วันนี้ (2 ก.ค.2568) ศาลจังหวัดบุรีรัมย์มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ1349, อ1350/2566 และแดงที่ อ1575, อ1580/2567 ซึ่งนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ (โจทก์ที่ 1) และนายเนวิน ชิดชอบ (โจทก์ที่ 2) ฟ้องนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เป็นจำเลยในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328
- รฟม.ยืนยันประมูล "รถไฟฟ้าสีส้ม" โปร่งใส ท้าชูวิทย์เปิดหลักฐานเงินทอน
- "ศักดิ์สยาม" ไม่กังวล "ชูวิทย์" จ่อบุกกระทรวงฯ ท้าหาหลักฐานให้ครบ
- "ศักดิ์สยาม" โต้ "ชูวิทย์" ไร้ทุจริต-ขู่ละเมิดศาล
คดีนี้เกิดจากการที่จำเลยจัดแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์ต่อสื่อช่วงก่อนการเลือกตั้งปี 2566 กล่าวหาโจทก์ทั้ง 2 ว่า เกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยระบุว่า มีการเปลี่ยน TOR โดยมิชอบ วิ่งเต้นศาลปกครอง และรับเงินทอน 30,000 ล้านบาท พร้อมกล่าวหานายเนวินว่า ฮุบที่ดินการรถไฟฯ เขากระโดงกว่า 5,000 ไร่ และใช้เงินหลวงสร้างสนามกีฬา ทั้งที่ข้อเท็จจริงคือ โครงการดำเนินการโดย รฟม. ตามมติ ครม. และคณะกรรมการตามกฎหมาย โดยรัฐมนตรีไม่มีอำนาจแทรกแซง ส่วนที่ดินเขากระโดงเป็นที่พิพาทที่ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบสิทธิ์ของราษฎรทั่วไป
ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า คำกล่าวหาของจำเลยไม่มีพยานหลักฐานสนับสนุน เป็นการใส่ความโจทก์ต่อสื่อมวลชน ใช้ถ้อยคำเหยียดหยาม เสียดสี และก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อชื่อเสียงของโจทก์ทั้ง 2 คน
จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นพิจารณา ศาลจึงพิพากษาลงโทษจำคุกกระทงละ 6 เดือน รวม 12 เดือน ลดโทษเหลือ 6 เดือน และเห็นว่าจำเลยอายุมาก มีโรคประจำตัว จึงเปลี่ยนโทษจำคุกเป็นปรับ 200,000 บาท พร้อมสั่งให้ลงโฆษณาขอขมาโจทก์ในสื่อสิ่งพิมพ์ 7 วันติดต่อกัน และจำเลยให้คำมั่นต่อศาลว่าจะไม่กล่าวหาหรือใส่ความโจทก์ และครอบครัวอีก
อ่านข่าว : “อนุทิน” ยันคดีเขากระโดง ถูกตรวจสอบตาม กม.ตั้งแต่นั่ง มท.1
"ชูวิทย์" บุกคมนาคม อ้างรถไฟฟ้าสายสีส้มล็อกสเปก
ครั้งสุดท้าย "ชูวิทย์" เปิดข้อมูล บ.แสนสิริ ใช้นอมินีซื้อที่ดินโยง "เศรษฐา"