ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“นายแบงก์” โจษจัน ครม.“เลื่อน” เคาะ “ผู้ว่าการ ธปท.”

เศรษฐกิจ
18:57
959
“นายแบงก์” โจษจัน ครม.“เลื่อน” เคาะ “ผู้ว่าการ ธปท.”
การประชุม ครม. เพื่อพิจารณา ชื่อ “ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่” ถูกเลื่อนออกไปอีกครั้ง โดยอ้างว่า “เอกสารไม่ครบ” กำลังเป็นเรื่องโจษจันในแวดวงการเงิน เพราะ “มองเป็นความผิดปกติ”

ในงานมอบรางวัลเกียรติยศ MONEY & BANKING AWARDS 2025 เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา

นับเป็นงานประจำปี ที่เหล่าบรรดา “ซีอีโอ” สถาบันการเงิน และผู้ให้บริการทางการเงิน จะเดินทางเข้ารับรางวัลด้านต่าง ๆ กับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย

หากทุกอย่างเป็นไปตามกำหนดการเดิม สื่อมวลชน ทุกแขนง จะได้จับภาพ “เสมือน” การส่งมอบตำแหน่ง ระหว่าง นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กับ นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ในฐานะผู้ที่คาดว่าจะได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ว่าการแบงก์ชาติคนใหม่

โดยในปีนี้ ธนาคารออมสิน ได้รับรางวัลใหญ่ 4 ประเภท ได้แก่ รางวัล Best Retail Bank of the Year 2025 รางวัลธนาคารยอดเยี่ยมด้านสินเชื่อบุคคล รางวัลธนาคารยอดเยี่ยมด้านเงินฝาก และรางวัลธนาคารที่มีความโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)

รายงานจากบริษัทผู้จัดการงาน ระบุว่า นายวิทัย ยืนยันจะเข้าร่วมงาน จนกระทั่งก่อนเริ่มงานประมาณ 3 ชั่วโมง ก็ได้รับแจ้งว่า ส่งมอบหมายให้ น.ส.วชิรา การสุทธิ์ รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มยุทธศาสตร์และสื่อสารเพื่อความยั่งยืน น.ส.ศิริพร เลิศสัตยสุกใส รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มลูกค้าบุคคล และนางสมจิตร์ ทองจุ้น ผู้ช่วยผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สายงานกิจการสาขา 1 เป็นผู้แทนรับรางวัล

เรื่องนี้กลายเป็นหัวข้อสนทนา ของเหล่าบรรดาผู้บริหารสถาบันการเงิน โดยเฉพาะปัญหาการเลื่อนพิจารณาชื่อผู้ว่าการแบงก์ชาติคนใหม่ เนื่องจาก เป็นตำแหน่งสำคัญ การเลื่อนประกาศชื่อให้ชัดเจน อาจกระทบความเชื่อมั่น

เพราะแค่ปรากฏเพียงชื่อบนหน้าสื่อ ก็สร้างปรากฎการณ์ ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ผู้ให้บริการทางการเงิน ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับตัวลดลง จากความกังวลในการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย

บริษัท หลักทรัพย์ พาย ระบุว่า ตลาดยังคาดว่า “วิทัย รัตนากร” จะได้เป็นผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ (แม้ว่าตอนนี้ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป) ซึ่งถ้าเป็นจริง นักลงทุนเชื่อว่านโยบายการเงินจะผ่อนคลายมากขึ้น อาจลดดอกเบี้ยถึง 2 ครั้งในปีนี้ พอดอกเบี้ยลด รายได้แบงก์ก็ลด หุ้นเลยโดนขายออก แต่กลุ่มที่ได้อานิสงส์กลับเป็นสายอสังหาฯ สินเชื่อ และหุ้นที่หนี้เยอะ ๆ อย่าง CPALL, CPF, TU, MTC, SAWAD, TIDLOR เพราะต้นทุนการเงินจะลดตาม

นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธ์ ประธานคณะกรรมการคัดเลือกผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวกับไทยพีบีเอสว่า ตนไม่ได้มีข้อสังเกตอะไรพิเศษ จากกรณีคณะรัฐมนตรี เลื่อนการพิจารณาชื่อผู้เหมาะสมได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ว่าการแบงก์ชาติคนใหม่ ซึ่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี มีอำนาจและหน้าที่ในการดำเนินการได้

พร้อมกับเทียบเคียงกรณีการคัดเลือกประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ บอร์ดแบงก์ชาติ ซึ่งคณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้เสนอชื่อ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติคนใหม่ และนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้ลงนามและนำชื่อเข้า ครม.

แต่เลขาฯ ครม.กลับส่งเรื่องให้ กฤษฎีกา ตรวจสอบคุณสมบัติซ้ำ ทั้งที่คณะกรรมการคัดเลือกฯ ได้ตรวจสอบคัดกรองคุณสมบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วนแล้วก็ตาม

จึงเห็นว่า กรณีการเสนอชื่อนายวิทัย รัตนากร อาจมีความจำเป็นต้องที่ต้องตรวจสอบคุณสมบัติเพิ่มเติม

ขณะที่รายงานจากทำเนียบรัฐบาล ตั้งข้อสังเกตถึงปัญหาการพิจารณาชื่อผู้ว่าการแบงก์ชาติคนใหม่ ถูกเลื่อนออกไป จากกำหนดการที่ควรจะเป็น ถึง 3 ครั้ง

ทั้งที่ คณะกรรมการคัดเลือกฯ ประชุมและสรุปผลรายชื่อ ผู้เหมาะสมเป็นผู้ว่าการแบงก์ชาติคนใหม่ ตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย.2568 ซึ่งนายพิชัย สามารถลงนามและมอบหมายให้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้เสนอในที่ประชุม ครม.ได้ แต่กลับไม่ดำเนินการ

และเมื่อนายพิชัย เดินทางกลับจากเจรจาสหรัฐฯ ในสัปดาห์ถัดมา ก็ไม่ได้เสนอวาระดังกล่าว โดยอ้างว่า อยู่ระหว่างมอบหมายให้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ตรวจสอบคุณสมบัติผู้ได้รับการเสนอชื่อ

กระทั่ง ในการประชุม ครม.วันที่ 15 ก.ค.2568 ซึ่งนายพิชัย กล่าวอย่างชัดเจนว่า ได้ลงนามไปแล้ว และพร้อมเสนอ ครม. แต่กลับถูกเลื่อนออกไป โดยอ้างว่า เอกสารคุณสมบัติไม่ครบถ้วนนั้น ล้วนมีความผิดปกติ เนื่องจาก นายพิชัยในฐานะรองนายกฯ และรมว.คลัง มีอำนาจเต็ม สามารถเร่งรัดการทำงาน รวมทั้งเรียกเอกสารต่าง ๆ ได้

ซึ่งโดยปกติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถดำเนินการรวบรวมได้ทันก่อนการประชุม ครม.ได้อยู่แล้ว และแม้ตำแหน่งผู้ว่าการแบงก์ชาติ เป็นตำแหน่งสำคัญ แต่สามารถเสนอเรื่องขึ้นมา “เป็นวาระจรได้” โดยไม่มีข้อบ่งชี้ทางกฎหมายใด ๆ

ส่วนข้อสังเกตของนายสถิต ซึ่งเทียบเคียงการตรวจสอบคุณสมบัติซ้ำของนายกิตติรัตน์นั้น แหล่งข่าว ระบุว่า กรณีของนายกิตติรัตน์ เป็นเรื่องการตีความข้อกฎหมาย เกี่ยวกับคุณสมบัติ ซึ่งแตกต่างจาก กรณีนายวิทัย ที่ไม่มีประเด็นคุณสมบัติให้ตีความ อีกทั้งการคัดกรองคุณสมบัติผู้สมัครคัดเลือกเป็นผู้ว่าการแบงก์ชาตินั้น เสร็จสิ้นไปตั้งแต่ก่อนเริ่มกระบวนการแสดงวิสัยทัศน์ (25 มิ.ย.2568)

โดยผู้สมัคร จะถูกตรวจสอบคุณสมบัติอย่างเข้มข้น ซึ่งไม่ใช่แค่การตรวจสอบตามคุณสมบัติทั่วไป ตามที่คณะกรรมการคัดเลือกฯ กำหนด แต่ยังครอบคลุมถึงการตรวจสอบประวัติ อาชญากรรม คดีข้อร้องเรียนในป.ป.ช. ด้วย

จึงต้องจับตามองว่า ท้ายที่สุดแล้ว ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่ จะเป็นใคร และชื่อที่ออกมา อาจเป็น “ตัวหลอก” หรือไม่ ก็มีเพียงนายพิชัยเท่านั้นที่บอกได้

รายงาน : พรรณทิภา ภัทรวรเมธ ผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ไทยพีบีเอส

อ่านข่าว : จ่อรื้อใหญ่ พศ. ทำ “อลัชชี” เต็มวงการสงฆ์ ซ้ำสะเทือน “ตลาดพระ”

"บิ๊กต่าย" เผยพระสมณศักดิ์สูงอยู่ต่างจังหวัด ปมสีกาผิดขั้นปาราชิก

ผอ.สำนักพุทธฯ ยอมรับมีปัญหา ยืนยันไม่หมกเม็ดเรื่องร้องเรียน