วันนี้ (17 ก.ค.2568) น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและสร้างเสริมสังคมสันติสุข ได้ให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการนิรโทษกรรมในคดีมาตรา 112 ว่ายังพอมีช่องทางทางเทคนิคให้พิจารณาได้ แม้จะยาก และขึ้นอยู่กับรายละเอียดของร่างกฎหมายหลัก
ด้วยร่างของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เป็นร่างหลัก ก็ยังพอมีทางเป็นไปได้แม้จะยาก แต่ถ้าเป็นร่างของภูมิใจไทยอาจจะปิดประตูแน่นกว่าเดิม
ขณะที่ในชั้นกรรมาธิการ ยังสามารถพูดคุยกันได้ในระดับรายมาตรา โดยไม่กระทบต่อหลักการ และสามารถช่วยเหลือผู้ต้องหาในคดี มาตรา 112 ได้
แม้พรรครวมไทยสร้างชาติจะมีจุดยืนไม่รวม มาตรา 112 อย่างชัดเจน แต่ในทางเทคนิคการแก้กฎหมายปกติเราจะให้ความสำคัญกับหลักการเป็นหลัก หากหลักการไม่ระบุชัดว่าไม่รวม มาตรา 112 ก็ยังพอจะแก้ในรายมาตราได้ หรือขยับคนละครึ่งว่าถ้าไม่ได้ทั้งหมดก็อาจได้บางส่วนหรือมีเงื่อนไข คิดว่ายังคุยในชั้นกรรมาธิการได้
น.ส.ศศินันท์ ยอมรับว่ามีโอกาสที่จะทำไม่ได้เหมือนกันด้วยกรรมาธิการฝั่งเราในคณะนี้มีน้อยกว่า อาจต้องรวมเสียงคนอื่นด้วย อีกประเด็นสำคัญคือบัญชีแนบท้ายยังพอแก้ไขเพิ่มเติมได้สำหรับมาตราที่ไม่ได้ระบุอยู่ ทุกอย่างจะย้อนไปที่หลักการว่าเปิดไว้ให้ขนาดไหน
หากมองแบบมุมการเมืองก็พอเดาได้ว่าจะมีคนค้าน แต่หากเราคุยกันบนฐานว่าต้องการเสริมสร้างสังคมสันติสุขจริงๆ ขยับกันได้แค่ไหน
ทั้งนี้ถ้าปลายทางกฎหมายไม่สามารถแก้ไขหรือยุติความขัดแย้งได้จริง หรือแค่นิรโทษกรรมให้คนบางกลุ่มโดยไม่เท่าเทียม คงไม่ผ่านการเห็นชอบได้ และการขับเคลื่อนเรื่องนี้อาจต้องรอจังหวะใหม่ในอนาคต เช่นการเลือกตั้งครั้งหน้าเพื่อเพิ่มจำนวน ส.ส. ที่ยืนหยัดกับหลักการ
การขยับในระยะยาวต้องใช้เวลา เท่าที่คุยกับภาคประชาชน รู้ว่ามันยากแต่มันเป็นความหวังเล็ก ๆ ว่าเราจะผลักดันได้
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นเรื่องเกมการเมือง ถือว่าพรรคประชาชนโดนลอยแพ เนื่องจากพรรคภูมิใจไทยก็ไม่งดออกเสียงให้นั้น น.ส.ศศินันท์ ระบุว่าเป็นประเด็นกฎหมายที่ละเอียดอ่อน อาจจะเป็นหลักการของพรรคเขาเลย ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยและรวมไทยสร้างชาติหรือพรรคที่ชัดเจนอยู่แล้ว ส่วนพรรคประชาชนเองก็ชัดเจนตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง
สิ่งที่น่าผิดหวังคือพรรคเพื่อไทยมากกว่าเพราะคิดว่าน่าจะเข้าใจเรื่องนี้ได้ดีที่สุดจากประวัติศาสตร์การต่อสู้ของพรรค น่าจะงดออกเสียงให้ได้มากที่สุดด้วยซ้ำ รวมถึงเมื่อวานไม่มีกฎหมายของทางพรรคเพื่อไทยเลยแม้แต่ฉบับเดียว มันควรน่าจะออกมาในทางที่ดีหากเขารับทุกฉบับหรืองดออกเสียงทุกฉบับ
ถ้าส่วนตัวยอมรับว่าตกใจ แต่คนรอบข้างจะมองว่าพยายามไปก็ไร้ประโยชน์เพราะพรรคเพื่อไทยไม่ได้เหมือนในอดีตแล้ว แต่ส่วนตัวยังมีความเชื่อว่าในการงดออกเสียงอาจไม่กระทบในสิ่งที่เขากังวลมากนัก
บางคนบอกว่ารับไม่ได้ที่รวมมาตรา 112 ไปด้วย แต่ร่างของพรรคประชาชนไม่มีการเขียนชัดขนาดนั้นด้วยซ้ำ ดังนั้นการงดออกเสียงจึงเป็นทางที่เขาน่าจะทำได้
แต่พอออกมาแบบนี้เราก็เข้าใจว่าเป็นการเมืองจริง ๆ เขามองทิศทางการเมืองมากกว่าอุดมการณ์ความเชื่อที่เคยยึดถือร่วมกันมา
อ่านข่าว :
เปิด 32 รายชื่อ กมธ.วิสามัญ ร่าง กม.นิรโทษกรรม
สภาโหวตรับ 3 ร่างนิรโทษกรรม "รทสช.-กธ.-ภท." ตีตกฉบับ ปชน.-ภาคประชาชน