หาก "รีเพลย์ภาพ" ย้อนกลับไปดูภาษากายช่วงหนึ่งของ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในการแถลงข่าวที่มี “อันวาร์ อิบราฮิม “ นายกฯ มาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน "ตัวกลาง"เจรจาหยุดยิง และ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เมื่อบ่ายวานนี้ ( 28 ก.ค. 2568) ใบหน้ายก แต่มองลงหลุบต่ำ ริมปากเม้ม มือประสาน ศรีษะค้อมลงเล็กน้อย ขณะที่ “ภูมิธรรม” มีใบหน้าเคร่งเครียด สะท้อนให้เห็นว่า ทั้งคู่ อยู่ในอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด
โดยเฉพาะภาษากายของ “ฮุน มาเนต” ที่แสดงออกมาชัดเจน แม้ในช่วงเช้าของวันนี้ ( 29 ก.ค.) เขาจะออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “ Hun Manet “
ระบุว่า มาพูดคุยกันสบายๆ กับพี่น้อง (เนื่องจากสมรภูมิบรรเทาลง หลังจากหยุดยิงตั้งแต่เวลา 12.00 น. เมื่อคืนนี้ ด้วยจิตวิญญาณของข้อตกลงระหว่างกัมพูชาและประเทศไทย ในการประชุมพิเศษในมาเลเซียเมื่อวานนี้)
....อารมณ์ทั้งหมดของฉันในช่วงเวลานี้ผูกติดอยู่กับภารกิจสำคัญบางอย่าง เช่น การติดตามสถานการณ์ในแนวหน้าและมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนกองกำลังของเราในการต่อสู้เพื่อปกป้องความสมบูรณ์ของดินแดน การเตรียมนโยบายที่เหมาะสมสำหรับทหารที่บาดเจ็บและเสียชีวิต การแก้ไขปัญหาสวัสดิการของทหารผ่านศึกหลายแสนคน การแก้ไขปัญหาแรงงานข้ามชาติที่เดินทางกลับจากประเทศไทย
เป็นภาษากายและภาษาเขียนของ ฮุน มาเนต กับสถานความตึงเครียดและเหตุการณ์ปะทะของทหารกัมพูชาและไทย ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา ท่ามกลางข้อยุติให้หยุดยิงเที่ยงคืนวันที่ 28 ก.ค.2568 ขณะที่ในช่วงเช้าวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมาทหารกัมพูชา ยังคงใช้ปืนใหญ่กระหน่ำยิงเข้ามาในหลายพื้นที่ของไทย เป็นระยะๆ
หนังสือ “คู่มืออ่านคนฉบับเอฟบีไอ” WHAT EVERY BODY IS SAYING เขียนโดย Joe Navarro เจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับและผู้เชี่ยวชาญการสื่อสารที่ไม่ใช่คำพูดของเอฟบีไอนานกว่า 25 ปี ได้ถอด ”ความลับ” ภาษากายของบุคคลที่ซ่อนอยู่ในสภาวะเคร่งเครียดไว้อย่างน่าสนใจ
ช่วงหนึ่งที่ยืนกัน 3 คน ตามภาพ “ฮุน มาเนต” อยู่ซ้ายมือ ภูมิธรรม ยืนแถลงอยู่ตรงกลางโพเดียม ส่วน “อัลวาร์” ยืนอยู่ขวามือ ตามภาพลักษณะนี้ “Joe Navarro” ระบุว่า อยู่ในอาการที่เรียกว่า “เต่าหดหัว” (ท่ายกไหล่เข้าหาหู) เวลาที่คนรู้สึกต่ำต้อย หรือสูญเสียความมั่นใจอย่างกะทันหัน
และกำลังพยายามเอาชนะสภาพแวดล้อมด้วยการซ่อนตัวในที่แจ้ง และเปิดเผยส่วนศรีษะให้น้อยที่สุด ด้วยการยกไหล่ขึ้นและหดศีรษะลง หรือเป็นวิธีเอาตัวรอดอย่างหนึ่งของเด็กที่ไม่มีทางสู้
ส่วนใบหน้ามีลักษณะกดคาง เข้าหาคอ เพื่อให้จมูกอยู่ต่ำลง แสดงถึงมีความมั่นใจต่ำ หริอวิตกกังวลเกี่ยวกับตัวเอง
อาการเม้มปากแน่น ดูเหมือนว่า สมองลิมบิกกำลังบอกให้เราปิดปากสนิท อย่า ยอมให้อะไรเข้ามาในร่างกาย เพราะนี่คือ ช่วงเวลาที่เรากำลังเผชิญกับปัญหาร้ายแรง การเม้มปากเป็นการบ่งบอกถึงความรู้สึกในแง่ลบ อย่างแท้จริงและเมื่อ ริมฝีปากหายไป ละมุมปากต่ำลงมา แสดงว่าอารมณ์ความมั่นใจอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ความกลัว ความเครียดและความกังวลเพิ่มสูงขึ้น
ขณะที่ยืนกุมมือ โดยนิ้วมือสองข้างเกี่ยวประสานกันในลักษณะบีบมือ เป็นภาษาสากลที่บอกว่ากำลังเครียดหริอเป็นกังวล
อากัปกิริยาดังกล่าว คือ สิ่งที่ ฮุน มาเนต แสดงออกระหว่างการร่วมแถลงข่าวเพื่อหยุดยิง ก่อนจะตามด้วยการโพสต์รูปตัวเองในห้องทำงานพร้อมกับการโพสต์ข้อความข้างต้นในวันรุ่งขึ้น
ขณะที่ “ฮุน เซน” บิดา ฮุน มาเนต ได้ยกเลิกปิดกั้นการมองเห็น และโพสต์ข้อความใหม่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเช่นกัน โดยการแสดงความขอบคุณ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เป็นผู้ผลักดันจนเกิดข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชากับไทย ซึ่งช่วยชีวิตคนมากมาย รวมทั้งขอบคุณผู้นำมาเลเซียที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม และประเทศอื่นๆ ที่สนับสนุนด้วย
ข้อความของฮุน เซน ระบุว่า ความสำเร็จจากความคิดริเริ่มอันน่าทึ่ง โดย โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ช่วยชีวิตประชาชนหลายหมื่นคนจากสงครามระหว่างกัมพูชากับไทย
“ก่อนอื่น ข้าพเจ้าอยากขอแสดงความขอบคุณต่อ ฯพณฯ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ความคิดริเริ่มอันมีวิสัยทัศน์กว้างไกลในการสร้างข้อตกลงหยุดยิงและสันติภาพระหว่างกัมพูชากับไทย ความคิดริเริ่มนี้คือความสำเร็จครั้งใหญ่ที่ช่วยชีวิตนับไม่ถ้วนทั้งในกัมพูชาและในไทย”
“อยากขอขอบคุณฯ พณฯ อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ผู้ช่วยจัดเตรียมสถานที่ประชุมและอำนวยความสะดวกให้กับการทำข้อตกลงหยุดยิงครั้งนี้ ข้อตกลงหยุดยิงและสันติภาพดังกล่าวกำลังก่อให้เกิดผลลัพธ์เชิงบวกและมีประสิทธิภาพ”
ขอแสดงความขอบคุณมิตรสหายชาวจีนสำหรับการสนับสนุน เช่นเดียวกับมิตรประเทศทั้งหลายที่ให้การรับรองข้อตกลงหยุดยิงนี้ และยังอยากขอขอบคุณประชาชนชาวกัมพูชาและชาวไทย ตลอดจนกองทัพของทั้งสองประเทศ สำหรับการสนับสนุนอย่างมั่นคงในกระบวนการสันติภาพนี้
ส่วนโดนัล ทรัมป์ โพสต์ใน TruthSocial แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของทรัมป์ว่า.. ผมเพิ่งพูดคุยกับรักษาการนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย และนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา
และผมรู้สึกยินดีที่จะประกาศว่า หลังจากมีการเข้ามาเกี่ยวข้องของผม ทั้งสองประเทศได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงและสันติภาพแล้ว ขอแสดงความยินดีกับทุกฝ่าย
การยุติสงครามครั้งนี้ได้ช่วยชีวิตผู้คนนับพัน ผมได้สั่งการให้ทีมเจรจาการค้าของผมเริ่มต้นการเจรจาอีกครั้ง
ภายในเวลาเพียงหกเดือน ผมได้ยุติสงครามหลายครั้ง และผมภูมิใจที่ได้เป็น ประธานาธิบดีแห่งสันติภาพ”
เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ เมื่อ ตระกูลฮุน 2 พ่อ-ลูก กลับมาใช้โลกโซเชียลในการสื่อสาร ในเวลาไล่เลี่ยกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ท่ามกลางทหารกัมพูชาได้ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงกับฝ่ายไทย
อ่านข่าว : กมธ.สาธารณสุข วุฒิสภา ประณามกัมพูชาโจมตีสถานพยาบาลและประชาชน
"ภูมิธรรม" เผยกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ประท้วงไปยัง "ปธ.อาเซียน-สหรัฐ-จีน"