วันนี้ (25 ก.ค.2568) เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2568 เฟซบุ๊กของ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ภาพพร้อมข้อความ ระบุว่า ก่อนหน้านี้นายทักษิณ ชินวัตร ออกแถลงการณ์ด้วยน้ำเสียงดุจการประกาศสงคราม ว่าจะให้บทเรียนแก่ ฮุน เซน ซึ่งคำพูดของนายทักษิณยิ่งย้ำให้เห็นว่าท่าทีของไทยเป็นการใช้กำลังทหารรุกรานกัมพูชา
ฮุน เซน ยังพาดพิงถึงเหตุการณ์ความรุนแรงที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย โดยระบุว่า นายทักษิณเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เมื่อปี 2547 และตอนนี้นายทักษิณอ้างการแก้แค้นฮุน เซน เพื่อทำสงคราม ซึ่งผลลัพธ์สุดท้ายคือความทุกข์ทรมานของประชาชน

ขณะที่ล่าสุด สมเด็จฮุน เซน โพสต์คลิปวิดีโอที่อ้างว่าเป็นคลิปชาวไทยคุกคามแรงงานชาวกัมพูชาในไทย และเตือนชาวกัมพูชาระมัดระวังตัวท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในเวลานี้
ท่าทีของสมเด็จฮุน เซน มีขึ้นหลังจากวานนี้ พล.ท.หญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ขอให้ประชาชนทุกคนอยู่ในความสงบ อย่าตื่นตระหนก และดำเนินชีวิตตามปกติต่อไป พร้อมทั้งยืนยันถึงความมุ่งมั่นของกระทรวงกลาโหมและกองทัพในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ โดยจะไม่ยอมสูญเสียดินแดนแม้แต่มิลลิเมตรเดียว
วุฒิสภากัมพูชา ประณามไทยรุกรานดินแดน
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก วุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์ประณามการรุกรานดินแดนในอธิปไตยของกัมพูชาของกองทัพไทย โดยระบุว่า การกระทำของไทยถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา และเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติ พร้อมยืนยันว่ากัมพูชามีสิทธิในการป้องกันตนเอง ตามมาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ
นอกจากนี้ยังยืนยันว่า พื้นที่รอบปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และช่องบก อยู่ภายในดินแดนของกัมพูชา ตามแผนที่ซึ่งนานาชาติรับรองแล้ว รวมถึงข้อกำหนดตามกฎหมายระหว่างประเทศ รวมทั้งยังแสดงการสนับสนุนต่อสมเด็จฮุน เซน และฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการปกป้องอธิปไตยและเกียรติภูมิของชาติในยามวิกฤตนี้
แถลงการณ์ดังกล่าว ยังแสดงความเคารพต่อความกล้าหาญและความมีวินัยของกองทัพกัมพูชา ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญอย่างมีเกียรติ ภายใต้การรุกรานอย่างรุนแรงจากภายนอก พร้อมทั้งเรียกร้องต่อประชาคมระหว่างประเทศ รวมถึงสหประชาชาติ อาเซียน และประเทศที่เชิดชูสันติภาพทั่วโลก ให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนและเด็ดขาดต่อการละเมิดอธิปไตยที่ร้ายแรงครั้งนี้
อ่านข่าว : "กองทัพไทย" ยืนยันมีหลักฐาน "ฮุนเซน" อยู่เบื้องหลังโจมตีเป้าหมายพลเรือนของไทย