ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ภูมิธรรม" ขีดเส้น 3 เดือนกำจัดยาเสพติด ขู่เด้ง ผบ.ตร.-ปลัด มท. หากวางเฉย

การเมือง
17:36
219
"ภูมิธรรม" ขีดเส้น 3 เดือนกำจัดยาเสพติด ขู่เด้ง ผบ.ตร.-ปลัด มท. หากวางเฉย
"ภูมิธรรม" เปิดปฏิบัติการ "No Drugs No Dealers" ขีดเส้น 3 เดือนกวาดล้างยาเสพติดทั่วไทย เล็งสั่งเด้ง ดำเนินคดีตั้งแต่ ผบ.ตร.-ปลัดมท.-ผู้ว่าฯ-ผู้การจังหวัดที่วางเฉยหรือเอี่ยวขบวนการ ผนึกกำนัน-ผญบ.-ชรบ. สร้างตาสับปะรดปกป้องชุมชน

วันนี้ (17 ก.ค.2568) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด "No Drugs No Dealers" เพื่อผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพติด โดยมี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม, พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส., และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อแสดงพลังความมุ่งมั่นในการกำจัดยาเสพติดให้หมดจากแผ่นดินไทย 

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดเป็นภัยร้ายที่บ่อนทำลายสังคมไทยมาอย่างยาวนาน แม้ประเทศไทยไม่ได้เป็นแหล่งผลิตยาเสพติด แต่ได้รับผลกระทบจากการลักลอบนำเข้าผ่านชายแดนภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะจากประเทศเพื่อนบ้าน ยาเหล่านี้แพร่ระบาดในหมู่บ้านและชุมชน หรือถูกส่งต่อไปยังประเทศที่สาม สร้างความเสียหายต่อความสงบสุข ความปลอดภัย และโอกาสของเยาวชนรุ่นใหม่

รัฐบาลจึงกำหนดให้การแก้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ด้วยแผนปฏิบัติการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ปีงบประมาณ 2568 ซึ่งจะมีการกำกับ ติดตาม และประเมินผลอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง โดยปฏิบัติการ Seal Stop Safe ใน 14 จังหวัด 51 อำเภอชายแดนตั้งแต่ 1 ก.พ.2568 ได้แสดงผลสำเร็จที่น่าพอใจ รวมถึงโมเดลต้นแบบอย่างธวัชบุรีและท่าวังผา ซึ่งขยายผลไปยัง 10 จังหวัดนำร่องและทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงกรุงเทพมหานคร 

นายภูมิธรรม เน้นย้ำว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2568 ได้มอบนโยบายแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดและข้าราชการสังกัดกระทรวงมหาดไทยให้แก้ปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง โดยใช้กลไกจังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน ผ่านความร่วมมือของผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ขับเคลื่อนการป้องกัน ปราบปราม และฟื้นฟูผู้ป่วยในทุกมิติ

ขีดเส้น 3 เดือนให้ทุกหมู่บ้านที่มีปัญหายาเสพติดเริ่มแก้ไขและประกาศเป็นชุมชนปลอดยาเสพติด โดยไม่มีทั้งผู้ค้าและผู้เสพ ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องทำหน้าที่ CEO บริหารจัดการปัญหาด้วยข้อมูลสถานการณ์จริง วิเคราะห์บริบทพื้นที่ และทบทวนเป้าหมายทุกระยะเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะในพื้นที่สถานบันเทิงที่ต้องตรวจตราเข้มข้น หากพบผู้เสพต้องนำเข้าสู่การบำบัดรักษาและฟื้นฟูอย่างเหมาะสม 

นายภูมิธรรม ระบุว่า กลไกสำคัญคือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) 6-7 แสนคนทั่วประเทศ ซึ่งเปรียบเสมือน "ตาสับปะรด" คอยเฝ้าระวัง ตรวจตรา และสกัดกั้นยาเสพติดในชุมชน โดยทำงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการบำบัดและฟื้นฟูผู้ป่วยให้กลับคืนสู่สังคมโดยไม่หวนกลับไปเสพยา พร้อมยังเรียกร้องให้กำหนดกติกาหรือธรรมนูญหมู่บ้านเพื่อป้องกันยาเสพติด และขยายผลสู่การจับกุมผู้ค้ารายใหญ่และทำลายเครือข่ายทั้งระบบ

อย่างไรก็ตาม รักษาการนายกฯ เตือนว่าเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วน ตั้งแต่ตำรวจ ปกครอง ไปจนถึงกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน มีส่วนเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนขบวนการยาเสพติด ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญ รัฐบาลมีข้อมูลการข่าวและรายชื่อผู้เกี่ยวข้อง โดยใช้ทั้ง "ถุงมือกำมะหยี่" สำหรับผู้ที่ทำงานดี และ "กำปั้นเหล็ก" สำหรับผู้ที่ละเลยหรือกระทำผิด 

หากพบการวางเฉยหรือมีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจ นายอำเภอ ปลัดกระทรวงมหาดไทย หรือแม้แต่ ผบ.ตร. จะถูกย้ายออกจากพื้นที่และดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

นายภูมิธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า การเดินทางไปยังหมู่บ้านต่าง ๆ ทำให้เห็นความทุกข์ของประชาชนจากปัญหายาเสพติด โดยเฉพาะเมื่อลูกหลานติดยาและก่ออาชญากรรม เช่น พ่อฆ่าลูก หรือลูกทำร้ายแม่เพื่อหาเงินซื้อยา ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นในสังคมไทยมาก่อน ประชาชนทราบดีว่าใครในชุมชนเป็นผู้ค้าหรือสนับสนุน แต่พวกเขากังวลว่ารัฐบาลจะเอาจริงหรือไม่

หากรัฐบาลจริงจัง ประชาชนพร้อมร่วมมือ เขาจึงขอให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชรบ. รวมพลังชุมชนเป็นตาสับปะรด สร้างเครือข่ายเฝ้าระวังและสกัดกั้นยาเสพติดในทุกพื้นที่ โดยปรับใช้โมเดลจังหวัดสีขาว เช่น ธวัชบุรีโมเดล ให้เหมาะสมกับบริบทแต่ละจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนที่ต้องเข้มงวดเป็นพิเศษ รัฐบาลมุ่งผลักดันให้ทุกจังหวัด อำเภอ และหมู่บ้านเป็นพื้นที่ปลอดยาเสพติด ผ่านความร่วมมือจากทุกภาคส่วนและการสนับสนุนจากปฏิญญายับยั้งยาเสพติดของผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจ เพื่อสร้างผลสำเร็จที่ยั่งยืนให้กับประชาชน

อ่านข่าวอื่น :

เจ้าคณะภาค 14 ตั้ง คกก.สอบ "พระมหาทิวากร" โยงสีกากอล์ฟ

สภาฯวุ่น! "ปชน." ขอนับองค์ประชุม "พิเชษฐ์" ตัดบทปิดประชุมทันควัน