ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"นพดล" แนะเจรจาทุกมิติไทย-สหรัฐฯ โน้มน้าวลดภาษีนำเข้า

เศรษฐกิจ
17:19
74
"นพดล" แนะเจรจาทุกมิติไทย-สหรัฐฯ โน้มน้าวลดภาษีนำเข้า
"นพดล" มองโอกาสไทยเจรจาลดภาษีนำเข้าสหรัฐฯ รอบใหม่ แนะยกทุกมิติขึ้นเจรจา รวมถึงความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ที่มียาวนาน ชี้ต้องโน้มน้าวให้สหรัฐฯ เห็นแต้มต่อของไทย

กรณีผู้นำสหรัฐฯ ประกาศภาษีนำเข้าสินค้าอัตราใหม่ 14 ประเทศแรก เริ่มมีผลวันที่ 1 ส.ค.นี้ โดยมีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย ดังนั้นข้อเสนอใหม่เพื่อลดอัตราภาษีของทีมไทยแลนด์จะทันก่อนมีผลบังคับใช้หรือไม่ และไทยยังมีโอกาสอีกหรือไม่

วันนี้ (9 ก.ค.2568) นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า จดหมายที่ผู้นำสหรัฐฯ ส่งให้ประเทศไทยระบุอัตราภาษีที่ 36% และมีเวลาเจรจาจนถึงวันที่ 1 ส.ค.นี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าผู้นำสหรัฐฯ เซ็นจดหมายอัตราภาษีใหม่ก่อนที่ไทยจะยื่นข้อเสนอใหม่ไป ซึ่งเชื่อว่าหากสหรัฐฯ ได้รับทราบข้อเสนอใหม่ของไทยก็จะลดภาษีลง ส่วนจะลดลงแค่ไหนคาดหวังว่าคงไม่แตกต่างจากเวียดนามมากนัก หากสูงกว่าเวียดนามจะกระทบกับความสามารถในการแข่งขัน เพราะสินค้าของไทยกับเวียดนามที่ส่งไปสหรัฐฯ มีความคล้ายกัน

สหรัฐฯ กับไทยมีความสัมพันธ์กันมายาวนาน ไม่ใช่แค่หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ แต่เป็นมหามิตรและเป็นพันธมิตรเก่าแก่ที่สุดในภูมิภาค ร่วมรบในหลายสงครามและมีการฝึกคอบร้าโกลด์ทุกปี เพราะฉะนั้นมิติที่จะให้ไทยเป็นสะพานเชื่อมระหว่างสหรัฐฯ กับอาเซียน จึงเห็นว่าต้องมีบุคลกรด้านต่างประเทศร่วมทีมเจรจาและโน้มน้าวสหรัฐฯ ให้เห็นมิติทางด้านการเมืองและความสัมพันธ์พิเศษ นอกเหนือจากมิติด้านเศรษฐกิจ

ตามหลักควรต้องเป็น รมว.ต่างประเทศ ร่วมทีมเจรจาด้วย เพราะมีมิติด้านภูมิรัฐศาสตร์ หรือการเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศมีความเข้าใจและรู้ดีที่สุด แต่อย่างไรก็ตามประเด็นอยู่ที่เนื้อหาสาระที่จะหยิบยกมาพูดและโน้มน้าวในการเจรจา มากกว่าตัวบุคคล

จดหมายที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งถึงประเทศไทย แจ้งภาษีนำเข้าสินค้าอัตราใหม่ 36%

จดหมายที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งถึงประเทศไทย แจ้งภาษีนำเข้าสินค้าอัตราใหม่ 36%

จดหมายที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งถึงประเทศไทย แจ้งภาษีนำเข้าสินค้าอัตราใหม่ 36%

ส่วนกรณี "ญี่ปุ่น" ที่ถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งที่เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสหรัฐฯ มีการลงทุน สร้างงานและสร้างรายได้ให้กับสหรัฐฯ ค่อนข้างมาก จะกลายเป็นความท้าทายสำหรับทีมไทยแลนด์ในการเจรจากับสหรัฐฯ หรือไม่นั้น นายนพดล กล่าวว่า การเจรจาต้องรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน รวมถึงผู้มีส่วนได้เสียในประเทศไทย เพื่อนำมาสรุปประเด็นข้อเสนอของไทย 

อีกทั้งต้องชี้แจงให้ประชาชนทราบขั้นตอนและเนื้อหาสาระที่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากผลสรุปของอัตราภาษีส่งผลกระทบกับทุกคน เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องใหญ่ที่ทีมไทยแลนด์จะต้องรับฟังความเห็นให้ครบถ้วนและสื่อสารข้อมูลให้ประชาชนได้ทราบ

หากเราทำดีที่สุดแล้ว เอาทุกอย่างที่คิดว่ามีแต้มต่อ อำนาจต่อรอง หรือข้อที่จะทำให้โน้มน้าวสหรัฐฯ ให้เห็นใจและมีท่าทีตอบสนองข้อเสนอของไทย เราก็ต้องทำ ถ้าทำไม่ได้แล้วก็สามารถพูดได้ว่าเราทำดีที่สุดแล้ว แต่ถ้ายังไม่ได้ทำดีที่สุดและผลออกมาไม่ดี เราจะเสียดายและจะกระทบต่อประเทศไทย

ดังนั้นต้องยกขึ้นมาให้ครบถ้วนทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง ความมั่นคง การศึกษา ความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรม รวมถึงการแลกเปลี่ยนข่าวกรองระหว่างกัน โดยต้องโน้มน้าวให้สหรัฐฯ เห็นบทบาท ท่าทีและมิตรภาพที่ยิ่งใหญ่ของไทยกับสหรัฐฯ

นายนพดล กล่าวอีกว่า การกำหนดอัตราภาษีที่สูงเกินไป มีความแตกต่างกันระหว่างประเทศในอาเซียน แล้วแข่งขันกัน จะเกิดสภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคมในภูมิภาคนี้ ซึ่งไม่เป็นผลดี

เมื่อถามว่า ด้านหนึ่งเหมือนไทยจะถูกปัดเข้าไปรวมอยู่ในกลุ่มอาเซียนบางกลุ่มที่มีการเรียกเก็บภาษีค่อนข้างสูง 30-40% ซึ่งไทยจะต้องแสดงให้สหรัฐฯ เห็นหรือไม่ว่าไทยไม่ได้เป็นกลุ่มเดียวกับที่ถูกจัดไปอยู่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ไทยมีความเป็นตัวของตัวเองหรือมีความแข็งแกร่งในลักษณะใดเพิ่มเติม

นายนพดล ระบุว่า ทีมที่ไปเจรจาต้องมีความสามารถโน้มน้าวทุกเรื่องที่คิดว่าเป็นแต้มต่อของไทยให้สหรัฐฯ เห็น โดยต้องให้กำลังใจนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง และทีมเจรจา และหวังว่าการเจรจาจะสำเร็จ

สำหรับสิ่งที่จะนำเสนอต่อสหรัฐฯ หรือชี้ให้เห็นข้อแตกต่างของไทย นายนพดล มองว่า มิติด้านเศรษฐกิจ มีบางคนเสนอให้ใช้โมเดลของเวียดนามที่เสนออัตราภาษีนำเข้า 0% จากสหรัฐฯ แลกกับอัตราภาษีที่จะส่งสินค้าเข้าสู่สหรัฐฯ ในอัตราที่ต่ำลง ซึ่งรัฐบาลและทีมเจรจาต้องพิจารณาผลกระทบต่อเกษตรกรด้วย

ส่วนมิติด้านอื่นต้องชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ รวมถึงชี้ให้เห็นว่าการกำหนดอัตราภาษีสูงจะมีผลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและเสถียรภาพทางการเมืองในภูมิภาค นอกจากนี้ต้องชี้ให้เห็นว่าไทยจะทำงานร่วมกับสหรัฐฯ เพื่อสร้างเสถียรภาพในภูมิภาคอาเซียนและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างไร รวมถึงความร่วมมือด้านอื่นๆ ในอนาคต

อ่านข่าว

"อาเซียน" รับศึกภาษีทรัมป์ จับตาหาวิธีแก้เกม-เจรจาสหรัฐ

ภาษีทรัมป์ 36% อดีตทูตฯ พิศาล ชี้ทีมไทยแลนด์ต้องปรับกลยุทธ์เจรจา

นักวิชาการ มธ.ชี้ภาษี 25-28% ยังสู้ได้ ไทยไม่ต้องลดให้สหรัฐฯ 0% ตามเวียดนาม