วันนี้ (3 ก.ค.2568) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน แถลงภายหลังการหารือร่วมกับหัวหน้าพรรคการเมืองฝ่ายค้านเกี่ยวกับทิศทางการทำงานร่วมกัน โดยระบุว่า วาระการประชุมร่วมในวันนี้จะใช้กลไกของฝ่ายค้านและกลไกสภาฯ ในการหาทางออกให้กับประเทศ โดยได้ข้อสรุป 4 ประเด็นสำคัญ ดังนี้
1.เดินหน้าใช้กลไกในสภาฯ ทุกอย่างเพื่อกดดันให้รัฐบาลถอนร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องให้ความเชื่อมั่นกับสาธารณะว่าจะไม่เสนอร่างนี้กลับเข้ามาอีก
2.เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคฝ่ายค้านจะใช้กลไกในสภาฯ ในสมัยประชุมปัจจุบันเสนอให้จัดทำประชามติ พร้อมกับการเลือกตั้งใหม่
3.เดินหน้าการพิจารณากฎหมายนิรโทษกรรม แม้ว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านยังมีความเห็นไม่ตรงกันในรายละเอียด แต่จะตั้งคณะทำงานศึกษาเรื่องนี้
4.การยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นตรงกันว่าขณะนี้ยังมีความไม่แน่นอน จึงต้องประเมินสถานการณ์ทางการเมืองและรอความชัดเจนจากศาลรัฐธรรมนูญที่จะพิจารณากรณีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก่อนตัดสินใจยื่นญัตติ 151
อย่างไรก็ตาม คณะทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้านจะหารือในรายละเอียด ทั้งเรื่องการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ การเสนอพิจารณากฎหมายนิรโทษกรรม รวมถึงการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151

"อนุทิน" ยืนยันไม่มีการเสนอตัวเป็นนายกฯ ชั่วคราว
ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ชี้แจงกรณีมีกระแสข่าวเสนอชื่อเป็นนายกฯ ชั่วคราว ยืนยันว่าไม่มีการเสนอตัว แต่ที่มีการพูดว่าเสนอตนให้เป็นนายกฯ นั้นคลาดเคลื่อนอย่างมาก เพราะไม่ได้มีการพูดถึงเช่นนั้น
สถานการณ์เช่นนี้ใครก็ตามที่เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ควรเข้ามาด้วยระยะเวลาที่เป็นการเฉพาะกิจเฉพาะกาล แก้ไขปัญหาปัจจุบันแล้วรีบยุบสภา เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่
ด้านนายณัฐพงษ์ กล่าวเสริมว่า สิ่งที่พรรคประชาชนเสนอเมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา ไม่ได้เสนอว่าพรรคฯ จะร่วมหรือไม่ร่วมโหวตให้ใคร ทุกอย่างเป็นข้อเสนอที่เชื่อว่าเป็นทางออกของประเทศ หากวันหนึ่งสถานการณ์ของประเทศไปถึงจุดนั้นจริง ซึ่งขณะนี้ฝ่ายค้านเห็นไปในทางเดียวกันคือหาทางออกไม่ให้ประเทศถึงทางตัน
หัวหน้าพรรคประชาชน ยังตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีหากพรรคเพื่อไทยเสนอแคนดิเดตคนที่ 3 ของพรรคประชาชน จะโหวตให้หรือไม่ ว่า พรรคประชาชนไม่ได้ยึดติดตัวบุคคล ไม่ว่าจะเป็นนายชัยเกษม นิติสิริ หรือนายอนุทิน หรือใครก็ตาม แต่ดูจุดร่วมกันของแต่ละพรรคฝ่ายค้าน เพราะแต่ละพรรคมีจุดยืนของตัวเอง ส่วนพรรคประชาชนยืนยันในหลักการว่าการจะโหวตให้ใครก็ตาม ไม่ได้ยึดติดกับตัวบุคคลหรือพรรค ขอเพียงสร้างทางออกให้ประเทศได้
ขณะที่นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า มติทุกอย่างเป็นไปตามที่ผู้นำฝ่ายค้านแถลงและจะทำงานร่วมกัน ส่วนเรื่องไหนที่ยังไม่ได้ข้อสรุป จะตั้งคณะทำงานร่วมพูดคุยเพื่อหาทางออก

ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ฝ่ายค้ายมีความเข้มแข็งมากขึ้นหลังพรรคภูมิใจไทยเข้ามาทำงานร่วมกัน โดยยืนยันว่าจะทำหน้าที่ตรวจสอบ ถ่วงดุล โดยเฉพาะขณะนี้ที่ประเทศชาติอยู่ในภาวะวิกฤตศรัทธาที่เกิดจากการกระทำของนายกฯ และรัฐบาลเอง ประชาชนยังอยู่ในสภาพอดอยากปากแห้ง มีปัญหาเศรษฐกิจปากท้องและการเมืองสุจริตที่หาแทบไม่ได้
การทำงานของฝ่ายค้านจากนี้จะมีความเข้มแข็งขึ้น ไม่ใช่เข้มแข็งจากมือที่เพิ่มขึ้น แต่เข้มแข็งเพื่อคลี่คลายวิกฤตที่เกิดกับประเทศ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจและความมั่นคง แม้ฝ่ายค้านไม่มีอำนาจแก้ไข แต่จะเป็นปากเสียงให้คนไทยทั้งประเทศ
พร้อมย้ำว่า ฝ่ายค้านจะมีส่วนสนับสนุนในการหาหนทาง โดยไม่เอาความได้เปรียบทางการเมืองขณะนี้มาเป็นหลัก ตอนนี้ประชาชนหมดหวัง ก็ต้องช่วยให้ประชาชนเห็นว่ายังมีพรรคการเมืองฝ่ายค้านทำหน้าที่แก้ปัญหาให้ประชาชนได้
ส่วนนายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม กล่าวสั้น ๆ ปิดท้ายว่า ทางออกของประเทศในขณะนี้คือการยุบสภา แต่กว่าจะไปถึงจุดงนั้นต้องแสวงหาทางออกกับพรรคร่วมฝ่ายค้านก่อน
อ่านข่าว
5 พรรคฝ่ายค้านผนึกกำลัง! ภท.เสริมแกร่งถกโหวตนายกฯ-กาสิโน
"สุริยะ" นำ รมต.ชุดใหม่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ ก่อนประชุม ครม.นัดพิเศษ
นักวิชาการชี้ “แพทองธาร” ต้องยุติหน้าที่ทั้งหมด แม้แต่ รมว.วัฒนธรรม