปรุงยา ซึ่งขาดความเชื่อมั่น ไม่มีงานวิจัยรองรับ ไม่มีระบบที่เอื้อต่อการนำเข้าสู่ระบบสากลได้เลย
นอกจากความไม่เชื่อมั่นของประชาชนแล้ว เจ้าของคลินิกยังตั้งข้อสังเกตถึงการบริหารของรัฐว่า ยังขาดความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับกัญชาทางการแพทย์ และปล่อยให้แพทย์แผนไทย แพทย์แผนปัจจุบัน รวมถึงเภสัชกร แบกรับภาระออกใบรับรองการใช้กัญชา ขณะที่ระบบสนับสนุนกลับไม่มีความชัดเจน

ถ้ารัฐบาลจริงใจ อยากให้ใช้กัญชาทางการแพทย์จริง ๆ ก็ต้องทำให้ประชาชนเข้าถึงได้จริง ไม่ใช่แค่ผลักภาระมาให้แพทย์ออกใบรับรอง แล้วสุดท้ายก็ไม่มีคนมาใช้บริการ ก็กลับเข้าสู่วงจรเดิมคือใช้ในเชิงสันทนาการ และก็กลายเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
เจ้าของคลินิกยังคงมีความเชื่อมั่นในคุณค่าของกัญชาทางการแพทย์ และยืนยันว่าจะยังเปิดคลินิกไว้เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่หมดหนทางในการรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน แต่ยอมรับว่าอนาคตยังมืดมน
ต่อให้วันนี้มีกัญชากองอยู่เป็นพันกิโลกรัม มีตำรับยา 50 ขนาน ถ้าไม่มีคนเข้ารักษา ก็ไปต่อไม่ได้ ถ้าเราไม่พัฒนาไปถึงขั้นสกัดน้ำมันเพื่อใช้เป็นยารักษาจริง ๆ ก็ยากที่ประเทศไทยจะเดินหน้าด้านนี้ได้

เจ้าของคลินิกทิ้งท้ายด้วยการตั้งคำถามถึงภาครัฐว่า หากจะส่งเสริมกัญชาทางการแพทย์จริง ๆ ควรต้องเริ่มจากความเข้าใจอย่างแท้จริง และการสนับสนุนในเชิงปฏิบัติให้เห็นผลได้จริง
อ่านข่าว : สิ้นสุดกัญชาเสรี! ประกาศใหม่ คุมช่อดอก ห้ามโฆษณา-ขายทั่วไป
ปธ.นิคมอุตสาหกรรมกัญชาฯ ชี้ ตลาดกัญชาไทยพัง ตั้งแต่ปลดล็อกปี 65